รับสมัคร Writing Workshop รุ่นที่ 3

20190329_writing3

(UPDATED: 29 March 2019)

ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลไปแค่ไหน แต่ “การเขียน” ก็ยังคงเป็นวิธีสื่อสารที่ไม่เคยล้าสมัย เพราะมันช่วยให้เราสื่อสารกับคนหมู่มากได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเสียเงินเลย

แค่มีแล็ปท็อปและอินเตอร์เน็ตก็เพียงพอแล้วที่จะส่งไอเดียของในหัวเราเข้าไปอยู่ในหัวของคนนับร้อยพัน

ผมจึงอยากเปิดคอร์ส Writing Workshop เพื่อแบ่งปันสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการทำงานด้าน Communication มา 7 ปี และเขียนบล็อกมา 4 ปีครับ

คอร์สนี้เหมาะกับ

  • คนที่อยากเขียนบล็อกหรือบทความ
  • คนที่อยากเปิดเพจ
  • คนที่อยากเขียนให้ดีขึ้น

คอร์สนี้ไม่ได้สอนวิธีการทำเงินจากการเขียน แต่จะมอบ “กล่องเครื่องมือ” ที่จะช่วยให้คุณเขียนได้เร็วขึ้น กระชับขึ้น มีชั้นเชิงมากขึ้น และสร้าง impact ได้มากกว่าเดิม

เมื่อคุณฝึกฝนจนเก่งและไม่อายที่จะโชว์ผลงานให้โลกเห็น โอกาสจะวิ่งเข้ามาหาคุณเอง

เนื้อหา

  • Start with Why – เขียนไปทำไม?
  • Theory & Principles – ทฤษฎีและหลักการ
  • Writing GPS – ตัวนำทางการเขียน
  • Tips & Tricks – เทคนิคต่างๆ
  • Write, Write, Write – เขียน เขียน เขียน
  • Homework – เรียนเสร็จแล้วมีการบ้านต่อ

วิทยากร: “รุตม์” อานนทวงศ์ มฤคพิทักษ์

วัน/เวลา: เสาร์ที่ 20 เมษายน 2562 9:00-12:00 (3 ชั่วโมง)

รูปแบบการสอน: ฟัง 30 นาที, เขียน 90 นาที, พูดคุย 45 นาที, เบรค 15 นาที

สิ่งที่ผู้เรียนต้องนำมา: แล็ปท็อปหรือ Tablet ที่สามารถใช้เขียนได้อย่างรวดเร็ว

สถานที่: Sook Station สุขุมวิท 101/2 (200 เมตรจาก BTS อุดมสุข)

ราคา: 1500 บาท

จำนวน: 12-15 คน

สมัครได้ที่https://goo.gl/forms/W7NaC0wK2sEMh5DE2

หากมีข้อสงสัย Inbox มาคุยกันได้ที่เพจ Anontawong’s Musings ครับ

Time Management: First Class

20170708_timemanagement

เมื่อวันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน ผมจัดเวิร์คช็อป Time Management สำหรับสาธารณชนเป็นครั้งแรก

ตอนที่เปิดรับสมัครสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผมก็ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ว่าจะมีคนสมัครมามั้ย เพราะแม้ผมจะเชื่อว่าคุ้มค่า แต่ค่าลงทะเบียนก็ถือเป็นเงินที่ไม่น้อยอยู่ ไหนจะต้องเสียเวลาเดินทางอีก

แต่แล้วก็มีคนสมัครเต็มภายในหนึ่งวัน และภายในสามวันทุกคนก็โอนเงินมากันหมด ทำให้ผมรู้แล้วว่าคราวนี้ต้องตั้งใจและใส่ใจมากเป็นพิเศษ เพราะที่ผ่านมาผมเคยสอนแต่ในบริษัท ซึ่งเรียนฟรี และบางคนก็ถูกบังคับให้มาเรียน แต่คราวนี้ทุกคนจ่ายเงินเอง และสมัครใจที่จะมาเรียนทั้งนั้น

ผมเลือกสถานที่เป็น THINK SOciety ซึ่งเป็น co-working space ที่อยู่ซอยสุขุมวิท 101/2 และใกล้กับรถไฟฟ้าอุดมสุขมาก คุณพัมเจ้าของบอกว่าเดี๋ยวจะจัดที่นั่งให้เป็น Bean bag จะได้บรรยากาศสบายๆ

