วันเสาร์ที่ผ่านมาเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.9 ริคเตอร์ที่ประเทศเนปาล
ภาพของซากปรักหักพัง ใบหน้าที่ปวดร้าวของคนเจ็บและญาติของคนตาย คือสิ่งที่ผ่านสายตาเราตลอดสามวันที่ผ่านมา
ผมเลยอยากจดบันทึกสิ่งที่ไหลผ่านเข้ามายังความคิดของผมดังนี้ครับ
1. สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า
ลุมพินีวัน สถานที่ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ เป็นแค่สังเวชนียสถานแห่งเดียวที่ไม่ได้อยู่ในอินเดีย แต่อยู่ในประเทศเนปาล ผมเปิด Google Maps ดูแล้ว ห่างจากเมืองหลวงกาฐมาณฑุประมาณ 250 กิโลเมตร (จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ที่เมือง Gorkha)
เท่าที่อ่านข่าว บริเวณรอบๆ กาฐมาณฑุ มีสิ่งก่อสร้างเก่าแก่อายุหลายร้อยปีพังทลายไปไม่น้อย ก็อดคิดไม่ได้ว่าสังเวชนียสถานแห่งนี้จะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน
2. มนุษย์คนแรกที่ปีนเขาเอเวอเรสต์
สิ่งหนึ่งที่ผมอยากทำมานานแล้วคือการไปเบสแค้มป์ ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นในการเดินขึ้นเขา Everest เห็นเพื่อนชื่อซุปปี้เคยไปกับภรรยาและเพื่อนๆ มาเขาบอกว่าสวยน่าดู
รู้มั้ยครับว่าคนที่พิชิตเอเวอเรสต์คนแรกเป็นชาวนิวซีแลนด์
พอดีผมเคยเรียนที่นี่ เลยรู้จักเขาดีผ่านธนบัตร 5 ดอลล่าร์ เขาชื่อ Sir Edmund Hillary ครับ
3. คนไทยที่ติดอยู่เนปาล
อ่านข่าวบางกอกโพสต์วันนี้ จึงโล่งอกว่านักศึกษาไทย 6 คนที่ขาดการติดต่อไป ตอนนี้ยืนยันมาแล้วว่าปลอดภัยดี แต่ก็เจอข่าวเศร้าว่า “หมออีฟ” แพทย์ที่ทำงานอยู่ในแคมป์ที่เชิงเขาเอเวอเรสต์ เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว แม้จะยังไม่คอนเฟิร์มก็แล้วแต่ ผมถือวิสาสะเข้าไปดูที่ FB ของเขา ก็ยังไม่มีการรายงานอะไรเพิ่มเติม ก็ขอภาวนาให้มีปาฏิหาริย์ครับ
4. สิ่งที่เราทำได้ทางกายภาพ
ผมเคยเขียนไปแล้วว่าความสงสารไม่ได้ช่วยอะไร
เช้าวันนี้ สิ่งแรกที่ผมทำคือส่งเมล์หาเพื่อนพนักงานทอมสันรอยเตอร์ ว่าวันอังคารนี้เราจะเปิดรับบริจาคเงินเพื่อนำเข้าสภากาชาดไทยนะ
ตอนนี้มีคนแจ้งความประสงค์บริจาคเงินมาเกิน 70,000 บาทแล้ว กำลังลุ้นอยู่ว่าจะได้ถึงหนึ่งแสนบาทรึเปล่า
นอกจากนี้เงินทุกบาทที่เราระดมมาได้ ทางทอมสันรอยเตอร์จะช่วยสมทบให้อีกเท่าตัว (เจ๋งป่ะล่ะ)
5. อีกหนึ่งสิ่งที่เราทำได้
สวดมนต์ – นั่งสมาธิ – แผ่เมตตา – และอุทิศบุญกุศลให้กับผู้ประสบภัย ดวงวิญญาณที่เสียชีวิต และหน่วยกู้ภัยที่กำลังเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ที่เนปาล ขณะที่เรา นั่งชิลล์ๆ อยู่ในห้องนอน
ผมเชื่อว่าคำสวดภาวนาของเราจะไม่สูญเปล่า ไม่ว่าเราจะเป็นพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู หรือไร้ศาสนาก็ตามที
ภัยธรรมชาติไม่เคยแบ่งแยกศาสนา ความปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ก็ไม่ควรแบ่งแยกด้วยเช่นกัน
—–
ช่วงนี้ภัยพิบัติดูเหมือนจะเกิดถี่ขึ้นนะครับ เพื่อความไม่ประมาท เราเองก็ควรเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้พร้อม
เพราะถ้าเราไม่หลอกตัวเองก็ย่อมจะรู้แล้วว่า เหตุการณ์ที่เราเห็นในทีวีและโทรศัพท์ ก็สามารถเกิดกับเราได้เช่นกัน
Pingback: ยังมีหวัง | Anontawong's Musings