กาลครั้งหนึ่ง หนังสือ Sapiens เคยขายไม่ออก

Sapiens: A Brief History of Humankind ที่เขียนโดย Yuval Harari เป็นหนังสือเปลี่ยนชีวิตแห่งปี 2016 สำหรับผม จนผมตัดสินใจเขียนถึง Sapiens ลงบล็อกนี้ทุกวันอาทิตย์ติดต่อกันถึง 20 ตอน

Sapiens ขายไปแล้วอย่างน้อย 20 ล้านเล่ม และถ้านับรวมหนังสือทุกเล่มของ Harari ก็ขายไปแล้วกว่า 40 ล้านเล่ม

แต่ทราบมั้ยครับว่า Sapiens นั้นเคยเป็นหนังสือที่ขายไม่ออก และเราเกือบจะไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้กันแล้วด้วยซ้ำ

Tim Ferriss ผู้เขียนหนังสือ 4-Hour Workweek และนักจัดพอดแคสต์ชื่อดัง เคยถาม Harari ว่า “ความล้มเหลวอันไหนที่กลายมาเป็นบันไดสู่ความสำเร็จของคุณในภายหลัง? มีความล้มเหลวที่คุณชอบมากที่สุดมั้ย?” – How has a failure, or apparent failure, set you up for later success? Do you have a favorite failure of yours?

นี่คือคำตอบของ Harari ครับ

“หลังจากที่ผมตีพิมพ์หนังสือ Sapiens ในภาษาฮีบรูจนเป็นหนังสือขายดีในอิสราเอลแล้ว ผมก็คิดว่าคงไม่ยากเกินไปนักที่จะตีพิมพ์เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษด้วย

ผมแปลหนังสือด้วยตัวเอง แล้วก็ส่งต้นฉบับไปให้หลายสำนักพิมพ์ได้พิจารณา แต่ทุกเจ้าปฏิเสธผมกลับมาแบบไม่มีเยื่อใย ผมยังเก็บจดหมายปฏิเสธจากสำนักพิมพ์ใหญ่เจ้าหนึ่งเอาไว้อยู่เลย เพราะข้อความในจดหมายนั้นเขาเขียนแรงเป็นพิเศษ

จากนั้นผมก็เลยพิมพ์เองและขายเอง (self-publish) บน Amazon แต่คุณภาพหนังสือนั้นแย่มาก หนังสือขายได้แค่ไม่กี่ร้อยเล่มเท่านั้น มันทำให้ผมหงุดหงิดอยู่นานเลยทีเดียว

แล้วผมจึงได้ข้อสรุปว่า การทำอะไรด้วยตัวคนเดียวนั้นไม่น่าจะเวิร์ค และแทนที่จะหาทางลัด ผมควรจะยอมไปทางอ้อมและพึ่งมืออาชีพมากกว่า

Itzik สามีของผม [Harari เป็น LGBTQ+] นั้นทำธุรกิจเก่งกว่าผมมาก เขาก็เลยเข้ามาดูแลโปรเจ็คนี้แทน เขาติดต่อเอเย่นต์หนังสือที่เก่งสุดยอดชื่อ Deborah Harris ซึ่งแนะนำให้เรารู้จักบ.ก.มือฉมังอย่าง Haim Watzman ซึ่งมาช่วยผมเขียนและเกลาต้นฉบับ จากการช่วยเหลือของเขาทั้งคู่ ทำให้เราได้ทำสัญญากับ Harvill Secker ซึ่งอยู่ในค่าย Random House และ Michal Shavit ที่เป็นบ.ก.ของที่นั่นก็ช่วยเกลา Sapiens ให้เนียนขึ้นไปอีก และเราก็จ้าง PR agency อิสระที่ดีที่สุดในอังกฤษอย่าง Riot Communications มาช่วยโปรโมตหนังสือให้เรา

ผมตั้งใจเอ่ยชื่อทุกคน เพราะถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากทีมงานมืออาชีพเหล่านี้ Sapiens ก็ไม่มีทางที่จะเป็นหนังสือขายดีไปทั่วโลกได้ ถ้าไม่มีพวกเขา Sapiens ก็จะเป็นเพียงเพชรที่ยังไม่ได้ถูกเจียรไนและคงไม่ต่างจากหนังสือชั้นดีอีกมากมายที่ไม่มีใครรู้จัก

จากความล้มเหลวในครั้งนั้น ทำให้ผมเข้าใจว่าตัวเองมีข้อจำกัดตรงไหน ทำให้ผมเข้าใจถึงความสำคัญของการขอความช่วยเหลือจากคนเก่งๆ แทนที่จะหาทางลัดสู่ความสำเร็จด้วยตัวเอง


ขอบคุณเนื้อหาจากหนังสือ Tribe of Mentors by Tim Ferriss

อ่านสรุป Sapiens ทั้ง 20 ตอน

ความล้มเหลวเริ่มจากข้างในก่อนเสมอ

20190723

Failure is a feeling long before it’s an actual result.
― Michelle Obama, Becoming

ไม่ว่าจะสอบตก ทำงานไม่ทัน น้ำหนักเกินไปเยอะ เหล่านี้คือผลลัพธ์

แต่ก่อนจะสอบตก ก่อนจะทำงานไม่ทัน ก่อนจะน้ำหนักเกิน มันมีการกระทำบางอย่าง หรือการไม่กระทำบางอย่างนำมาก่อน

การกระทำเกิดขึ้นจากเจตนา และส่วนใหญ่เจตนาก็เกิดจากอารมณ์หรือความรู้สึก

เมื่อรู้สึกขี้เกียจ ก็เลยเข้าเฟซ ก็เลยเม้าธ์มอย ก็เลยไม่เคยโฟกัสกับงานที่อยู่ตรงหน้าได้

เมื่อรู้สึกเบื่อๆ อยากๆ ก็เลยกินขนม ก็เลยกินชานม ก็เลยแคลอรี่เกิน

อารมณ์ที่ไม่ productive ย่อมนำไปสู่การกระทำที่ไม่ productive และผลลัพธ์ที่ได้ย่อมไม่ productive

ภาพสุดท้ายทางกายภาพจึงเป็นเพียงกระจกสะท้อนภาพที่อยู่ในใจเรา

ความล้มเหลวนั้นเริ่มขึ้นที่ใจก่อนเสมอ

และความสำเร็จก็เริ่มขึ้นที่ใจเช่นกัน

ถ้าอยากให้ภาพข้างนอกมันดีขึ้น เราก็ต้องเปลี่ยนภาพข้างในให้ดีขึ้นก่อนครับ