ออกกำลังกายวันนี้ ทำงานดีขึ้นวันพรุ่งนี้

ผมเพิ่งได้อ่านบทความของ Harvard Business Review คิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่อยากออกกำลังกายแต่ยังทำได้ไม่สม่ำเสมอครับ

ตามสถิติ โลกนี้มีผู้ใหญ่ประมาณ 1.4 พันล้านคนที่เคลื่อนไหวร่างกายไม่เพียงพอ (physical inactivity) ยิ่งตอนนี้หลายคนทำงานที่บ้าน โอกาสได้ขยับเขยื้อนร่างกายยิ่งน้อยลงไปอีก

ว่ากันว่าการออกกำลังกายจะช่วยให้ทำงานดีขึ้น หลายคนอาจจะเคยมีลูกฮึด ตื่นมาวิ่งแต่เช้า แล้วกลับพบว่าระหว่างวันง่วงมาก ทำงานไม่ค่อยไหว ก็เลยรู้สึกเข็ด

ความจริงก็คือ การออกกำลังกายมักจะไม่ได้ส่งผลต่อการทำงานในวันนี้ แต่ส่งผลต่อการทำงานในวันพรุ่งนี้มากกว่า

มีปัจจัยหลัก 3 ข้อที่การออกกำลังกายช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้นในวันถัดมา

  1. เราจะนอนหลับอย่างมีคุณภาพ เพราะการเคลื่อนไหวจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างโปรตีนชนิดหนึ่งที่ช่วยให้เราหลับได้ลึก
  2. เราจะมี vigor หรือความรู้สึกมีชีวิตชีวากว่าเดิม
  3. เราจะมีสมาธิกับการทำงานมากขึ้น

งานวิจัยพบว่า การได้ออกกำลังกายเพียงวันละ 20 นาที ก็มากพอที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในวันถัดไปแล้ว

ใครที่ไม่อาจหาเวลา 20 นาทีออกกำลังกาย หรืออุปกรณ์ไม่พร้อม ผมแนะนำให้ลองเสิร์ช 7-minute scientific workout ซึ่งเป็นท่าออกกำลังกาย 12 ท่าที่ทำที่บ้านได้ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรนอกจากเก้าอี้ และใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 9 นาที (ออกกำลังกาย 7 นาที พัก 2 นาที)

ที่ผ่านมา บางคนไม่ค่อยออกกำลังกายเพราะเอาเวลาไปทุ่มเทกับการทำงาน

แต่ยิ่งถ้าเราเป็นคนชอบทำงาน การออกกำลังกายคือหนึ่งในวิธีที่เพิ่มพูน productivity ได้ดีที่สุดครับ


ขอบคุณข้อมูลจาก Harvard Business Review: To Improve Your Work Performance, Get Some Exercise

ทำไมการออกกำลังกายมักไม่ช่วยลดน้ำหนัก

ทำไมการออกกำลังกายมักไม่ช่วยลดน้ำหนัก

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินมาว่า การออกกำลังกายไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลดเท่าไหร่ สิ่งที่ช่วยได้มากกว่าคือการลดอาหาร

ผมเองก็เชื่อเช่นนี้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่เคยหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น

จนได้มาเจอคำตอบหนึ่งใน Quora ที่รู้สึกว่าเมคเซนส์และน่าจะเป็นประโยชน์ เลยขอนำมาถอดความให้อ่านกันนะครับ

“ร่างกายเรานั้นถูกวิวัฒนาการให้ออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน เพราะในสมัยดึกดำบรรพ์ บรรพบุรุษของเราล่าสัตว์ด้วยการวิ่งไล่มันไปเรื่อยๆ [ซึ่งบางทีก็กินเวลาหลายชั่วโมง] จนสัตว์ตัวนั้นหมดแรงและวิ่งหนีต่อไปไม่ไหว

เนื่องจากร่างกายมนุษย์คุ้นชินกับการออกกำลังอยู่แล้ว ร่างกายของเราจึงเป็น “รุ่นประหยัดพลังงาน” แคลอรีที่เราเบิร์นจากการวิ่ง 30 นาทีนั้นสามารถถูกทดแทนได้ด้วยโดนัทเพียงชิ้นเดียว

แน่นอนว่าทุกอย่างมีข้อยกเว้น มีคนบางกลุ่มที่ออกกำลังเยอะเสียจนน้ำหนักลด คนกลุ่มนี้มีชื่อว่านักกีฬาและทหาร

พวกเราส่วนใหญ่ไม่ได้ซ้อมหนักเท่านักกีฬา และถึงอย่างแม้แต่นักกีฬาก็ยังต้องระวังอาหารที่ตัวเองกิน

อีกสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ เวลาออกกำลัง ร่างกายจะส่งสัญญาณไปเตือนสมองว่า

“โปรดระวัง! เราสังเกตเห็นการใช้พลังงานที่สูงขึ้นผิดปกติ จงบริโภคอาหารให้มากขึ้น!”

คนออกกำลังกายบางคนเลยกินเข้าไปมากกว่าที่เอาออกเสียอีก

วิธีลดน้ำหนักที่ดีที่สุดคือการกินให้น้อยลง ส่วนถ้าน้ำหนักจะลดจากการออกกำลังกายด้วยก็ให้ถือว่าเป็นโบนัส”


ขอบคุณเนื้อหาจาก Quora: Ke’Aun’s Answer to Why is diet more important than exercise for weight loss? Is it really?