วิหารเทพในเอเธนส์ไม่มีสนามหญ้า
จัตุรัสโรมันไม่เคยมีสนามหญ้า
พระราชวังต้องห้ามในปักกิ่งก็ไม่มีสนามหญ้า
แล้วสนามหญ้ามาได้ยังไง? ทำไมเราถึงอยากได้สนามหญ้าหน้าบ้านกันนัก เพราะถ้าจะว่ากันจริงๆ แล้ว มันแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย แถมยังต้องออกแรงดูแลรักษาอีก
เรื่องราวเริ่มจากในช่วงยุคกลางของยุโรป (ค.ศ.500-1500) ที่เหล่าชนชั้นสูงเริ่มมีการปลูกหญ้าไว้รอบบ้าน (เรียกว่าวังหรือคฤหาสน์อาจจะเหมาะกว่า)
ตอนนั้นยังไม่มีเครื่องตัดหญ้าและหัวสปริงเกอร์รดน้ำ สนามหญ้าพวกนี้จึงต้องใช้คนงานดูแลเป็นจำนวนมาก แถมหญ้าก็เอาไปทำประโยชน์ไม่ได้ เพราะถ้าเอาแกะหรือวัวมาเลี้ยง สนามหญ้าก็จะเสียหายและดูไม่สวยงาม คนส่วนใหญ่ที่มีอาชีพเป็นชาวนาจึงไม่อาจมีสนามหญ้าอยู่หน้าบ้านได้
การมีสนามหญ้าจึงเป็นการบอกกับชาวโลกว่า ดูสิว่าฉันฐานะดีแค่ไหน มีเงินจ้างคนงานเป็นสิบๆ คนเพื่อมาดูแลหญ้าหน้าบ้านของฉันให้ดูสมบูรณ์งดงามอยู่เสมอ
ในทางกลับกัน ถ้าสนามหญ้าบ้านไหนหญ้าเริ่มเฉาหรือไม่ได้รับการดูแล นั่นก็แสดงว่าครอบครัวชั้นสูงนั้นกำลังประสบปัญหาอะไรบางอย่าง
200 ปีที่แล้ว เมื่อโลกเข้าสู่ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม ความมั่งคั่งถูกผลัดมือจากชนชั้นสูงไปสู่ “เศรษฐีหน้าใหม่” ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของโรงงาน นายธนาคาร หรือนักกฎหมาย สามัญชนที่มีเงินก็เลยเริ่มมีสนามหญ้าอยู่หน้าบ้านเพื่อแสดงถึงสถานะทางสังคมที่เหนือกว่าเช่นกัน
พอเข้าสู่ช่วงศตวรรษที่ 20 ที่บ้านชานเมืองเริ่มผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด สิ่งที่บ่งบอกถึงสถานะได้ดีที่สุดก็คือสนามหญ้าหน้าบ้านอันเขียวขจีนี่เอง
ชนชั้นสูงเมื่อพันปีที่แล้วปลูกหญ้าที่ไร้ประโยชน์เพื่อโชว์ออฟว่าบ้านเขามีคนใช้มากมายที่จะดูแลหญ้าเหล่านั้น และพันปีต่อมาสนามหญ้าก็กลายเป็นมรดกตกทอดให้ชนชั้นกลางอย่างเราๆ อยากมีสนามหญ้ากับเขาบ้าง
เราไม่ได้รู้อดีตเพื่อทำนายอนาคต แต่เรารู้อดีตเพื่อที่จะได้ปลดปล่อยตัวเองจากมันได้
หากบ้านของคุณมีสนามหญ้า และคุณต้องเสียเวลากับการดูแลมันมากเกินไป ลองปลดปล่อยตัวเองจากความคิดว่าบ้านในฝันต้องมีสนามหญ้านะครับ
—–
ขอบคุณข้อมูลจาก Homo Deus, A Brief History of Tomorrow by Yuval Noah Harrari
Storytelling with Powerpoint รุ่นที่ 2 เรียนเสาร์ที่ 19 มกราคมนี้เปิดรับสมัครแล้วดูรายละเอียดได้ที่ http://bit.ly/tgimstory2fb
บทความวันละตอนจาก Anontawong’s Musings:
LINE: bit.ly/tgimline
Facebook: bit.ly/tgimfb
Twitter: bit.ly/tgimtwt