อยากทำจริงรึเปล่า

20150301_WayExcuse

If you really want to do something, you’ll find a way.

If you don’t, you’ll find an excuse.

ถ้าคุณอยากจะทำมันจริงๆ คุณก็จะหาทางจนได้
ถ้าคุณไม่ได้อยากทำมันเท่าไหร่ คุณก็จะหาข้ออ้างจนได้
– จิม รอห์น

เคยเป็นตัวตั้งตัวตีนัดเพื่อนทานข้าว หรือนัดกันไปเที่ยวมั้ยครับ?

บางคนจะตอบว่า “โอเค ยังว่างอยู่ เดี๋ยวล็อควันไว้เลยนะ”

ขณะที่บางคนจะตอบว่า “เดี๋ยวขอดูใกล้ๆ ก่อนนะว่าติดอะไรรึเปล่า”

คำตอบแบบหลังนี่บอกอะไรเราได้หลายอย่างเลย

1. วันที่เราเสนอไปนั้น จริงๆ แล้วเขายังว่างอยู่
2. แต่ต้องแทงกั๊กไว้ก่อน เผื่อจะเจออะไรที่สำคัญมากกว่า
3. แสดงว่าเขาให้คุณค่ากับการไปเที่ยวกับเราน้อยกว่ากิจกรรมอื่นๆ

ซึ่งถ้าเจอพวก “ขอดูก่อนนะว่าติดอะไรรึเปล่า” เยอะๆ โอกาสที่นัดของเราจะล่มย่อมมีสูงมาก และทำให้คนที่เป็นตัวตั้งตัวตีหมดกำลังใจเอาง่ายๆ

—–

ตอนต้นปี คุณได้ตั้งเป้าหมายสำหรับปีนี้ หรือที่เรียกว่า New Year’s Resolutions มั้ยครับ?

จะลดน้ำหนัก
จะเขียนบล็อก
จะหารายได้เสริม
จะเรียนดนตรี
จะเล่นโยคะ

ผ่านไปสองเดือน Resolutions ของคุณตอนนี้ยังหนักแน่นอยู่รึเปล่า?

ถ้ามันละลายหายไปเกือบหมดแล้ว มันเกิดจากอะไร?

เราอาจจะบอกว่าเราต้องเจอ “อุปสรรค” มากมาย

กลับบ้านดึก เพื่อนชวนกินบุฟเฟ่ต์ ไม่มีเวลา ครอบครัวไม่สนับสนุน เจ้านายสั่งงานเยอะ

เหล่านี้คือ “เหตุผล” จริงๆ หรือ?

หรือเพราะมันมีเหตุผลที่ลึกซึ้งไปกว่านั้น

นั่นคือ จริงๆ แล้วเราไม่ได้อยากทำมันขนาดนั้นหรอก เพราะอยู่อย่างเก่าก็สบายดี

ถ้าเราคิดจะทำมันจริงๆ อุปสรรคที่เรากล่าวอ้าง ก็ไม่ใช่เรื่องเหลือวิสัยที่เราจะแก้ได้ใช่มั้ย?

เพราะชีวิตที่ผ่านมาเราเจอเคยอุปสรรคที่หนักหนากว่านี้ตั้งเยอะ แต่เราก็ยังแก้ไขหรือก้าวข้ามมันมาได้

สิ่งเดียวที่ผมพอจะแนะนำได้ก็คือ ถามตัวเองว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอะไร

แล้วเลือกแค่หนึ่งอย่างที่สำคัญกับเราที่สุดในตอนนี้

และเริ่มทำมันซะตั้งแต่วันนี้

แล้วทำให้ได้ทุกวัน แม้จะทำมันได้แค่วันละสองนาทีก็ตาม

แล้วคุณจะเมามัน

เพราะการ find a way สนุกกว่าการ find an excuse เยอะเลยครับ

—–

หากต้องการรับ Newsletter รายเดือน (รวมเรื่องราวคัดสรรพร้อมบทความพิเศษ) สามารถสมัครได้ที่นี่ครับ

ใจเย็นๆ

20150222_Underestimate

คนเรามักประเมินตัวเองสูงไป ว่าจะทำอะไรได้บ้างในแต่ละวัน
และประเมินตัวเองต่ำไป ว่าจะทำอะไรได้บ้างในชีวิตนี้
– นิรนาม

วันอาทิตย์มักจะเป็นวันที่ผมพอจะมีเวลาให้ตัวเองได้วางแผนสำหรับสัปดาห์ถัดไป

อย่างสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ผมจะต้องทำสิ่งต่อไปนี้

  • ช่วยเรื่องการรับบริจาคเลือด หนังสือ และเสื้อผ้าให้สำเร็จลุล่วง
  • เขียนบทความสำหรับจดหมายข่าวของบริษัทอีกสองบทความ
  • ตรวจการบ้านคนที่เข้าเรียน Writing Workshop กับผม
  • แชร์สิ่งที่ได้อ่านจากหนังสือ The ONE Thing ให้พนักงานที่สนใจฟัง
  • ซ้อมดนตรีงาน Music Soirée ของบริษัทที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า
  • เริ่มเรียนคอร์สการตลาด
  • ติดต่อผู้รับเหมาต่อเติมบ้านใหม่
  • วางแผนเรื่องเที่ยวช่วงหยุดสงกรานต์
  • เขียนบล็อกบน anontawong.com ทุกวัน

