นิทานแอปเปิ้ล

20150731_Apple

วันนีัวันศุกร์ มาฟังนิทานกันอีกซักเรื่องนะครับ

คุณแม่เดินเข้ามาหาของกินในครัว เห็นลูกสาวตัวน้อยยืนถือแอปเปิ้ลอยู่สองลูก จึงย่อตัวลงแล้วเอ่ยถามว่า

“คนดีของแม่ แม่ขอแอปเปิ้ลลูกนึงได้มั้ยคะ”

เด็กน้อยมองหน้าแม่แว้บหนึ่ง ก่อนจะกัดแอปเปิ้ลในมือซ้ายหนึ่งคำ และหันไปกัดแอปเปิ้ลในมือขวาอีกหนึ่งคำ

คุณแม่หน้าชา แต่ยังไม่ทันที่เธอจะอ้าปาก ลูกสาวก็ยื่นแอปเปิ้ลในมือซ้ายมาให้

“ลูกนี้หวานกว่า ของคุณแม่ค่ะ ส่วนอีกลูกนึงเดี๋ยวหนูกินเอง”

—–

หมายเหตุ: เรื่องนี้อ่านเจอครั้งแรกผ่านการแชร์ในไลน์ (ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยแล้ว) และมาเจออีกครั้งใน Quora แต่ยังหาต้นทางไม่ได้ครับ  ที่เอามาเขียนตรงนี้ผมดัดแปลงจาก Quora นิดหน่อยเพื่อให้อ่านได้คล่องขึ้นครับ

นิ้วที่ 11

20150730_11Inch

“..แต่ละคนสะสมมานานไม่ใช่น้อยๆ นะ
กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ที่จะมาฟังธรรม
ขนาดนี้ เหลืออยู่นิดเดียวเอง ปฏิบัติธรรม
ให้สมควรแก่ธรรมเท่านั้นเอง เหลือแต่..
ทำเอาเอง มีสติรู้กายรู้ใจไป

อย่าคิดมากนะ แล้วก็อย่าไปเพ่งเอา
คิดมากฟุ้งซ่าน กับเพ่งมากแล้วก็นิ่ง
เกินไป มันจะช้า รู้ซื่อๆ ไป
พวกเราถ้าเทียบเป็นไม้บรรทัดนะ
เราเดินมาถึงนิ้วที่ ๑๑ แล้ว
เมื่อไรมันจะได้ครบ ๑๒ นิ้ว ก็ไม่รู้…”

– หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช

—–
วันนี้วันพระ

เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆ วันที่ตื่นมาตอนเช้าแล้วได้นั่งสมาธิ

พอนั่งสมาธิเสร็จ แฟนที่เพิ่งแชร์บล็อกเรื่องมาริโอของผมเมื่อคืนเสร็จก็บอกว่า สิงห์ Sqweez Animal เสียแล้วนะ 

ผมใจหายแว้บเลย

เพราะเพิ่งเดินสวนกับเขาที่งานหมั้นของเพื่อนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง

คุณสิงห์ เป็นลูกชายของคุณวีระกานต์ มุสิกพงศ์ เถ้าแก่ฝ่ายเจ้าบ่าว ซึ่งผมรู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ

ผมไม่ได้รู้จักกับคุณสิงห์เป็นการส่วนตัว รู้แต่เพียงว่าน้องๆ ในวงดนตรีที่บริษัท (กิ่ง ส้ม ปิ๊ก) ก็กรี๊ดกันอยู่พอดู และผมเองก็เคยรับหน้าที่ร้องเพลงคำบางคำ ตอนที่วงของเราเล่นเพลงนี้ด้วย

—–

เคยเล่าให้ฟังว่าตอนเช้าระหว่างขับรถไปทำงาน ผมมักจะฟัง CD หลวงพ่อปราโมทย์

หลวงพ่อปราโมทย์เคยเป็นฆราวาสอยู่ถึง 48 ปีก่อนจะได้บวช ท่านจึงรู้เรื่องทางโลกเป็นอย่างดี ทำให้การฟังธรรมของหลวงพ่อเพลิดเพลินและเข้าใจง่าย เข้าถึงคนกรุงและคนรุ่นใหม่ได้ไม่ยาก

อีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ท่านดังขึ้นมา ก็คือความสามารถในการอ่านวาระจิตของคนที่ท่านสนทนาอยู่ได้

ไม่ใช่อ่านว่าคิดอะไรอยู่นะครับ แต่อ่านว่าตอนนี้จิตเรากำลังฟุ้งซ่านอยู่ ตอนนี้จิตกำลังตั้งมั่นอยู่ ฯลฯ

แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดน่าจะทำให้ชื่อเสียงของท่านโด่งดัง ก็คือการทำให้คนจำนวนมากหันมาสนใจเรื่องการภาวนาในชีวิตประจำวัน

เพราะมันง่ายกว่าที่คิดจริงๆ

เมื่อคืนอ่านเจอคำสอนของท่านก็เกิดมีกำลังใจขึ้นมา

“”แต่ละคนสะสมมานานไม่ใช่น้อยๆ นะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ที่จะมาฟังธรรม ขนาดนี้ เหลืออยู่นิดเดียวเอง”

ถ้าภพภูมิมีจริง และการที่เราเวียนวนเกิดมานับชาติไม่ถ้วนเป็นเรื่องจริง การได้มาเกิดเป็นมนุษย์ก็ถือว่าเรา “มาได้ไกลมาก” อย่างที่หลวงพ่อว่าจริงๆ นั่นแหละ

“พวกเราถ้าเทียบเป็นไม้บรรทัดนะ เราเดินมาถึงนิ้วที่ ๑๑ แล้ว เมื่อไรมันจะได้ครบ ๑๒ นิ้ว ก็ไม่รู้”

ประโยคนี้ทำให้คิดได้ว่า เราอาจจะมาถึงใกล้เป้าหมายมากกว่าที่เราคิดไว้

คำถามคือ เราจะใช้โอกาสอันมีค่านี้เพื่อที่จะเดินไปถึงนิ้วที่ 12 หรือจะเดินถอยหลัง?

—–

เค้าบอกว่ายุคนี้คือยุคที่กรรมติดจรวด

ใครทำอะไรไม่ดีไว้ กรรมจะตามทันโดยที่ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า

แต่บางที กรรมดีก็อาจติดจรวดได้เหมือนกัน

ถ้าเป็นสมัยก่อน หลวงพ่อเทศน์ คนที่ได้ฟังก็คงมีไม่กี่สิบกี่ร้อยคน

แต่การมาของอินเตอร์เน็ต ทำให้เราสามารถดาวน์โหลดธรรมะบรรยายของหลวงพ่อจากที่ไหนก็ได้ในโลก และทำให้มีคนได้ฟังธรรมเป็นพัน เป็นหมื่น หรืออาจเป็นแสนคน

เทคโนโลยีทำให้ผลของกรรมดีและกรรมชั่วของเราทบเท่าทวีคูณได้

ถ้าเราอยู่นิ้วที่ 11 กันจริงๆ ก็ไม่มียุคไหนที่จะง่ายสู่การเดินไปสู่นิ้วที่ 12 เท่ายุคนี้อีกแล้ว เพราะเพียงแค่กระดิกนิ้วไม่กี่ที เราก็ได้ฟังธรรมะของพระพุทธเจ้าแล้ว

ในทางกลับกัน ก็ไม่มียุคไหนที่จะเดินถอยหลังกลับไปสู่นิ้วที่ 1 ได้เท่ายุคนี้อีกแล้วเช่นกัน เพราะวัฒนธรรมการเสพติดมือถือและแทบเบล็ต ทำให้เราตกอยู่ใน “ความหลง” ได้มากกว่ายุคใดๆ ที่ผ่านมา

เมื่อหลงก็ไม่มีสติ เมื่อไม่มีสติ ก็ยากที่จะไปสู่สุคติ

ถ้าใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดมันก็จะพาเราไปสู่นิ้วที่ 12 ได้ในอนาคตอันไม่ไกลเกินไปนัก

แต่ถ้าใช้มันเพียงเพื่อเสพเรื่องราวนอกตัว เรียกร้องความสนใจ ลุ้นยอดไลค์ เราก็คงเป็นแค่ไก่ที่ได้พลอย

การจากไปของสิงห์ Sqweez Animal ช่วยย้ำเตือนสติอีกครั้งว่าชีวิตไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ

วันนี้ วันพระ เรามาใช้เวลาและชีวิตให้เป็นประโยชน์กันนะครับ

ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com

ขอบคุณข้อมูลจาก หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช | Facebook Group ,  วิมุตติ, Spring News

ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่

อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ Archives

อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (ถ้ากด Get Notifications ใต้ปุ่ม Like หรือเลือก Show First ใต้ปุ่ม Following ก็จะไม่พลาดตอนใหม่ครับ)

ทางลัดที่ดีที่สุด

20150729_BestShortcut

The shortcut that’s sure to work, every time:

Take the long way.

Do the hard work, consistently and with generosity and transparency.