คลาสเริ่ม 9.30 ผมกับแฟนไปถึงสถานที่ตอน 8.30 แล้วก็เริ่มจัดที่ทาง bean bag ที่เตรียมไว้ยังไม่พอกับจำนวนคนเลยต้องมีการจัดสรรที่ใหม่เล็กน้อย ตอนเซ็ทอัพคอมพิวเตอร์ก็มีติดๆ ขัดๆ นิดหน่อยจนคนเริ่มทยอยกันมาแล้วผมก็ยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ได้เริ่มตรงเวลา โดยมีคนมาทั้งหมด 14 คน

นักเรียนกลุ่มนี้มีความหลากหลายมาก บางคนเป็นตำรวจ บางคนเป็นตากล้องอิสระ บางคนเป็นหนุ่มแบงค์ บางคนทำสตาร์ทอัพ บางคนเป็นที่ปรึกษา บางคนทำบัญชี บางคนกำลังจะไปเรียนต่อเมืองนอก และก็มีหลายคนที่ทำงานด้าน IT

ต่างคนต่างที่มา แต่ล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือการใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด

แม้จะกินไปฟังไป แต่ก็สังเกตได้เลยว่าแต่ละคนตั้งใจกันมาก กิจกรรมกลุ่มก็คุยกันอย่างกับรู้จักกันมานาน แถมยังออกมาพรีเซนต์หน้าห้องกันอย่างสนุกสนาน

เป็น 3 ชั่วโมงที่อัดแน่นไปด้วยสาระและบันเทิง สอนเสร็จแล้วผมรู้สึกมีแรงมากกว่าเดิมอีก

จากนี้ไปอาจจะมีเวิร์คช็อป Time Management อีกหลายครั้ง แต่ First Class นั้นมีได้แค่ครั้งเดียว

ขอขอบคุณทั้ง 14 คนที่ทำให้ “ครั้งแรก” ของผมเป็นประสบการณ์อันน่าประทับใจจริงๆ ครับ


 

Time Management First Class is

1. ตั้ง
2. วิน
3. ปิง
4. จู
5. ดี
6. แท็ก
7. เอ๋
8. แพท
9. เจ
10.จิม
11.กอล์ฟ
12.โบ
13.ติ๋ง
14.อ้อม

 

บางคำตอบจากการประเมินหลังจบคลาส

3 เรื่องที่จะนำไปใช้หลังคลาสนี้

– paradigm shift , juggling ,time blocking
– เรื่องหลักการ / ให้ปล่อย ram สมอง/ tool ต่างๆ
– จัดการตัวเอง/toolมีมากมายเลือกและ adapt/focusที่หินก้อนใหญ่
– 4 quadrant activities, paradigm, time boxing
– Zen to done, Time boxing, Pomodoro
– การปรับความคิด การดึงเอาเทคนิคต่างๆ มาใช้ร่วมกัน ได้พูดคุยและรู้จักเพื่อนใหม่
– Paradigm, กฎ 2 นาที, Download ข้อมูล”
= Juggler บอล 5 ลูก
– The way that instructor integrates brain dump, time boxing, and zen to done concept.

 