คนเราใจร้อน

ในแต่ละวัน เราจึงอยากทำอะไรให้เสร็จมากมายเหลือเกิน และเรามักจะประเมินตนเองสูงเกินไปว่าทำได้กี่อย่าง

ผมเองมีหลักการว่า จะทำงานชิ้นสำคัญๆ ให้เสร็จแค่วันละสามอย่างก็พอใจแล้ว ส่วนเวลาที่เหลือก็จะเอาไปสะสางงานจิปาถะ ที่อาจจะเร่งด่วนแต่ไม่สำคัญหรือไม่ต้องใช้พลังมากนัก

ผมเชื่อว่างานต่างๆ ที่เราทำด้วยความใส่ใจ จะนำพาเราไปสู่สิ่งที่ดีๆ ได้

โอเคล่ะ มันอาจจะไม่ค่อยทันใจเราเท่าไหร่ เพราะเรากำลังอยู่ในยุคสมัยที่ “รอไม่ได้” และทุกอย่างต้อง “เดี๋ยวนี้”

แต่ธรรมชาติต้องการเวลา และมีจังหวะจะโคนของมัน

หว่านเมล็ดแตงโมวันนี้ ต่อให้รดน้ำลงไปเท่ารถบรรทุก ก็ใช่ว่าจะทำให้มันออกผลพรุ่งนี้ซะหน่อย

เราทุกคนสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้

เพียงแต่ต้อง “ใจเย็นๆ” เท่านั้นเอง

—–

หากต้องการรับ Newsletter รายเดือน (รวมเรื่องราวคัดสรรพร้อมบทความพิเศษ) สามารถสมัครได้ที่นี่ครับ

คนทุกคนเป็นคนดี

20150218_EverybodyIsGood

สิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับการฟังเพลง คือการฟังเนื้อร้องผิด

และบางทีการฟังผิดก็มีประโยชน์

“คนทุกคนดี อยู่ที่เขาเอาใจใคร”

นี่คือประโยคสุดท้ายในท่อนฮุคของเพลง “รู้สึกสบายดี” ของเฉลียง ซึ่งผมฟังและจำได้มาตั้งแต่ตอนเด็กๆ

เพิ่งมารู้เมื่อปีที่แล้วว่าจริงๆ วงเฉลียงเค้าร้องไว้อย่างนี้ครับ

ผู้คนมากมายก่ายกอง จ้องมองตั้งใจจะมองหา
รอถึงเวลาจะไขว่จะคว้าทำความดี
แต่ใครเล่าใคร จะไปตั้งใจอะไรจะมาชี้
คนเรียกคนดี ติดที่เขาเอาใจใคร

ไม่เป็นไร ฟังผิดนิดหน่อย เราต้องให้อภัยตัวเอง

เพราะประโยคที่ว่า คนทุกคนดี อยู่ที่เขาเอาใจใคร มันช่วยให้ผมมองคนในแง่ดีมาหลายสิบปีแล้ว

ไม่มีใครดีพร้อมทุกอย่าง

และไม่มีใครชั่วบริสุทธิ์เช่นกัน

ไม่ว่าใครคนนั้นจะนิสัยแย่แค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะเลวกับทุกคน

นักการตลาดที่มอบเมาประชาชนด้วยการชิงโชค อาจเป็นหัวหน้าที่ลูกน้องรักมากก็ได้
เผด็จการที่สั่งฆ่าคนนับล้าน อาจรักชาติรักแผ่นดินมากกว่าเราก็ได้
สาวที่ขับรถชนคนตายบนทางด่วน อาจตั้งใจเรียนกว่าเราก็ได้
นักการเมืองที่โกงกิน อาจเป็นพ่อที่อบอุ่นกว่าเราก็ได้
นักธุรกิจขายน้ำเมา อาจทำบุญมากกว่าเราก็ได้
โจรใต้ อาจเป็นคนรักเพื่อนมากกว่าเราก็ได้
ฆาตกร อาจรักแม่มากกว่าเราก็ได้

เมื่อตระหนักว่า เขาเองไม่ได้เลวในทุกมิติ และเราเองก็อาจจะด้อยกว่าเขาในบางมิติด้วยซ้ำ อาการดูถูกว่าเขาเป็นมนุษย์ที่ต่ำชั้นกว่าเราก็จะเจือจางลง

และไม่แน่ ถ้าเรามีปัญญามากพอ เราอาจจะมองเห็นว่า ทุกๆ คนต่างก็เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ และกำลังเดินหลงอยู่บนเส้นทางอันยาวไกลไม่ต่างกับเรา

คนทุกคนดี อยู่ที่เขาเอาใจใคร

เช่นนั้นแล้ว คุณจะยังเกลียดใครได้หมดใจอีกหรือ?