And then you won’t waste time doing it over.

ผมจะบอกทางลัดที่จะเวิร์คทุกครั้งชัวร์ๆ

ไปทางอ้อมซะ

จงมุ่งมั่นทำงานยาก ด้วยความสม่ำเสมอ และด้วยใจที่เอื้อเฟื้อและซื่อสัตย์

แล้วคุณจะได้ไม่ต้องกลับไปทำเรื่องเดิมซ้ำอีกให้เสียเวลา

– Seth Godin

—–

ใครที่อายุเกิน 30 ปี น่าจะเกิดทันยุคเกมมาริโอรุ่งเรือง

พ่อกับแม่ซื้อเครื่องแฟมิคอมพร้อมตลับเกมมาริโอให้ผมเป็นครั้งแรกตอนผมอยู่ป.3

สมัยนั้นเครื่องแฟมิคอมเพิ่งเข้ามาใหม่ ราคาจึงแพงมาก เฉพาะค่าเครื่องก็ 5500 บาทแล้ว ส่วนตลับเกมมาริโอก็ราคา 550 บาท รวมแล้ว 6050 บาท

เงินหกพันบาทในปี 2531 นั้นถือว่าเยอะมากๆ สำหรับผม เพราะตอนเรียนป.1 ถึงป.3 ผมได้ค่าขนมแค่วันละ 3 บาทเอง

ที่พ่อกับแม่มีเงินซื้อให้ เพราะเพิ่งได้เงินก้อนจากการไปช่วยนักการเมืองหน้าใหม่ในโคราชหาเสียงจนได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.สมัยแรก

น่าจะเป็นของขวัญวัยเด็กชิ้นใหญ่สุดที่ผมเคยได้รับแล้ว (ทั้งในแง่ตัวเงินและในแง่ความรู้สึก – ถึงยังจำราคาของมาได้จนถึงทุกวันนี้)

กลับมาเรื่องมาริโอต่อ

ในเกมนี้ พระเอกที่ชื่อมาริโอคือช่างซ่อมท่อในนครเห็ด แต่เมื่อเจ้าหญิงพีชถูกราชาคุปปะจับตัวไป มาริโอจึงได้รับมอบหมายให้ไปช่วยเจ้าหญิง

ระหว่างทางมาริโอต้องเจออุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนกที่เดินไปเดินไปเดินมา เต่าบกและเต่าบินได้ ดอกไม้พิษ ดอกไม้พ่นไฟและปืนใหญ่ ไหนจะต้องระวังเหวที่ตกลงไปแล้วจะตาย (และต้องกลับมาเริ่มใหม่) แถมการเล่นให้จบแต่ละฉากก็มีเวลาจำกัดอีกด้วย ถ้าไม่ได้กระโดดรูดเสาธงหน้าปราสาทภายในเวลาที่กำหนดก็ต้องตายอีกเช่นกัน

ข้อดีก็คือคือ ในบางฉากจะมี “ท่อวาร์ป” ซ่อนอยู่ เมื่อเราลงท่อนี้ไปแล้ว เราจะสามารถไปสู่จุดหนึ่งของฉากได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดเวลาได้ไม่น้อยแล้ว เรายังไม่ต้องไปเสี่ยงชีวิตกับอุปสรรคต่างๆ ตามรายทางอีกด้วย

—–

วันนี้ผมหา “ประกายไฟ” ที่จะมาเขียนบล็อก ด้วยการอ่าน a day bulletin ฉบับเก่าๆ ที่พี่เจค (พี่ที่ออฟฟิศที่ออกไปแล้ว) ทิ้งไว้ให้

เปิดไปเจอฉบับที่สัมภาษณ์ อ้อม สุนิสา โอปอลล์ ปาณิสรา เอกกี้ เอกชัย และ เผือก พงศธร พิธีกรรายการ 4 มติ

มีช่วงตอนหนึ่งที่ทั้งสี่คนพูดถึงเด็กไทยในยุคนี้ ที่เพิ่งจบออกมา แต่อยากได้เงินเดือนดีๆ ตำแหน่งดีๆ ทั้งๆ ที่ยังไม่มีประสบการณ์ บางคนอยากรวยเร็วๆ โดยไม่ต้องออกแรงเยอะ

ประโยคหนึ่งที่คุณอ้อมให้สัมภาษณ์ก็คือ “ความสำเร็จมันอาจจะมีทางลัด แต่ไม่ได้ลัดสั้นขนาดนั้น ในขณะที่มีทางลัด มันก็ต้องไปทางยาวก่อน”

มันเลยทำให้ผมนึกถึงคำของ Seth Godin ที่ว่า The shortcut that’s sure to work, every time: Take the long way.

