
งานหนังสือรอบนี้คึกคักมาก เป็นบรรยากาศเดิมๆ ที่คิดถึง เพราะเคยไปจัดที่อื่นก็ไม่ลงตัวเหมือนจัดที่นี่
ผมไปเดินงานมาแล้ว 2 รอบ เลยขอนำสิ่งที่รู้มาแชร์กันครับ
- งานเริ่ม 10 โมงเช้า ถ้าขับรถไป ควรไปถึงก่อน 9:30 แล้วชีวิตจะดีงาม ถ้ามาถึงช้ากว่านั้นคิวรถเข้าศูนย์จะยาวมากทั้งเส้นรัชดาและเส้นพระราม 4 ผมพาลูกมาวันแรกเจอรถติดตรงพระราม 4 ถึงกับต้องตีรถไปจอดที่อื่นแล้วนั่งรถใต้ดินมา
- ไม่ต้องเดินตากแดดร้อนๆ อีกต่อไป! งานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์สมัยก่อนคือต้องไปจอดรถด้านหลังที่เป็นดินลูกรังแล้วก็เดินสู้แดดสู้ฝนมาเข้างาน แต่ตอนนี้ที่จอดรถเป็นใต้ดินทั้งหมดแล้ว
- ถ้าไม่อยากเดินไกล ให้เลี้ยวรถเข้าประตูฝั่งใกล้สวนเบญจกิตติ ลงที่จอดรถใต้ดินแล้วจอดแถวๆ เสา A01 – E10 จะใกล้ทางเข้างานที่สุด ถ้ามา MRT หรือเข้าที่จอดรถตั้งแต่ประตูแรกจะต้องเดินไกลหน่อยเพราะอยู่คนละฝั่งกับงาน
- ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่น่าเดินมาก ให้ความรู้สึกเหมือนสยามพารากอน + ไบเทค + ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ตอนที่ผมขึ้นบันไดเลื่อนมา มีน้องม.ปลายสองคนขึ้นบันไดเลื่อนข้างหลังผม พอบันไดเลื่อนขึ้นมาจนเห็นในตัวอาคาร น้องทั้งสองคนก็ตะโกนพร้อมกันว่า “โหวววว!” แล้วคนหนึ่งก็แซวตัวเองว่า “บ้านนอกเข้ากรุง”
- ถ้ามาถึงก่อนงานเริ่ม คนจะนั่งรอกันเต็มพื้นที่หน้างาน ซึ่งอยู่ชั้น LG แนะนำให้ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น G คนจะน้อยกว่า และมีม้านั่งให้ด้วย
- ลืมภาพจำห้องน้ำสวนสิริกิติ์ที่แคบๆ และต้องต่อคิวยาวไปได้เลย ที่นี่ห้องน้ำเยอะสะอาด กว้างขวาง ขนาดคนเดิมเต็มงานผมยังไม่เห็นคิวคนเข้าห้องน้ำแม้แต่คิวเดียว
- หน้างานมีร้านอาหารเต็มไปหมด แต่คิวก็เต็มไปหมดเช่นกัน ทั้ง Zen, On The Table, OISHI BIZTORO, KFC ถ้าเห็นคิวยาวแล้วท้อ แนะนำให้ขึ้นไปชั้น G มี Big C Mini อยู่ ซื้อขนมและซาลาเปามากินรองท้องได้
- เอาน้ำดื่มเข้างานได้นะครับ จริงๆ ในงานมีบู๊ธขายน้ำด้วยซ้ำไป ส่วนอาหารไม่แน่ใจแต่ก็ไม่ได้มีคนตรวจอะไร
- แอร์เย็นกำลังดี ไม่ลงหัว แต่ถ้าขี้หนาวก็ใส่แจ็คเก็ตมาได้ แต่ถ้าต้องขึ้นรถใต้ดินก็จะร้อนหน่อย
- รอบนี้ทุกบู๊ธอยู่ในห้องเดียวกันหมด (อารมณ์เหมือน Plenary Hall สมัยก่อน) ไม่ต้องเดินไกลเหมือนงานที่บางซื่อ โดยงานจัดที่ Hall 5-6-7 ส่วน Hall 8 มีงานของโฮมโปร
- สำนักพิมพ์ใหญ่จะอยู่สุดทางเดิน คนละฝั่งกับทางเข้าประตู ทั้งนายอินทร์ B2S มติชน ซีเอ็ด แจ่มใส ติดกันเรียงราย
- ทางเดินในงานค่อนข้างแคบ ถ้าอยากจะเคลื่อนตัวไวๆ หน่อย ให้เดินตรงเส้นรอบวงของงานแทน
- ถ้าไม่อยากเสียเวลาเกินไป (เพราะยิ่งช้าคนในงานจะยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ) ควรจะคิดก่อนว่าอยากดูบู๊ธไหนบ้าง แล้ว “วางแผนการเดินทาง” ให้ดี ดูรายชื่อสำนักพิมพ์ที่มาออกงานได้โดยการกูเกิ้ล “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ 2565 มีสำนักพิมพ์ไหนบ้าง? เช็กเลย“
- ไม่ต้องกด ATM อีกต่อไป! หนึ่งใน pain points สมัยก่อนคือเวลาซื้อหนังสือจนเกินงบ ตังค์หมด ก็ต้องไปเข้าคิวกด ATM แต่งานนี้ Scan QR Code ทุกร้าน ผมไม่ต้องใช้เงินสดเลยสักบาทเดียว
- ถ้ามาทางรถใต้ดิน ขากลับคิวซื้อตั๋วจะยาวมาก ทางแก้คือเดินเลียบกำแพงไปซื้อตั๋วอีกฝั่งหนึ่ง หรือถ้าโชคดีลองดูใกล้ๆ ที่ติ๊ดบัตร จะมีพนักงานยืนแจกสลิปที่มี QR Code เอาไว้เก็บเงินปลายทางได้ เหมือนได้บัตร Fast Pass ของสวนสนุกยังไงยังงั้น ผมเลือกใช้ออปชั่นนี้แม้จะต้องจ่ายราคาผู้ใหญ่ก็ตามเพราะลูกๆ เมื่อยและหิวเต็มทีแล้ว
- หาหนังสือของผมได้ที่บู๊ธของสำนักพิมพ์ DOT บู๊ธ F06 (Love Me Love My Job) และสำนักพิมพ์อะไรเอ่ย บู๊ธ F34 (Thank God It’s Monday และ ช้างกูอยู่ไหน)
- หากใครไม่สะดวกไปงาน สามารถเข้าแอป LINE MAN > Mart แล้วกดแบนเนอร์ “งานมหกรรมหนังสือ ได้โค้ดลดเพียบ“
เพิ่มเติมว่าวันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม 17.00 มีขบวนเสด็จนะครับ
อยากให้ได้ไปเดินงานนี้กันครับ ถือเป็นการให้กำลังใจคนทำหนังสือหลังจากที่ต้องเจอสภาวะลำบากมาหลายปี ส่วนเราเองในฐานะนักอ่านก็จะได้กลับมาฝึกฝนให้ตัวเองได้ใช้เวลากับหน้ากระดาษมากกว่าหน้าจอด้วย
งานมีถึงวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคมนี้ครับผม