Senolytics ยาที่อาจทำให้มนุษย์อายุยืนขึ้นได้

20180930_senolytics

ผมมีเรื่องน่าสนใจจาก Quora.com มาฝากครับ

คำถาม: ความก้าวหน้าทางการแพทย์เรื่องใดที่ทำให้คุณตื่นเต้นที่สุด? (What advance in medical science are you most excited about?)

คำตอบโดย Franklin Veaux:

ตอนนี้เหรอ? Senolytics ไงล่ะ

เวลาที่เราแก่ตัว เซลล์ในร่างกายของเราจะหยุดทำงาน มันจะหยุดแบ่งตัวและไม่ทำหน้าที่ แถมมันยังหลั่งโปรตีนชนิดที่ทำลายเซลล์ข้างๆ อีกด้วย แต่เซลล์ที่เก่าแล้วมันก็จะยังคงอยู่อย่างนั้น (แทนที่จะตายไป) ร่างกายจึงไม่สามารถแทนที่ด้วยเซลล์ใหม่ๆ ได้

กระบวนการนี้เรียกว่า ความชราภาพของเซลล์ (cellular senescence) ซึ่งเป็นเหตุผลในหลายๆ ความเสื่อมถอยในร่างกายของเรา ไม่ว่าจะเป็นรอยเหี่ยวย่นหรือความเสื่อมของไขข้อกระดูก แม้กระทั่งโรคอัลไซเมอร์ก็อาจเป็นผลจากความชราภาพของเซลล์ด้วยเช่นกัน

Senolytics คือยาที่ทำลายเฉพาะเซลล์ที่ชราภาพแล้วโดยไม่มีผลกับเซลล์ที่ยังแข็งแรงตัวอื่นๆ ซึ่งนั่นหมายความว่าร่างกายของเราสามารถผลิตเซลล์คุณภาพมาทดแทนเซลล์ที่ไม่ทำงานแล้วได้

เคยมีการนำ senolytics ไปให้กับหนูทดลองที่อายุมากแล้ว ขนของมันดกขึ้น ผิวหนังก็ตึงขึ้นและกลับมามีความยืดหยุ่นอีกครั้ง กระดูกไขข้อก็แข็งแรงขึ้น และกล้ามเนื้อที่มันเคยสูญเสียไปจากความชราก็กลับคืนมาอีกครั้ง อายุขัยของมันยาวนานขึ้น โดยในบางการทดลองอายุมันยาวกว่าอายุเฉลี่ยถึงสี่เท่า

เราเพิ่งเริ่มทำการทดลองยา senolytics นี้ในมนุษย์ และถ้ามันเวิร์คจริงๆ มันอาจจะสำคัญพอๆ กับการค้นพบยาปฏิชีวนะเลยทีเดียว

—–

ขอบคุณเนื้อหาจาก Quora: Franklin Veaux’s answer to What advance in medical science are you most excited about?

นิทานหิวน้ำ

20180928_water

นานมาแล้วมีชายคนหนึ่งชื่อว่า “ทิฐิ” เขาเป็นคนที่มีนิสัยอวดดื้อถือดี เมื่อได้ลองเชื่อมั่นในสิ่งใดแล้ว ทิฐิคนนี้ก็จะยึดมั่นถือมั่นในสิ่งนั้นไม่เปลี่ยน และจะไม่ยอมรับฟังข้อคิดเห็นที่ผิดไปจากความเชื่อเดิมโดยเด็ดขาด

วันหนึ่ง ทิฐิคิดที่จะหยุดพักตัวเองจากการงาน แล้วออกเดินทางเพื่อเที่ยวชมโลกกว้าง เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้นเขาจึงจัดการฝากบ้านไว้กับญาติพี่น้อง แล้วเก็บสัมภาระออกเดินทางทันที

ทิฐิเดินทางไปยังที่ต่างๆ ชมนั่นแลนี่ และพูดคุยกับผู้คนมากมาย การท่องโลกกว้างของทิฐิน่าจะทำให้เขามีความรู้ดีๆ หรือเกิดทัศนคติใหม่ๆ ขึ้นมาบ้าง แต่เมื่อไรก็ตามที่มีคนกล่าวคำซึ่งผิดไปจากความรู้หรือความเชื่อมั่นเดิมของเขา ทิฐิก็จะรีบกล่าวแก่คนๆ นั้นทันทีว่า

