3 ชั่วโมงต้องมนต์ที่ Google สิงคโปร์

20170321_GoogleSingapore

ต้นเดือนที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ไปเยือนบริษัทในฝันของใครหลายๆ คน

เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนปลายเดือนกุมภาพันธ์ ยอดกับบอยซึ่งเป็น CEO และ CTO ของ Wongnai ได้รับเชิญไปร่วมงาน Google Developers Launchpad ที่กูเกิลสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย และได้รู้จักกับ Martin ซึ่งเป็นผู้จัดการทีม People Operations ที่สิงคโปร์ (กูเกิลจะเรียกทีม HR ว่า People Operations)

ผมเองก็เป็น Head of People ที่ Wongnai ยอดเลยถามมาร์ตินว่าจะสะดวกให้ผมไปหาเพื่อขอคำชี้แนะได้หรือไม่ มาร์ตินก็ตอบมาว่าได้เลย เราเลยนัดเจอกันตอน 5 โมงเย็นวันศุกร์ที่ 3 มีนาคม

หนึ่งสัปดาห์ก่อนนัดพบ ผมนั่งลิสต์คำถามที่ต้องการจะถามมาร์ติน โดยจะเน้นหนักไปที่การสัมภาษณ์คัดคนและการพัฒนาบุคลากร ส่งไปให้มาร์ตินอ่านก่อน พอเจอกันจะได้ลุยได้เลย

วันที่ 3 มีนาคมผมก็กระโดดขึ้นเครื่องไปสิงคโปร์ ใครอยากรู้ว่าเจออะไรในสิงคโปร์ได้โปรดอ่านอานนท์อินสิงห์บุรีได้ทั้งสองตอน

ออฟฟิศของกูเกิลสิงคโปร์อยู่นอกเมืองหน่อย ออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของสิงคโปร์ ดูเป็นโซนตึกใหม่พอสมควร ระหว่างทางเดินเงียบมากจนไม่แน่ใจว่าไปถูกทางรึเปล่า (รู้แค่ว่ากูเกิลแม็พส์บอกให้เรามาทางนี้) แต่สุดท้ายก็เดินถึงจนได้

ออฟฟิศของกูเกิ้ลดูเป็นตึกสูงหลายสิบชั้น ด้านล่างอาคารไม่มีมนุษย์ซักคนเดียว มีแค่ป้ายที่บ่งบอกว่านี่คือออฟฟิศของกูเกิลแน่ๆ ผมขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 3 ถึงจะเจอล็อบบี้ขนาดใหญ่เป๊ก เดินไปหารีเซปชั่นบอกว่ามาเจอมาร์ตินทีม People Operations รีเซปชั่นก็ชี้ให้ผมเดินไปที่ Kiosk ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ ตู้ ATM เพื่อให้กรอกว่าเราชื่ออะไรและมาพบกับใคร ผมหยิบกล้องขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปหน้าจอ แต่รีเซปชั่นก็ตะโกนมาบอกว่าห้ามถ่ายเลยต้องรีบเก็บกล้องไป

ตู้ Kiosk นี้มี Directory ของพนักงานกูเกิลที่สิงคโปร์อยู่ด้วย แค่พิมพ์ชื่อเต็มของมาร์ตินก็มีหน้ามาร์ตินโผล่ขึ้นมาให้คอนเฟิร์มว่าใช่คนนี้รึเปล่าที่เรานัดเอาไว้ เมื่อเราตอบว่าใช่ หน้าจอก็บอกว่าเรียบร้อยแล้ว โปรดรอซักครู่เดี๋ยวมาร์ตินจะลงมารับ

นั่งรออยู่ทีล๊อบบี้ได้ร่วม 10 นาทีมาร์ตินก็มาถึง เขาเดินไปที่ตู้นั้นอีกครั้งเพื่อปริ๊นท์บัตร Guest มาให้ผมคล้องคอ

