ช่วงนี้งานที่บริษัทกำลังสนุก เพราะมีโปรเจกต์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย
หลายคนเลยต้องรับบทหนักหน่อย น้องจูเนียร์ในทีมบางคนต้องทำงานที่ไม่เคยทำมาก่อน ทั้งยังเป็นงานที่กดดันพอสมควร แต่ผมมองว่านี่คือโอกาส เพราะงานที่น้องได้ทำมี visibility สูง คือผู้บริหารมองเห็น ถ้าทำได้ดีเขาจะจำชื่อเราได้ ถ้าทำได้ไม่ดีเขาก็จะจำชื่อเราได้เหมือนกัน เข้าข่ายพลิกโอกาสให้เป็นวิกฤติ
ผมเลยฝากหัวหน้าเขาไปบอกน้องว่า “คิดแบบซีเนียร์แล้วจะได้เป็นซีเนียร์”
คืองานมารออยู่ตรงหน้าแล้ว ทำให้สุดฝีมือ แล้วทางที่เขาจะได้เติบโตในองค์กรนี้ก็จะเปิดกว้างขึ้น
ผมเคยเขียนบทความ “ข้อแนะนำสำหรับคนอยากเป็นซีเนียร์” เอาไว้ดังนี้
- ทำงานของตัวเองให้ดี (Do your job well)
- ทำให้มากกว่าที่ขอ (Go the extra mile)
- ทำโดยไม่ต้องให้ใครมาบอก (Be proactive)
- ขยันอย่างฉลาด (Work hard & work smart)
- เป็นคนไว้ใจได้ (Be reliable)
- กล้าแสดงความคิดเห็น (Speak up)
- พร้อมช่วยเหลือคนอื่นเสมอ (Be there when someone needs you)
- เป็นแบบอย่างที่ดี (Be a role model)
- ผูกพันกับองค์กร (Be an engaged employee)
- คิดเหมือนเราเป็นเจ้าของบริษัท (Think & act like the owner)
ถ้าทำได้ครบทุกข้อ มันจะเข้าข่ายหนังสือของ Cal Newport ที่ชื่อว่า “So good they can’t ignore you.” คือเก่งเสียจนผู้ใหญ่อยู่เฉยไม่ได้ ต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อตอบแทนพนักงานคนนั้น
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกองค์กรจะตอบแทนคนทำงานดี ไม่มีอะไรการันตีว่าโลกนี้จะแฟร์กับเรา
แต่สิ่งหนึ่งที่แฟร์เสมอ คือใครทำคนนั้นก็ได้ ทั้งทักษะและทัศนคติที่จะติดตัวไปตลอดชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว
คิดแบบซีเนียร์แล้ว(อาจ)จะได้เป็นซีเนียร์
ส่วนใครที่คิดแบบจูเนียร์ก็จะได้เป็นจูเนียร์ต่อไปครับ