“นั่นไม่ถูกเลยนะ ที่จริงแล้วมันต้องเป็นดังที่ข้ารู้มาต่างหาก”

การเดินทางไปทั่วโลกของเขาจึงแทบจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดเลย

กระทั่งวันหนึ่ง ทิฐิได้พลัดหลงเข้าไปในทะเลทรายอันแห้งแล้งและไร้ผู้คนสัญจร เขาหลงทางอยู่สามวันสามคืน จนกระทั่งอาหารและน้ำดื่มหมดลงในที่สุด

ทิฐิเดินต่อไปไม่ไหว ล้มตัวลงนอนบนผืนทรายอย่างคนสิ้นเรี่ยวแรง แต่ทิฐิยังไม่อยากตายตอนนี้ จึงรวบรวมพลังใจของตนเฝ้ากล่าวคำภาวนาขอความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเหลือเขาด้วย

“ข้าแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ได้โปรดเมตตาข้า ผู้ซึ่งไม่เคยเบียดเบียนใคร ขอทรงประทานน้ำมาให้ข้าได้รักษาชีวิตของตนเองไว้ แม้เพียงหนึ่งหยดก็ยังดี”

แล้วในตอนนั้นเอง ทิฐิก็เห็นชายแปลกหน้าชาวเยอรมันคนหนึ่งเดินตรงมาหาเขา ทิฐิดีใจสุดจะกล่าว แล้วรีบพูดขึ้นทันทีว่า

“โอ…ท่านผู้เป็นความหวังของข้า โปรดแบ่งน้ำของท่านให้ข้าดื่มด้วยเถิด”

ชายคนนั้นยื่นถุงหนังสีน้ำตาลในมือให้แก่ทิฐิ แล้วกล่าวว่า

“นี่คือ วาสซ่าร์ จงดื่มเสียสิ”

แต่ทิฐิไม่อยากได้วาสซ่าร์ เขาอยากได้น้ำ ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธที่จะรับถุงหนังสีน้ำตาลจากชายแปลกหน้าคนนั้น ชายคนนั้นจึงเดินจากไป

ทิฐิภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง คราวนี้มีชายชาวจีนคนหนึ่งเดินถือถุงหนังสีแดงเข้ามายื่นให้แก่ทิฐิ

“นี่คือ น้ำ ใช่หรือไม่” ทิฐิถามชายชาวจีน

“นี่คือ ซือจุ้ย จงดื่มเสียสิ” ชายชาวจีนตอบ

ทิฐิรู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้เขากระหายน้ำมากเหลือเกินแล้ว แต่ทำไมชายผู้นี้จึงนำซือจุ้ยมามอบให้แก่เขาเล่า ทิฐิจึงปฏิเสธถุงหนังสีแดงของชายชาวจีน ชายชาวจีนจึงเดินจากไป

ทิฐิเริ่มภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีก และครั้งนี้มีผู้หญิงชาวอินเดียคนหนึ่งมาปรากฏกายตรงหน้าของเขาแทบจะในทันที

“เธอผู้มีใจเมตตา ขอน้ำให้ข้าดื่มหน่อยเถิด” ทิฐิอ้อนวอนด้วยริมฝีปากอันแห้งผาก

“นี่คือ ปานี จงดื่มเสียสิ” หญิงชาวอินเดียกล่าวพร้อมกับยื่นถุงหนังสีเขียวให้กับทิฐิ แต่นั่นทำให้ทิฐิโกรธมาก เขารวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ยกแขนปัดถุงหนังสีเขียวให้พ้นหน้า แล้วพูดอย่างโกรธเคืองว่า

“ข้าไม่เอาของๆ เจ้า ข้าจะตายเพราะขาดน้ำอยู่แล้ว ข้าต้องการน้ำเท่านั้น!”