20170303_164416

20170303_164503

ไม่มีมนุษย์ มีแต่ป้ายบอกทาง

20170303_164615

เวลามาถึงต้องเช็คอินผ่านตู้ Kiosk

20170303_170323

จอสูง 5 เมตร

มาร์ตินเป็นชาวฟิลิปปินส์ จบตรีด้านการตลาด ไปต่อโทด้าน Organization & Leadership Development ก่อนจะมาทำงานเป็นคอนซัลท์ที่ BCG ในสิงคโปร์และย้ายมาอยู่ Google เมื่อปี 2014

มาร์ตินบอกว่าก่อนที่เราจะเริ่มคุยงาน เขาจะพาผมเดินทัวร์ออฟฟิศของกูเกิลก่อน (รู้ใจจริงๆ)

ออฟฟิศของกูเกิลสวยดังคำร่ำลือ แม้ว่าจะอยู่ในตึกสูง แต่ข้างในดูโปร่งและกว้างขวางมาก เดินผ่านประตูเข้าไปจะมีจอขนาดยักษ์สูงประมาณ 5 เมตร บนจอนั้นมีชื่อแขกที่จะมาเยี่ยมออฟฟิศทุกคน (แต่ไม่ยักกะมีชื่อผมแฮะ)

มาร์ตินเดินพาผมไปดูห้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเคาท์เตอร์บาร์ ห้องพยาบาล ฟิตเนสที่มีลู่วิ่งและเครื่องเล่นเวทรายเรียง ห้องเล่นเกมส์ (มีหลายเกมส์เลยต้องเติมส.เสือการันต์) ห้องนอนกลางวัน (nap room) หรือแม้กระทั่งห้องนวด/ทำเล็บ เสียดายมัวแต่ตื่นเต้นก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาโชว์เท่าไหร่ ผมเลยขอเอาวีดีโอ Youtube นี้มาให้ดูนะครับ

ทีเด็ดสุดคือ Google Cafe ที่ให้อารมณ์แบบเดียวกับห้องทานข้าวในโรงแรมหรูๆ ที่มีของกินหลากหลายและเครื่องดื่มให้เลือกไม่อั้น ของแต่ละอย่างก็คุณภาพดีๆ ทั้งนั้น ขนาดเบียร์ที่เขาให้หยิบกินยังเป็นเบียร์ Hoegaarden เลย

ผมกับมาร์ตินตักอาหารใส่จานแล้วไปหามุมเงียบๆ คุยกัน มาร์ตินหยิบลิสต์คำถามที่ผมเคยส่งให้มาร์ตินออกมา แล้วเราก็นั่งไล่คุยกันไปทีละข้อๆ คุยกันจนข้าวหมดเราเลยเอาจานไปเก็บที่ห้องครัวซึ่งที่มีสายพานขนาดใหญ่คอยรับจานที่ใช้แล้วราวกับนี่คือโรงงานผลิตปานนั้น

ก่อนที่จะไปนั่งคุยกันต่อที่เก้าอี้กึ่งโซฟา มาร์ตินก็พาผมไปหยิบน้ำและขนม เขาอธิบายว่าพวกน้ำและขนมที่มีน้ำตาลเยอะๆ จะถูกจัดไว้ชั้นล่างๆ ให้หยิบยากหน่อย ส่วนน้ำผลไม้ น้ำเปล่า หรือขนมที่ไร้ไขมันจะอยู่ชั้นบนที่หยิบง่ายๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้พนักงานเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพไปโดยปริยาย

อีกประเด็นหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบก็คือบันไดที่เชื่อมระหว่างชั้นซึ่งสร้างออกมาค่อนข้างแคบ เหตุผลไม่ใช่เพราะต้องการประหยัดงบ แต่ต้องการให้คนเดินแล้วไหล่แทบจะชนกัน จะได้มีทักทายทำความรู้จักกัน (ถ้าจำไม่ผิดบันไดน่าจะมีชื่อเรียกว่า  Bumper’s Space)

