วันนี้วันศุกร์ มาฟังนิทานกันนะครับ
พอลเพิ่งได้รถหรูคันใหม่เป็นของขวัญคริสต์มาสจากพี่ชาย
ค่ำวันคริสต์มาสอีฟขณะที่พอกำลังเดินกลับมาที่รถ เขาเห็นเด็กชายตัวมอมแมมคนหนึ่งเดินวนรอบรถของพอลด้วยความชื่นชม
“นี่รถของคุณน้าเหรอครับ”
“ใช่ พี่ของน้าซื้อให้”
“โห ผมอยาก…”
พอลรู้ดีว่าเด็กหมายถึงอะไร เขาคงอยากมีพี่ชายอย่างนั้นบ้าง
แต่พอลคาดการณ์ผิด
“ผมอยากเป็นพี่ชายแบบนั้นบ้าง”
พอลมองเด็กผู้ชายคนนั้นด้วยความฉงนสนเท่ห์ ก่อนจะเอ่ยปากชวน
“อยากไปนั่งรถเล่นกับน้ามั้ยล่ะ”
“ผมนั่งรถน้าได้จริงๆ เหรอครับ!” เด็กถาม ตาลุกวาว
“ได้สิ ขึ้นไปนั่งข้างๆ น้าได้เลย”
เมื่อนั่งรถได้สักครู่ เด็กก็ถามพอลว่า
“น้าจะพอขับไปแถวบ้านผมได้มั้ยครับ”
“ไม่มีปัญหา” พอลคิดในใจ เด็กคงอยากจะอวดเพื่อนบ้านว่าได้นั่งรถหรู
แต่พอลคาดการณ์ผิดอีกแล้ว
“น้าช่วยจอดตรงบ้านข้างหน้าหน่อยครับ”
เด็กน้อยวิ่งเข้าไปในบ้าน ไม่กี่อึดใจก็เดินออกมาแบบทุลักทุเล เพราะบนหลังของเขามีเด็กชายตัวเล็กขาพิการด้วย
“นี่ไงไอ้ตัวเล็ก รถที่พี่พูดถึง พี่ชายของน้าเค้าซื้อให้ แล้ววันนึงพี่จะซื้อให้แกคันนึงบ้าง แกจะได้นั่งรถไปรอบๆ เมืองแล้วได้เห็นเหมือนกับพี่ว่าวันคริสต์มาสอีฟเค้าแต่งร้านกันสวยแค่ไหน”
พอลเดินเข้าไปอุ้มน้องชายมานั่งข้างคนขับ ส่วนเด็กชายก็กระโดดขึ้นไปนั่งเบาะหลังด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง
ค่ำคืนนั้น สามหนุ่มนั่งรถชมเมืองด้วยความเบิกบาน
ขอบคุณนิทานจากหนังสือ Chicken Soup for the Soul