There are more important things in life than winning or losing a game.
– Lionel Messi
—–
ตอนผมเข้ามาทำงานที่รอยเตอร์ใหม่ๆ (สมัยยังไม่ได้ควบรวมกับทอมสัน) รอยเตอร์ซอฟต์แวร์มีพนักงานแค่ร้อยกว่าคน
ทุกๆ คนนั่งอยู่ด้วยกันที่ชั้น 23 ของอาคารอื้อจื่อเหลียง
ก่อนแปดโมงครึ่ง พักเที่ยง และหลังห้าโมงครึ่ง จะมีเสียงที่พวกเราคุ้นเคยกันดี
เป็นเสียงลูกปิงปองเด้งไปเด้งมา
เรามีโต๊ะปิงปองตรงบริเวณหน้าห้องน้ำชาย คนที่มาเล่นส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้ชาย แต่ก็มีผู้หญิงมาเล่นด้วยเช่นกัน
ช่วงที่เข้ามาใหม่ๆ ผมยังไม่รู้จักใคร เลยใช้ชีวิตแบบหงิมๆ นิดนึง
จนวันนึง หลังจากผมทำงานอย่างหงิมๆ มาหนึ่งสัปดาห์ ผมเดินไปดูเขาเล่นปิงปองใจเราก็อยากเล่นแต่ไม่กล้าเอ่ยปาก
พี่คนนึงชื่อพี่เต่าซึ่งเพิ่งตีปิงปองจบเกม ได้เอ่ย “ประโยคเปลี่ยนชีวิต” กับผม
“เล่นมั้ย?” (แล้วพี่เต่าก็ยื่นไม้ปิงปองมาให้)
ผมถือว่ามันเป็นประโยคเปลี่ยนชีวิตสำหรับผมที่รอยเตอร์ เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ผมได้คุยกับคนนอกทีม และคุยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงาน
มันเป็นสัญญาณว่าผมกำลังจะมีเพื่อนเป็นครั้งแรก
นับจากวันนั้น ผมรู้จักคนมากขึ้นผ่านโต๊ะปิงปองตัวนี้ และความหงิมๆ เหงาๆ ก็ค่อยๆ มลายหายไป
ต้องขอบคุณพี่เต่าในวันนั้นจริงๆ ครับ
—–
ช่วงนั้นยังไม่มีรถใต้ดิน ผมเลยต้องขับรถโตโยต้ารุ่นโดราเอมอน (ไม่ใช่มือสอง แต่เป็นมือสี่หรือมือห้า) มาทำงานทุกเช้า ออกจากบ้านตอนหกโมงสิบห้า จอดรถที่สวนลุมไนท์บาร์ซ่า แล้วเดินมาถึงออฟฟิศเจ็ดโมงครึ่ง
กินข้าวเสร็จแล้วก็ตีปิงปองหรือดูคนอื่นเล่นปิงปองจนถึงแปดโมงครึ่งจึงเริ่มทำงาน พักเที่ยงไม่ค่อยได้เล่นเพราะคิวเยอะ แต่ตอนเย็นก็ตีปิงปองจนถึงสองทุ่ม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอรถติดตอนกลับบ้าน
ผมตีปิงปองด้วยความสุข ไม่ว่าจะตีกับคนที่เก่งหรืออ่อนแค่ไหน
ยกเว้นหนึ่งคนครับ ขอไม่เอ่ยชื่อแล้วกัน
พี่คนนี้เขาชอบเสิร์ฟลูกยากๆ ซึ่งผมรับทีไรมันก็เด้งออกนอกโต๊ะทุกที ถึงจะพยายาม “เฉือน” ไม้เพื่อแก้ แต่ก็รับเสียเกินกว่าครึ่ง
ปิงปองเราจะเล่นกันว่าใครได้ห้าแต้มก่อนชนะ ยกเว้นว่าถ้าขึ้นนำ 3-0 ก็ถือว่าชนะไปเลย ไม่ต้องเล่นถึงห้าเกม
ผมเจอกับพี่คนนี้ทีไร เค้าก็ใช้ลูกเสิร์ฟไม้ตายกับผมทุกครั้ง
และผมก็จะแพ้ 3-0 เกือบทุกครั้ง แล้วก็ต้องกลับไปรอคิวใหม่อีกเป็นสิบนาที
ผมน่ะไม่สนุกแน่ๆ แต่ก็อดมีคำถามในใจไม่ได้ว่า เขาเล่นชนะอย่างนี้แล้วมันสนุกตรงไหน?
ปิงปองมันสนุกกันตรงที่เราได้โต้กันไปมา ชิงไหวชิงพริบ ได้บ้างเสียบ้างไม่ใช่หรือ?
เวลาผมเจอคู่ปรับที่อ่อนกว่า ถ้าผมจะเสิร์ฟท่าไม้ตายและชนะ 3-0 ผมก็ทำได้ แต่ผมไม่ทำเพราะมองว่ามันเป็นการเสียมารยาทกับคนที่เขาอุตส่าห์รอคิวมาตั้งนาน
บางคนอาจจะเถียงว่า ช่วยไม่ได้ ถ้าเจ็บใจนักก็ไปฝึกให้เก่งขึ้นสิ ไม่ใช่มาบ่นกระปอดกระแปด
แต่นั่นเป็นวิธีการมองโลกแค่แบบหนึ่งเท่านั้น ซึ่งผมว่าไม่ได้เหมาะสมกับทุกสถานการณ์
ผมไม่ได้มาตีปิงปองเพื่อจะไปโอลิมปิก
ผมมาตีปิงปองเพื่อที่จะทีเพื่อนมากขึ้นต่างหาก
สำหรับผม เล่นกีฬามันต้องมีแพ้มีชนะ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าผลลัพธ์ คือ moments ที่เกิดขึ้นระหว่างเกม
#ชีวิตก็เช่นกัน
—–
แปลกดีนะครับ ผมไม่ได้ตีปิงปองที่ชั้น 23 มาเป็นสิบปีแล้ว แต่ยังจำเรื่องของพี่สองคนนี้ได้แม่นยำ
คนแรกเอ่ยปากชวนเราเล่นปิงปองแบบไม่คิดอะไร และคงไม่คิดว่าคำชักชวนของเขาจะทำให้ผมรู้สึกเป็นบุญคุณมาจนถึงทุกวันนี้
อีกคนมุ่งแต่จะเอาชนะด้วยการเสิร์ฟลูกยากๆ ผมก็จะยังจำมาจนวันนี้เหมือนกัน
จากนี้ไป คงต้องเตือนตัวเองเสมอว่า
หากมีโอกาสแสดงน้ำใจกับใคร ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ก็ทำไปเถิด เพราะมันอาจจะเปลี่ยนชีวิตเขาก็ได้
และระวังอย่าแสดงความไร้น้ำใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดูไร้สาระแค่ไหน เพราะเขาคนนั้นอาจจะจำฝังใจจนผ่านไปสิบปีแล้วเขายังแอบเอาเรามานินทาให้สาธารณชนฟัง
—–
Credits
Wikipedia: Lionel Messi
Google Images: รถโตโยต้าโดราเอม่อน