17 ข้อควรรู้งานหนังสือ 2565 ที่ศูนย์สิริกิติ์

งานหนังสือรอบนี้คึกคักมาก เป็นบรรยากาศเดิมๆ ที่คิดถึง เพราะเคยไปจัดที่อื่นก็ไม่ลงตัวเหมือนจัดที่นี่

ผมไปเดินงานมาแล้ว 2 รอบ เลยขอนำสิ่งที่รู้มาแชร์กันครับ

  1. งานเริ่ม 10 โมงเช้า ถ้าขับรถไป ควรไปถึงก่อน 9:30 แล้วชีวิตจะดีงาม ถ้ามาถึงช้ากว่านั้นคิวรถเข้าศูนย์จะยาวมากทั้งเส้นรัชดาและเส้นพระราม 4 ผมพาลูกมาวันแรกเจอรถติดตรงพระราม 4 ถึงกับต้องตีรถไปจอดที่อื่นแล้วนั่งรถใต้ดินมา
  2. ไม่ต้องเดินตากแดดร้อนๆ อีกต่อไป! งานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์สมัยก่อนคือต้องไปจอดรถด้านหลังที่เป็นดินลูกรังแล้วก็เดินสู้แดดสู้ฝนมาเข้างาน แต่ตอนนี้ที่จอดรถเป็นใต้ดินทั้งหมดแล้ว
  3. ถ้าไม่อยากเดินไกล ให้เลี้ยวรถเข้าประตูฝั่งใกล้สวนเบญจกิตติ ลงที่จอดรถใต้ดินแล้วจอดแถวๆ เสา A01 – E10 จะใกล้ทางเข้างานที่สุด ถ้ามา MRT หรือเข้าที่จอดรถตั้งแต่ประตูแรกจะต้องเดินไกลหน่อยเพราะอยู่คนละฝั่งกับงาน
  4. ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์โฉมใหม่น่าเดินมาก ให้ความรู้สึกเหมือนสยามพารากอน + ไบเทค + ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ตอนที่ผมขึ้นบันไดเลื่อนมา มีน้องม.ปลายสองคนขึ้นบันไดเลื่อนข้างหลังผม พอบันไดเลื่อนขึ้นมาจนเห็นในตัวอาคาร น้องทั้งสองคนก็ตะโกนพร้อมกันว่า “โหวววว!” แล้วคนหนึ่งก็แซวตัวเองว่า “บ้านนอกเข้ากรุง”
  5. ถ้ามาถึงก่อนงานเริ่ม คนจะนั่งรอกันเต็มพื้นที่หน้างาน ซึ่งอยู่ชั้น LG แนะนำให้ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น G คนจะน้อยกว่า และมีม้านั่งให้ด้วย
  6. ลืมภาพจำห้องน้ำสวนสิริกิติ์ที่แคบๆ และต้องต่อคิวยาวไปได้เลย ที่นี่ห้องน้ำเยอะสะอาด กว้างขวาง ขนาดคนเดิมเต็มงานผมยังไม่เห็นคิวคนเข้าห้องน้ำแม้แต่คิวเดียว
  7. หน้างานมีร้านอาหารเต็มไปหมด แต่คิวก็เต็มไปหมดเช่นกัน ทั้ง Zen, On The Table, OISHI BIZTORO, KFC ถ้าเห็นคิวยาวแล้วท้อ แนะนำให้ขึ้นไปชั้น G มี Big C Mini อยู่ ซื้อขนมและซาลาเปามากินรองท้องได้
  8. เอาน้ำดื่มเข้างานได้นะครับ จริงๆ ในงานมีบู๊ธขายน้ำด้วยซ้ำไป ส่วนอาหารไม่แน่ใจแต่ก็ไม่ได้มีคนตรวจอะไร
  9. แอร์เย็นกำลังดี ไม่ลงหัว แต่ถ้าขี้หนาวก็ใส่แจ็คเก็ตมาได้ แต่ถ้าต้องขึ้นรถใต้ดินก็จะร้อนหน่อย
  10. รอบนี้ทุกบู๊ธอยู่ในห้องเดียวกันหมด (อารมณ์เหมือน Plenary Hall สมัยก่อน) ไม่ต้องเดินไกลเหมือนงานที่บางซื่อ โดยงานจัดที่ Hall 5-6-7 ส่วน Hall 8 มีงานของโฮมโปร
  11. สำนักพิมพ์ใหญ่จะอยู่สุดทางเดิน คนละฝั่งกับทางเข้าประตู ทั้งนายอินทร์ B2S มติชน ซีเอ็ด แจ่มใส ติดกันเรียงราย
  12. ทางเดินในงานค่อนข้างแคบ ถ้าอยากจะเคลื่อนตัวไวๆ หน่อย ให้เดินตรงเส้นรอบวงของงานแทน
  13. ถ้าไม่อยากเสียเวลาเกินไป (เพราะยิ่งช้าคนในงานจะยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ) ควรจะคิดก่อนว่าอยากดูบู๊ธไหนบ้าง แล้ว “วางแผนการเดินทาง” ให้ดี ดูรายชื่อสำนักพิมพ์ที่มาออกงานได้โดยการกูเกิ้ล “งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ 2565 มีสำนักพิมพ์ไหนบ้าง? เช็กเลย
  14. ไม่ต้องกด ATM อีกต่อไป! หนึ่งใน pain points สมัยก่อนคือเวลาซื้อหนังสือจนเกินงบ ตังค์หมด ก็ต้องไปเข้าคิวกด ATM แต่งานนี้ Scan QR Code ทุกร้าน ผมไม่ต้องใช้เงินสดเลยสักบาทเดียว
  15. ถ้ามาทางรถใต้ดิน ขากลับคิวซื้อตั๋วจะยาวมาก ทางแก้คือเดินเลียบกำแพงไปซื้อตั๋วอีกฝั่งหนึ่ง หรือถ้าโชคดีลองดูใกล้ๆ ที่ติ๊ดบัตร จะมีพนักงานยืนแจกสลิปที่มี QR Code เอาไว้เก็บเงินปลายทางได้ เหมือนได้บัตร Fast Pass ของสวนสนุกยังไงยังงั้น ผมเลือกใช้ออปชั่นนี้แม้จะต้องจ่ายราคาผู้ใหญ่ก็ตามเพราะลูกๆ เมื่อยและหิวเต็มทีแล้ว
  16. หาหนังสือของผมได้ที่บู๊ธของสำนักพิมพ์ DOT บู๊ธ F06 (Love Me Love My Job) และสำนักพิมพ์อะไรเอ่ย บู๊ธ F34 (Thank God It’s Monday และ ช้างกูอยู่ไหน)
  17. หากใครไม่สะดวกไปงาน สามารถเข้าแอป LINE MAN > Mart แล้วกดแบนเนอร์ “งานมหกรรมหนังสือ ได้โค้ดลดเพียบ

เพิ่มเติมว่าวันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม 17.00 มีขบวนเสด็จนะครับ

อยากให้ได้ไปเดินงานนี้กันครับ ถือเป็นการให้กำลังใจคนทำหนังสือหลังจากที่ต้องเจอสภาวะลำบากมาหลายปี ส่วนเราเองในฐานะนักอ่านก็จะได้กลับมาฝึกฝนให้ตัวเองได้ใช้เวลากับหน้ากระดาษมากกว่าหน้าจอด้วย

งานมีถึงวันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคมนี้ครับผม