นิทานโจรกระจอก

20200729c

วันนี้วันศุกร์ มาฟังนิทานกันนะครับ

กลางดึก ท่านสืออูได้ยินเสียงก๊อกแก๊กดังอยู่ในห้อง จึงร้องถามขึ้นมา

“สว่างแล้วรึ”

“ยัง เพิ่งจะเที่ยงคืน”

“เจ้าเป็นใครกันแน่”

“หัวขโมย”

“อ้อ…ขโมยดอกหรือ เจ้าขโมยมากี่ครั้งแล้ว”

“นับครั้งไม่ถ้วน”

“ทุกครั้งที่ขโมย มีความสุขได้นานเท่าไหร่”

“แล้วแต่มูลค่าของของที่ขโมยมาได้”

“ครั้งที่มีความสุขที่สุด สุขได้นานแค่ไหน”

“ก็ไม่กี่วัน หลังจากนั้นก็ไม่มีความสุขอีกแล้ว”

“ที่แท้ก็โจรกระจอก ทำไมไม่ขโมยเยอะๆ ครั้งใหญ่ๆ สักครั้งล่ะ”

“ที่แท้ก็พวกเดียวกันดอกหรือ เจ้าขโมยมากี่ครั้งแล้ว”

“ครั้งเดียว”

“แค่ครั้งเดียวดอกหรือ”

“ใช่ แค่ครั้งเดียว แต่มีความสุขเสพไม่สิ้นทั้งชีวิต”

“เจ้าขโมยอะไรมา สอนข้าได้ไหม”

“ไอ้นี่ไง เจ้ารู้จักไหม” ท่านสืออูชี้ไปที่หัวของตนเอง

—–

ขอบคุณนิทานจากเพจ นิทานเซน

การใช้เงิน 4 แบบ

20200729b

ใช้เงินตัวเองซื้อของให้ตัวเอง

ใช้เงินตัวเองซื้อของให้คนอื่น

ใช้เงินคนอื่นซื้อของให้ตัวเอง

ใช้เงินคนอื่นซื้อของให้คนอื่น

ใช้เงินตัวเองซื้อของให้ตัวเอง อันนี้ตรงไปตรงมา ทำกันประจำ เราจะซื้อของที่เราอยากได้ และเป็นของที่เราคิดมาแล้วว่าคุ้มค่า

ใช้เงินตัวเองซื้อของให้คนอื่น เช่นการซื้อของขวัญวันเกิด ตรงนี้เราก็จะมีความใส่ใจเช่นกัน เราจะทำการบ้าน จะไปค้นหาว่าเขาอยากได้อะไร ของที่เราซื้อให้ก็เป็นของคุณภาพดี บางทีดีกว่าของที่เขาจะซื้อให้ตัวเองด้วยซ้ำไป

ใช้เงินคนอื่นซื้อของให้ตัวเอง เช่นผู้บริหารใช้เงินบริษ้ท อันนี้เราจะกล้าใช้จ่ายเต็มที่ ตราบใดที่ยังอยู่ในงบ อาจจะมีความสุรุ่ยสุร่ายอยู่บ้างเพราะยังไงมันก็ไม่ใช่เงินเราเอง แต่อย่างน้อยเราก็ยังต้องการของที่มีคุณภาพและคุ้มค่า

ใช้เงินคนอื่นซื้อของให้คนอื่น เช่นรัฐบาลใช้เงินภาษีของประชาชน ซึ่งเปราะบางมาก มีแนวโน้มที่จะใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายเพื่อซื้อของที่เขาไม่ได้อยากได้ แถมยังเป็นของคุณภาพต่ำและไม่ค่อยคุ้มค่าอีกด้วย

การใช้เงินสี่แบบก็จะมีธรรมชาติเช่นนี้ และใช้อธิบายปรากฎการณ์ที่เราเห็นกับตัวเอง คนรอบตัว และคนในสังคมได้เป็นอย่างดีครับ

เสียงในหัวไม่ใช่ตัวเรา

20200729

ดังนั้นอย่าไปฟังมันมาก

ให้ถือว่ามันเป็นเพื่อนสนิทที่เรารู้จักดีมาตั้งแต่วัยเยาว์

เพื่อนคนนี้คุ้มดีคุ้มร้าย เหมือนเทวดากับซาตานตัวน้อยที่เกาะไหล่ซ้ายและไหล่ขวา เราแยกแยะได้อยู่แล้วว่าตัวไหนดี ตัวไหนร้าย เพื่อพูดดีก็ฟังเอาไว้ เมื่อพูดไม่ดีเราก็รับฟังได้แต่ไม่ต้องไปเออออ

ความทุกข์เกิดขึ้นเพราะเราดันไปเชื่อฟังเสียงในหัวของมากเกินไป ดันไปเผลอยึดว่ามันคือเสียงของเราเอง

เมื่อเราตระหนักได้ว่า เสียงในหัวก็คนหนึ่ง คนที่ได้ยินเสียงก็อีกคนหนึ่ง เราจะเป็นอิสระจากมันได้มากขึ้นครับ