อย่าใช้ชีวิตเหมือนเพลงรักที่ไม่มีท่อนฮุค

ท่อนฮุคคือท่อนที่เพราะที่สุดในเพลง ทั้งในแง่ทำนองและเนื้อร้อง มันคือสิ่งที่จะปรากฎออกมาในห้วงคำนึงอยู่เสมอแม้ว่าเราจะไม่ได้ฟังเพลงนั้นมานานแค่ไหนแล้วก็ตาม

ชีวิตก็ควรเป็นเช่นนั้น เราควรจะเก็บสะสมท่อนฮุคในชีวิตเอาไว้

ท่อนฮุคช่วงเวลาที่เรารู้สึกแนบแน่นกับชีวิต อาจจะเป็นอารมณ์ที่หวือหวาตอนได้ไปเที่ยวที่สนุกๆ หรือเป็นช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ในยามที่ยลแสงตะวันพาดทับขอบฟ้าบนหุบเขา หรือเป็นโมเมนต์เล็กๆ ที่เราเห็นรอยยิ้มหรือได้ยินเสียงหัวเราะของคนที่เรารัก

การต้องอยู่กับบ้านตลอดช่วงโควิดที่ผ่านมา อาจจะทำให้เราพลาดโอกาสสะสมท่อนฮุคไปพอสมควร

ตอนนี้หลายคนได้ฉีดวัคซีนแล้ว แม้จะอีกนานกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ แต่เราก็ควรเริ่มวางแผนเพื่อจะหาท่อนฮุคมาเติมสีสันให้ชีวิตกันอีกครั้งนะครับ


ขอบคุณประกายความคิดจาก Hometown Cha-Cha-Cha

คำพูดที่ออกจากปากเอากลับคืนมาไม่ได้

สิ่งที่มาพร้อมกับอายุ คือความยับยั้งชั่งใจ

แม้จะยังไม่รู้ว่าต้องพูดยังไงถึงจะถูก แต่เราจะรู้ว่าพูดอะไรแล้วผิดแน่ๆ

ถ้าพูดออกมาแล้วมันมีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลง ก็อย่าพูดมันออกมาเลย

ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริงๆ แล้วยากมาก โดยเฉพาะตอนที่อีกฝ่ายพูดจาไม่เข้าหูจนเราคันปากยุบยิบ

ต้องเตือนตัวเองว่าสำคัญกว่าการเถียงชนะคือการรักษาความสัมพันธ์ เพราะชัยชนะเหนือเพื่อนรักหรือคนที่เรารักนั้นสร้างบาดแผลให้ทั้งสองฝ่าย

และแม้จะเตือนตัวเองไว้ดีแล้ว แต่บางครั้งเราก็ยังเผอเรอพูดคำบางคำที่ทำร้ายอยู่ดี

หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็ขอให้นึกถึงประโยคที่หัวหน้าฮงพูดกับหมอฟันใน Hometown Cha-Cha-Cha

น้ำหกจากแก้วไปแล้ว เราเอาน้ำกลับคืนใส่แก้วไม่ได้

แต่เราขอโทษที่ทำน้ำหกได้นะครับ

Empathy คือทักษะสำคัญที่สุดของผู้นำยุคนี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีบทความหนึ่งของ Forbes ที่มีเนื้อหาน่าสนใจ

บทความนี้มีชื่อว่า Empathy Is The Most Important Leadership Skill According To Research เขียนโดย Tracy Brower

ในบรรดาทักษะทั้งหมดที่ผู้นำจำเป็นต้องมีเพื่อสร้างทีมงานที่พนักงานรู้สึก engaged มีความสุข และปลดปล่อยศักยภาพได้อย่างเต็มที่นั้น empathy หรือความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้อื่นคือทักษะที่สำคัญที่สุด

เหตุผลที่ empathy สำคัญกว่าที่ผ่านๆ มา เพราะ COVID-19 ส่งผลให้สภาพจิตใจของคนทำงานนั้นย่ำแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด

จากการเก็บข้อมูลจากทั่วโลกของ Qualtrics พบว่า 42% ของผู้คนรู้สึกว่าสุขภาพจิตแย่ลง