หญิงอินเดียเมื่อได้ฟังดังนั้นก็เดินจากไปอีกคน ทิฐิเฝ้าอ้อนวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีใครนำอะไรมายื่นให้เขาอีกแล้ว

จิตของทิฐิกำลังหลุดลอยออกจากร่างที่ใกล้แตกดับ แล้วในตอนนั้นเอง เสียงๆ หนึ่งก็ดังแว่วๆ ให้ได้ยินว่า

“ทิฐิ…คนถือดีเอ๋ย เราช่วยเจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เคยให้โอกาสตนเองเลย หากเจ้าเปิดใจให้กว้าง และยอมรับในข้อดีของสิ่งที่ไม่คุ้นเคยเสียบ้าง เจ้าก็คงรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในถุงหนังทั้งสามนั้น ต่างก็เป็นน้ำดื่มบริสุทธิ์ทั้งสิ้น”

เมื่อสิ้นเสียงแว่วนั้น ทิฐิก็สิ้นลมหายใจทันที

—–

ขอบคุณนิทานจากเว็บเพื่อนกัลยาณธรรม

ก่อนจะทำอะไรลงไป

20180927_futureself

ถามตัวเราในอนาคตด้วยว่าเค้าโอเครึเปล่า

เรามีวันนี้ได้ ก็เพราะสิ่งที่เราเคยทำเอาไว้ในอดีต

ซึ่งมีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี

เรื่องดีๆ ที่เราเคยทำก็เปรียบเหมือนของขวัญที่ตัวเราในอดีตมอบให้กับตัวเราในปัจจุบัน

ส่วนเรื่องที่เราเคยทำไม่ดี ก็คือขยะที่ทำให้เราต้องมานั่งสะสางในวันนี้

เวลาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ชวนให้ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ลองถามตัวเองว่า สิ่งที่เรากำลังจะทำอยู่นี้ มันจะเป็นของขวัญหรือเป็นขยะให้กับตัวเราในอนาคต

สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ของบางอย่างที่ดูเหมือนของขวัญในตอนนี้ อาจเป็นขยะในภายหลังก็ได้ เช่นดูซีรี่ส์จนเช้า ซื้อของที่ไม่จำเป็นด้วยเงินผ่อน หรือทำสิ่งที่สาแก่ใจแต่บั่นทอนความสัมพันธ์

จะทำอะไรก็ตาม อย่าให้ตัวเราในอนาคตกลับมาด่าเราได้นะครับ

วิธีแก้แค้นที่ดีที่สุด

20180925_revenge

คืออย่าเป็นอย่างเขา

“The best revenge is not to be like that.”
— Marcus Aurelius

เป็นการง่ายเหลือเกินที่เราจะเข้าสู่โหมดตาต่อตาฟันต่อฟัน

เมื่อเกิดโทสะ สมองจึงไม่ทำงาน สัญชาติญาณการเอาตัวรอดจึงครอบงำ

ซึ่งเป็นปฏิกิริยาของสัตว์โลกทั่วไป ไม่ต้องเป็นคนก็ได้

แต่เมื่อเราเกิดเป็นมนุษย์แล้ว เรียนมาดีแล้ว มีสิ่งที่เรียกว่าสติแล้ว ก็ควรจะใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ให้เต็มที่

การที่เขาทำไม่ดีกับเรา แสดงว่าลึกๆ เขากำลังมีความทุกข์ในใจอยู่

การ “เอาคืน” แบบเกลือจิ้มเกลือ รังแต่จะพาเราให้ตกอยู่ในบ่อเดียวกับเขาเท่านั้นเอง

คนที่ไม่เชื่อใจคนอื่น

20180925_trust.png

คือคนที่เชื่อใจไม่ได้

People who can’t trust, can’t be trusted.
-Anonymous

เพราะโลกภายนอกเป็นเพียงกระจกที่สะท้อนตัวตนภายในของเรา

ถ้าเราเห็นแต่คนหน้าบึ้งตึง ก็เป็นไปได้ว่าเรากำลังหน้าบึ้งอยู่

ถ้าเราเห็นแต่คนยิ้มแย้ม แสดงว่าในใจเราก็กำลังยิ้มอยู่เช่นกัน

ถ้าเราไม่อาจเชื่อใจใครได้ เห็นว่าคนอื่นๆ ต้องทำอย่างนั้น-อย่างนี้

นั่นแสดงว่าลึกๆ แล้วตัวเราเองก็มีโอกาสทำอย่างนั้น-อย่างนี้เช่นกัน