สิ่งที่เราตามหาก็กำลังตามหาเราอยู่เช่นกัน

เราตามหาความก้าวหน้าและความสำเร็จ เพราะเราเชื่อว่ามันจะทำให้เรามีความสุข

แต่บางอย่างรีบวิ่งไล่ยิ่งหาไม่เจอ

เหมือนคำพูดของนิ้วกลมที่บอกว่า เรามีความสุขอยู่แล้ว แต่เราต้องมีเวลาให้มันด้วย

ถ้าตื่นมาเรามุ่งแต่จะวิ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว ใช้ชีวิตเพื่ออนาคตอย่างเดียว เราจะไม่มีที่ว่างเหลือให้ปัจจุบัน

ปัจจุบัน เป็นภาษาบาลี ปจฺจ + อุปฺปนฺน ที่แปลว่า “เกิดขึ้นเฉพาะหน้า”

อะไรที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า เรามองเห็นมันบ้างรึเปล่า เราได้ยินมันบ้างรึเปล่า เราได้สัมผัสมันบ้างรึเปล่า

อร่อยกับรสกับข้าวโดยไม่ดูมือถือ

นั่งคุยกับคนตรงหน้าโดยใจไม่เผลอไปคิดเรื่องาน

พิมพ์แป้นและขยับเมาส์ทำงานอย่างรู้เนื้อรู้ตัว

มองเห็นความคิดว่าเรากำลังชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ใจเราเบาสบายหรือใจมันหนักๆ

เมื่อเราอยู่กับปัจจุบันได้จริงๆ ความสุขก็จะแผ่ซ่านมาให้เราได้สัมผัส

“What you seek is seeking you.”

Rumi

สิ่งที่เราวิ่งตามหามาตลอด ก็ตามหาเรามาตลอดเช่นกันครับ

ไม่ต้องเป็นคนเก่งตลอดเวลาก็ได้

บางทีเราก็ยึดมั่นกับภาพลักษณ์ของตัวเองมากเกินไป

ว่าเราคือคนเข้มแข็ง เราคือคนที่ไม่แสดงความอ่อนแอให้ใครเห็น เราจะผ่านมันไปได้ด้วยตัวเอง

แต่ถ้าเราเข็มแข็งมานานเกินไปมันก็มีเหนื่อยมีล้าได้เหมือนกัน

ไม่ได้ผิดอะไรที่จะยอมรับว่าวันนี้เราเหนื่อย ว่าวันนี้เราอ่อนแอ ว่าวันนี้เราต้องการใครบางคนที่จะกอดเราแน่นๆ และบอกเราว่าไม่เป็นไรนะ

“Don’t make it so difficult for others to help you.”
-Gal Shapira.

บอกกับตัวเอง ว่าไม่ต้องเป็นคนเก่งตลอดเวลาก็ได้ครับ

เราใช้เวลามากมายกับการลงมือทำ

และใช้เวลาน้อยนิดกับการคิดว่าควรจะทำอะไร

อะไรที่เราทำเป็นประจำมันก็จะกลายมาเป็น routine

ข้อดีคือมันช่วยเราประหยัดเวลาและพลังงานสมอง

แต่ถ้าอยากจะพบความเป็นไปได้ใหม่ๆ ก็อาจต้องทำให้น้อยลง และอยู่นิ่งๆ เพื่อคิดให้มากขึ้น

ถ้าทำสิ่งเดิม ผลลัพธ์ก็ย่อมเหมือนเดิม

คิดดีๆ ว่าเราต้องการอะไร อีกสิบปีเราอยากไปอยู่ตรงไหน ปีนี้ต้องทำอะไรให้สำเร็จ อีกสามเดือนต่อจากนี้อะไรคือผลลัพธ์ที่เราอยากเห็น และวันนี้เราควรทำอะไรเพื่อจะได้อยู่บนเส้นทางนี้

เราไม่ได้รู้สึกติดแหง็กเพราะเราขี้เกียจเกินไป

เรารู้สึกติดแหง็กเพราะเราทำมากเกินไปโดดอาจจะยังคิดไม่พอเท่านั้นเอง