ถ้าเจาะให้ลึกไปกว่านั้น 67% ตอบว่ารู้สึกว่าเครียดขึ้น 57% มีความกังวลใจมากกว่าเดิม 54% รู้สึกหมดแรงทางอารมณ์ (emotionally exhausted) และ 28% รู้สึกว่าไม่สามารถโฟกัสกับงานได้

อีกงานวิจัยหนึ่งก็พบว่า ความเครียดจากงานทำให้นอนหลับไม่สนิท และมักทำให้เผลอปล่อยพลังงานลบใส่คนอื่นโดยเฉพาะกับแฟนหรือคู่สมรส

จากการศึกษาของ Carleton University ก็พบว่า เมื่อพนักงานต้องเจอกับ “ความป่าเถื่อน” (incivility) จากเพื่อนร่วมงาน ก็จะส่งผลให้ตัวเองทำหน้าที่พ่อแม่ได้แย่ลง ส่วนงานวิจัยชิ้นใหม่ของ Georgetown University ก็พบว่าความเถื่อนในที่ทำงานนั้นกำลังขยายวงกว้างและส่งผลให้พนักงานไม่ค่อยร่วมมือกัน

เมื่อเราต้องลำบากกับสภาวะ burnout และหาความสุขจากการทำงานไม่ค่อยได้ การมีเจ้านายที่มี empathy คือแสงสว่างสำหรับคนทำงานโดยแท้ทรู

ในงานวิจัยล่าสุดของ Catalyst ที่สำรวจพนักงาน 889 คนได้พบความแตกต่างระหว่างองค์กรที่ผู้นำมีหรือไม่มี empathy ดังนี้

หัวข้อ / องค์กรที่ผู้นำมี empathy / องค์กรที่ผู้นำไม่มี empathy

Engagement ความรู้สึกผูกพันกับองค์กร / 76% / 32%

Ability to be Innovative ความสามารถที่จะคิดใหม่ทำใหม่ / 61% / 13%

Retention ความรู้สึกอยากอยู่กับองค์กรต่อไป / 57% / 14%

Inclusivity ความรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร / 50% / 17%

Work-Life Navigation ความสามารถในการจัดสรรเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว / 86% / 60%

Empathy เป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวเรามาตั้งแต่เกิด งานวิจัยของ Lund University นั้นพบว่าเด็กอายุแค่ 2 ขวบก็รู้แล้วว่าคนอื่นๆ ไม่ได้คิดและรู้สึกเหมือนตัวเอง

Empathy ของผู้นำนั้นมีได้สองแบบ:

Cognitive Empathy รู้ว่าคนอื่นคิดยังไง

Emotional Empathy รู้ว่าคนอื่นรู้สึกยังไง

แต่ผู้นำที่ดีต้องไม่ใช่แค่รู้ว่าคนอื่นคิดหรือรู้สึกยังไง เขาต้องแสดงออกด้วยว่าเป็นห่วงเป็นใยและถามลูกทีมกันตรงๆ พร้อมทั้งตั้งอกตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกน้องจะพูดด้วย

เราสามารถเป็นหัวหน้าที่มี empathy โดยไม่จำเป็นต้องเรียนด้านจิตวิทยามาก่อน เพียงแค่คุยกับลูกทีมบ่อยๆ และหัดสังเกตสังกา และหากหัวหน้ารู้ว่าองค์กรที่อยู่นั้นมีเครื่องมืออะไรที่จะช่วยซัพพอร์ตสภาพจิตใจของพนักงานได้บ้างก็ยิ่งเป็นเรื่องดี

การเป็นผู้นำที่มี empathy จึงไม่ใช่แค่เรื่องนโยบายหรือการเล่นวาทะ แต่มันต้องแสดงออกมาจากใจและลงมือทำจนคนเชื่อว่าเราแคร์

เหมือนคำฝรั่งที่บอกว่า people may not remember what you say, but they will remember how you made them feel.

คนคนหนึ่งอาจจะลืมสิ่งที่เราพูด แต่เขาจะไม่มีวันลืมว่าเราเคยทำให้เขารู้สึกอย่างไรครับ


ขอบคุณข้อมูลจาก Forbes: Empathy Is The Most Important Leadership Skill According To Research by Tracy Brower