“Perfection is achieved not when there is nothing more to add, but when there is nothing left to take away”
ความสมบูรณ์แบบไม่ได้เกิดจากการที่เราไม่สามารถเพิ่มอะไรได้อีกแล้ว แต่เกิดจากการที่เราไม่สามารถเอาอะไรออกไปได้อีกแล้วต่างหาก
– Antoine de Saint Exupéry
Search Engine
สมัยเป็นนักเรียนวิศวะปี 4 สิ่งหนึ่งที่ผมขาดไม่ได้เลยคือ Search Engine ชื่อดังอย่าง Yahoo, Altavista และ Lycos เพราะต้องใช้มันในการหาข้อมูลสำหรับทำ senior project
หน้าตาของ Search Engine สมัยนั้นเป็นอย่างนี้ครับ
This slideshow requires JavaScript.
พอเข้าทำงานที่รอยเตอร์ปี 2003 เพื่อนที่ออฟฟิศจึงแนะนำให้รู้จัก Google
ความรู้สึกแรกที่ใช้งานคือทำไมหน้าตามันจืดจัง
และอีกเพียงไม่กี่ปีต่อมากูเกิ้ลก็ครองโลก
โทรศัพท์มือถือ
กลางปี 2007 ผมได้เป็นหัวหน้าทีมซัพพอร์ต และสิ่งหนึ่งที่บริษัทจะให้หัวหน้าทีมซัพพอร์ตทุกคนก็คือ Blackberry สมาร์ทโฟนที่เจ๋งและดังที่สุดในยุคนั้น เพราะขนาดเล็กพกพาง่าย แถมแป้นคียบอร์ดยังเป็นปุ่ม QWERTY ทำให้เขียนอีเมล์หากันได้อย่างรวดเร็ว สมัยนั้นใครๆ ก็ใช้ BB ส่งข้อความหากัน เพราะฟรีและรวดเร็วกว่า sms เยอะ
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง สตีฟ จ๊อบส์และแอปเปิ้ลก็ทำให้โลกตะลึงด้วยการสร้างโทรศัพท์มือถือที่มีแค่ปุ่มเดียว
แล้วอีกแค่สองปีต่อมาไอโฟนก็ครองโลก
เก็บบ้าน
ถ้าใครเคยได้เรียนรู้หลักการจัดบ้านแบบ KonMari มาแล้ว จะเข้าใจว่าสิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือคัดเก็บแต่ข้าวของที่ spark joy เท่านั้น ของชิ้นอื่นๆ ที่ไม่ได้สร้างความชื่นใจให้กับเราแล้ว จงกล่าวขอบคุณแล้วปล่อยให้เขาไปทำหน้าที่กับเจ้านายคนอื่นดีกว่า
วิธีแบบ KonMari จะทำให้เราเหลือหนังสือและเสื้อผ้าในตู้น้อยลงไปกว่าครึ่ง แต่ที่แปลกคือเรากลับรู้สึกว่าเรา “มีครบ” ยิ่งกว่าเดิม อาการที่รู้สึกว่าต้องซื้อของมาเพิ่มนั้นแทบจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง
วิธีการจัดบ้านแบบคอนมาริ (จริงๆ ต้องอ่านว่าคมมาริ) กลายเป็นกระแสโด่งดังไปถึงอเมริกาและยุโรป และผู้เขียนหนังสือเล่มนี้อย่าง คนโด มาริเอะ ก็ได้กลายเป็นผู้หญิงคนแรกจากญี่ปุ่นที่ถูกจัดอันดับโดยนิตยสาร Time ว่าเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
เขียนบล็อก anontawong.com
เวลาผมเขียนบล็อกแล้วมานั่งแก้ไข ส่วนใหญ่ผมจะไม่เขียนอะไรเพิ่ม เพราะเนื้อหาทุกอย่างอยู่ในนั้นหมดแล้ว
การแก้ไขจึงเน้นไปที่การตัดทอนเนื้อหาที่ซ้ำซ้อน ไม่ค่อยมีประโยชน์ หรือไม่สอดคล้องกับเนื้อหาหลักออก
การเขียนบทความให้กระชับ แต่เนื้อหาครบถ้วนและกินใจคนนั้นเป็นอะไรที่ยากที่สุดในโลก
การใช้ชีวิต
ในวัยยี่สิบกว่าๆ ผมได้ลองทำอะไรหลายอย่างมาก เช่นไปเรียน sound engineering จัดกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตยกับคนรุ่นใหม่ ทำวงดนตรีไปออดิชั่นตามผับ เตะบอลสัปดาห์ละสองครั้ง เล่นดนตรีออกงานของบริษัทเดือนเว้นเดือน เที่ยวผับศุกร์เว้นศุกร์ เป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันและการพบปะผู้คน
พอมาถึงวัยสามสิบกว่าๆ กิจกรรมเริ่มลดน้อยลง ยิ่งมีครอบครัวมีลูกแล้วด้วย วันๆ หนึ่งผมจึงทำได้แค่ไม่กี่อย่าง ตอนเช้าเขียนบล็อก กลางวันทำงาน ค่ำอยู่กับครอบครัวก็หมดวันแล้ว
ถ้าวัยยี่สิบกว่าๆ คือวัยแห่งการทดลองว่าชอบอะไร วัยสามสิบกว่าๆ คือวัยที่พอจะรู้แล้วว่าทางของเราคือทางไหน และต้องตัดอะไรออกไปบ้าง เพื่อจะทำกิจกรรมให้น้อยลง แต่ทำให้ “ลึก” ขึ้น
“Perfection is achieved not when there is nothing more to add, but when there is nothing left to take away”
อ่านประโยคนี้แล้วผมเห็นภาพผู้ชายสองคน
คนหนึ่งเป็นเศรษฐีพันล้าน มีบ้านหลังใหญ่ มีภรรยาสวย และมีลูกๆ ที่น่ารักสามคน มีลูกน้องและบริวารมากมาย กิจการของเขากำลังเติบโตและเขายังคงมุ่งมั่นที่จะขยายกิจการไปเรื่อยๆ
อีกคนเป็นนักบวช ไม่มีบ้านของตัวเอง ออกจาริกไปด้วยตัวคนเดียว นอกจากอัฐบริขารก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรอีกแล้วเช่นกัน
คุณคิดว่าชีวิตของใคร “สมบูรณ์แบบ”กว่ากันครับ?
ขอบคุณภาพจาก Internet Archive Wayback Machine: Yahoo, Altavista, Lycos, Google
Wikipedia: Blackberry, Flickr: iPhone
อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ https://anontawong.com/archives/
อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (ที่ปุ่มไลค์จะมี drop down menu ให้เลือกได้ว่าอยากจะให้มี notifications หรืออยากเห็นโพสต์จากเพจนี้อยู่ต้นๆ ฟีดรึเปล่าครับ)
ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่”