เป็นอะไรที่ท้าทายสามัญสำนึก แต่ก็น่าคิด

—–

ไม่ใช่เรื่องผิดที่เด็กสมัยนี้จะคิดอย่างนี้ เพราะเขาโตมากับสภาพแวดล้อมที่เน้นเรื่องทางลัดและการเห็นผลอย่างรวดเร็ว

แต่เมื่อเราเจอคนรุ่นใหม่ที่ยึดถือคุณค่าคนละชุดกับเรา เราก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ว่า มันจะเวิร์คจริงๆ เหรอ

เพราะถึงแม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปแค่ไหน วิถีชีวิตและอาชีพของเราจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่หลักการบางอย่างก็ยังใช้ได้อยู่

ลองนึกถึงคนที่เราชื่นชมและถือเป็นคนต้นแบบของเรา (Idol) แล้วดูซิว่าเขามีคุณสมบัติเหล่านี้หรือไม่?

ทำงานหนัก ไม่ยอมแพ้ รักษาคำพูด รู้ลึกรู้จริง มีน้ำใจ อ่อนน้อมถ่อมตน

เหล่านี้น่าจะเป็นคุณสมบัติที่จะทำให้คนๆ หนึ่งประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเกิดในยุคใดสมัยใด

มองไปรอบตัวตอนนี้ คิดว่าเด็กรุ่นใหม่จะมีโอกาสได้ฝึกฝนตัวเองจนมีคุณสมบัติเหล่านี้มั้ย?

—–

ผมเชื่อว่าคนที่เคยเล่นเกมมาริโอ เลือกจะไปทางปกติ ทั้งๆ ที่รู้ว่าฉากนี้มีท่อวาร์ปอยู่ตรงไหน

การเล่นเกมมาริโอโดยไม่ใช่ท่อวาร์ปนั้น ย่อมหมายความเราต้องเจอภยันตรายต่างๆ

แต่เราก็จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่มีเฉพาะในทางสายนี้ด้วย

ไม่ว่าจะเป็นเห็ดที่ทำให้ตัวโตขึ้นสองเท่า เห็ดที่ทำให้เราพ่นไฟได้ หรือดาวที่ทำให้เป็นอมตะ

แถมศัตรูบางตัวยังเปิดโอกาสให้เรา “อัพเลเวล” เพิ่มจำนวนชีวิตให้เราแบบไม่อั้น

ซึ่งประสบการณ์ดีๆ เหล่านี้ จะไม่มีวันเกิดขึ้นเลยเลยหากเรามัวแต่ใช้ท่อวาร์ป

ที่สำคัญ ถ้าเราไม่ได้ “ผ่านสนามรบ” มาอย่างช่ำชอง

เมื่อถึงฉากสุดท้ายที่ต้องเจอตัวบอสอย่างราชาคุปปะ เราจะเอาทักษะที่ไหนมาสู้กับมัน?

และถึงจะฟลุ้คชนะบอส และได้เจ้าหญิงคืนมาจริงๆ เจ้าหญิงจะรักคนที่ใช้ท่อวาร์ปมาตลอดเกมอย่างเราหรือเปล่า?

สุดท้ายแล้วชีวิตมันก็คือเกมอย่างหนึ่ง และ “เจ้าหญิงพีช” ของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไป

เพราะความสนุกของเกมมาริโอไม่ใช่การได้จูบเจ้าหญิงตอนอวสานเพียงอย่างเดียว

ความสนุกจริงๆ เกิดขึ้นจากการได้ลองผิดลองถูก ได้ชนะ ได้แพ้ ได้พลาด ได้เริ่มต้นใหม่ และได้พัฒนาตัวเอง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า-ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ชัยชนะที่ได้มาด้วยการลงมือทำอย่างสุดความสามารถ น่าจะมีความหมายมากกว่าชัยชนะที่ไม่ต้องลงแรงอะไร

และสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเกมนี่แหละ ที่จะหล่อหลอมให้เราเป็นมาริโอที่คู่ควรกับเจ้าหญิงอย่างแท้จริง


ขอบคุณภาพจาก Amit Agarwal | Flickr

ขอบคุณข้อมูลจาก Seth Godin blog และ a day bulletin เล่ม 346 

ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่

อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ Archives

อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (ถ้ากด Get Notifications ใต้ปุ่ม Like หรือ Show First ใต้ปุ่ม Following ก็จะไม่พลาดตอนที่ผม publish ตอนใหม่ครับ)