20170303_170404

มุมขนมนมเนยที่มีอยู่ทั่วออฟฟิศ

20170303_170924

โรงอาหาร

20170303_171447

เบียร์ดีๆ

20170303_182225

น้ำอัดลมจะอยู่ชั้นล่างสุด

20170303_194545

ขนมที่ดีต่อสุขภาพจะหยิบง่ายสุด

20170303_194953

บันไดไหล่ชนกัน

 

เรานั่งคุยกันถึง 2 ทุ่ม ผมได้ไอเดียอะไรดีๆ มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุดคำถามในการสัมภาษณ์ วิธีการทำ performance management รวมไปถึงการทำ bootcamp หรือเทรนนิ่งสำหรับพนักงานที่เข้ามาใหม่ ซึ่งผมจะลองนำมาปรับใช้ที่ Wongnai แล้วถ้าได้ผลยังไงจะไปเล่าให้ฟังที่ Life@Wongnai นะครับ

เราเดินกลับลงมาที่ล็อบบี้อีกครั้ง มาร์ตินเอาบัตร Guest ของผมไปสแกนที่ตู้เพื่อบอกว่าการมาเยี่ยมของผมจบลงเรียบร้อยแล้วและเอาบัตรมาให้ผมเก็บไว้เป็นที่ระลึก ตอนแรกมาร์ตินจะเดินไปส่งผมที่สถานีรถไฟด้วย (เขาเองขับรถมา) แต่เผอิญตอนอยู่ที่ล๊อบบี้ผมเจอเด็กผู้ชายสี่คนกำลังพูดไทยกันพอดี เด็กคนหนึ่งในกลุ่มก็เห็นผมใส่เสื้อยืด Wongnai แถมยังรู้จักกับบอย CTO ของ Wongnai ด้วย เราก็เลยทักทายกันอย่างรวดเร็วและฉายรูปด้วยกัน

เมื่อเห็นผมตีซี้เพื่อนกลุ่มใหม่ได้อย่างรวดเร็ว มาร์ตินก็เลยฝากผมมากับเด็กๆ เสียเลย เราร่ำลากันตรงป้ายกูเกิลหน้าตึก ผมสัญญากับเขาว่าพอเขียนบล็อกเสร็จแล้วจะแปลเป็นภาษาอังกฤษส่งไปให้เขาดูด้วย

ขอบคุณมากนะมาร์ตินสำหรับ 3 ชั่วโมงที่เต็มไปด้วยประสบการณ์และความคิดดีๆ

ระหว่างทางเดินไปรถไฟ ผมจึงได้ทำความรู้จักกับเด็กๆ ทั้ง 4 คน

เคี้ยง เป็น sales ของ Google Cloud

เอ เป็น software engineer อยู่ทีมที่ดูเรื่องภาษาของประเทศใน emerging markets

ต้า กำลังทำสตาร์ทอัพเรื่อง online training

เจมส์ทำงานอยู่ Agoda

เคี้ยงกับเอรู้จักกันมาก่อนเพราะเคยไปเรียนโทที่ University of Tokyo ทั้งคู่

ส่วนต้ากับเจมส์มาที่นี่ในโครงการ Google Developers Experts ด้าน Machine Learning

ตอนนั้นน้องๆ เค้ากำลังจะไปหาข้าวกินกันและเอ่ยปากชวนผมด้วย เสียดายที่ผมดันมีนัดกินบะกุ๊ตเต๋กับเอกไปแล้ว ก็เลยพลาดโอกาสจะได้ทำความรู้จักเพิ่มเติม ได้แค่แลกไลน์กับเคี้ยงไว้เผื่อจะได้ติดต่อกันอีกในอนาคต

การมาเยือนออฟฟิศกูเกิลที่สิงคโปร์ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้

แต่ผมมีลางสังหรณ์ว่านี่น่าจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายนะครับ 🙂

20170303_195313

Rut & Martin

20170303_195556

รุตม์ เคี้ยง เอ เจมส์ ต้า

20170303_201305


ตอนใหม่ facebook.com/anontawongblog
ตอนเก่า anontawong.com/archives
ดาวน์โหลด eBook – เกิดใหม่

ภาพจากกล้องผู้เขียน

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s