ใครจะอยู่ถึงมะรืนนี้?

20150612_Jackma

“Today is difficult, tomorrow is much more difficult, the day after tomorrow is very beautiful, but most die tomorrow evening.”

วันนี้ช่างยากเย็น พรุ่งนี้ยิ่งยากกว่าหลายเท่า มะรืนนี้จะงดงาม แต่พวกเราส่วนใหญ่จะตายตอนย่ำค่ำวันพรุ่งนี้

– Jack Ma

ผมเห็นหน้าแจ๊กหม่าครั้งแรกในร้านหนังสือตอนไปเที่ยวฮ่องกงเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว

ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร แค่คิดว่าหน้าตาเหมือนคุณทักษิณชะมัด

เพิ่งมารู้ทีหลังว่าชายหน้าเหลี่ยมคนนี้คือเจ้าของ Alibaba เว็บขายส่งยักษ์ใหญ่จากเมืองจีนที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาอย่างยิ่งหลังจากที่แจ๊กหม่าพาอาลีบาบาเข้าตลาดหุ้นที่นิวยอร์คและเป็น IPO (มูลค่าของหุ้นในการเข้าตลาดวันแรก) ที่มีมูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึง 21,800 ล้านเหรียญ (ส่วน IPO เฟซบุ๊คนั้นได้ที่ 8 ด้วยมูลค่า 16,007 ล้านเหรียญ)

เราคนไทยรู้กันดีอยู่แล้วว่าคนจีนนั้นขยันและทรหดแค่ไหน ใครที่อายุเกิน 30 อาจจะจำละครเรื่องลอดลายมังกร ตำนานของอาเหลียงที่มาเมืองไทยด้วยเสื่อผืนหมอนใบ เริ่มจากการทำงานเป็นจับกังจนสุดท้ายสามารถสร้างธุรกิจใหญ่โตได้

พวกเราที่เป็นคนรุ่น Millenials (คนที่เข้าสู๋วัยทำงานหลังปี 2000) อาจจะไม่เคยต้องดิ้นรนและขยันเท่าแจ๊กหม่าหรืออาเหลียง

แถมวัฒนธรรมการบริโภคที่ทุกอย่างมาไวไปไว ยิ่งทำให้เรายิ่งมีความอดทนน้อยลงไปอีกหลายเท่า

จนผมไม่แน่ใจว่า หากสถานการณ์บ้านเมืองหรือสถานการณ์โลกพลิกผัน เราจะมีภูมิคุ้มกันเพียงพอที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปได้รึเปล่า

แจ๊กหม่าเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาสอบเอ็นทรานซ์ไม่ติดถึงสามครั้ง เคยร่อนใบสมัครงานไป 30 ที่ก็ไม่มีใครรับ ขนาดสมัคร KFC ซึ่งมีคนสมัครทั้งหมด 24 คน แจ๊กหม่ายังอุตส่าห์เป็นคนเดียวที่เขาไม่รับ!

ถ้าเราเจอการปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างแจ๊กหม่า เราจะเสียเซลฟ์แค่ไหน แล้วเราจะยังสู้ต่อไปมั้ย?

“วันนี้ช่างยากเย็น พรุ่งนี้ยิ่งยากกว่าหลายเท่า มะรืนนี้จะงดงาม แต่พวกเราส่วนใหญ่จะตายตอนย่ำค่ำวันพรุ่งนี้”

หนทางวันข้างหน้าเราจะเจอเหตุการณ์ “วันนี้ช่างยากเย็น” อีกหลายครั้ง

จะมี Millenials ซักกี่คนที่จะอดทนต่อสู้จนได้เห็นความงดงามของวันมะรืนนี้?

—–

ขอบคุณภาพจาก Wikimedia