สิ่งที่ชอบที่สุดเกี่ยวกับคลาสนี้

– มีตัวอย่างให้ดูเยอะ เห็นภาพชัด นำไปใช้ได้จริง
– คอร์สกลุ่มเล็กดีค่ะ ชอบๆ
– เข้าใจง่าย ทำได้จริง!
– สถานที่ดีมากครับ
– รู้สึกเหมือนโดนหมัดที่เข้าเป้าครับ เข้าใจง่ายแต่โดนใจครับ
– ได้อ่านบล็อก ก็ได้ประโยชน์ มาเข้าคลาส ก็ยิ่งชัดเจน เห็นภาพ ขอบคุณที่ได้รู้จักกัน
– ปกติเป็นคนที่ชอบอ่านและคอยหาเครื่องมือเทคนิคเรื่อง self management อยู่แล้ว เลยสนใจคอร์สนี้มาก และก็ไม่ผิดหวัง คุณรุตม์สามารถรวบรวมและนำมาถ่ายทอดให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และทำให้ตัวเองที่ในช่วงนี้รู้สึกว่าชีวิตวุ่นวายจัดการไม่ค่อยได้ มีแรงบันดาลใจที่จะกลับไป manage ตัวเองให้ดีอีกครั้ง ขอบคุณมากค่ะ
– กิจกรรมดีมากๆ
– มาเรียนคอร์สนี้แล้วได้ทั้งหลักการ เทคนิค และ workshop พูดคุยกับพี่ๆ เพื่อนๆ ที่มาจากต่างที่ มีประสบการณ์ต่างกัน ได้มา share กัน และสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง จะลองเอาที่คุณรุตม์แนะนำไปปรับเพื่อพัฒนาตัวเองเกี่ยวกับ Time Management นะคะ
– คำว่า time management มันฟังเหมือนจะเป็น common sense ที่ทำทุกคนควรทำได้ ไม่ขี้เกียจก็ทำได้ มีสติโฟกัสก็จะสามารถทำได้ แต่ผมว่าแท้จริงแล้วมันไม่ใช่ซะทีเดียว คนที่เจอปัญหามันไม่ใช่แค่เวลาอย่างเดียว มันอาจรวมถึง manage expectation ด้วย เทคนิคต่างๆมันทำให้เราเอาไปปรับใช้ได้แล้วมีความสบายใจมากขึ้น
– เชื่อว่าtechniqueที่เรียนรู้ในวันนี้จะทำให้productivityเพิ่มขึ้นค่ะ

 

เรื่องที่ควรปรับปรุง

– ชอบทุกอย่าง แต่อาจจะเวลาน้อยไปหน่อย
– เปิดคอร์สอื่นๆ เพิ่ม 55+
– สถานที่ค่ะ มีเสียงเครื่องบดกาแฟ (รุตม์: คราวหน้าจะหาห้องที่ไม่มีเสียงรบกวนครับ)
– อยากได้ยินตัวอย่าง หรือ case study อื่นเพิ่มอีกสักหน่อย (รุตม์: จะไปหามาเพิ่มเติมนะครับ)
– เรื่องสถานที่อาจจะคับแคบไปหน่อยค่ะ แต่ข้อดีก็คือทำให้ได้อารมณ์แบบบ้านๆ ไม่เป็นทางการดีค่ะ (รุตม์: จะลองเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอที่ๆ ลงตัวที่สุดครับ)
– อาจจะมีคอร์ส advance สำหรับคนที่รู้จักพื้นฐานมาบ้างแล้วค่ะ (รุตม์: ที่สอนนี่ก็แทบจะหมดเปลือกแล้วนะครับ!)
– เวลาพูดอย่าเกาหูได้ไหม (รุตม์: ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนเลย คราวหน้าเลิกแน่นอนครับ!)
– พูดเร็วไปครับ คนที่รู้มาน้อยจะไม่ค่อยเข้าใจ (รุตม์: เรื่องพูดเร็วยังแก้ไม่หายครับ แต่เชื่อว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ)
– มีความมั่นใจเพิ่มอีกหน่อยก็ดี (รุตม์: อาจจะประหม่าตรงที่ไม่เคยมีนักเรียนแบบนี้มาก่อนครับ) 
– เพิ่มเวลาได้ก็ดีครับ ไม่ก็ส่งข้อมูลคร่าวๆ มาก่อนก็ได้ครับ (รุตม์: คราวหน้าจะเผื่อเวลาให้มากกว่านี้ครับ)
– พี่รุตม์ตัวจริงดูแตกต่างจากในบล็อกมาก คาแรคเตอร์ในบล็อคอาจจะไม่ค่อยถูกใจผมเท่าไหร่เพราะดูเข้าถึงยากเพราะด้วยการนำเสนอในรูปแบบบทความ หรือนิทานซึ่งแอบดูแปลก แต่พอมาเจอตัวจริงแล้วเข้าถึงได้มากกว่า เชื่อถือได้มากกว่า ผมว่าถ่ายทอดคาแรคเตอร์ลงไปในบล็อกได้มากกว่านี้ครับ (รุตม์: น่าสนใจมากครับ จะลองปรับดูนะครับ)

ถ้าเพื่อนที่มีปัญหาเรื่อง Time Management มาถามว่าเขาควรลงคอร์สนี้หรือไม่ จะตอบว่า?

ควร: 14
ไม่ควร: 0

เต็ม 10 ให้กี่คะแนน?

8.9 (คะแนนเฉลี่ย)

 

IMG_2612

IMG_2590

IMG_2594

IMG_2606

IMG_2622

IMG_2623

IMG_2639

IMG_2644

IMG_2649

IMG_2647

IMG_2660