อย่าโง่

20150203_DungtrinRememberMistake

ผมคิดว่าผมเป็นคนที่ใจเย็นพอสมควร

ใจเย็นในแง่ที่ว่าผมจะไม่ตะโกนหรือวีนใส่ใคร

ถ้ามีใครทำอะไรให้ผมผิดหวังหรืออารมณ์เสีย

อย่างมากก็แค่ทำหน้ามุ่ยๆ แล้วเงียบไป

ไว้อารมณ์ดีขึ้นค่อยมาคุยกันใหม่

การที่ผมไม่เหวี่ยงไม่วีน ไม่ได้แปลว่าไม่โกรธนะครับ

ผมก็ยังโกรธอยู่เรื่อยๆ ตามประสาปุถุชน

และคนที่ผมโกรธบ่อยที่สุดก็คือตัวเอง

—–

โกรธคนอื่น ไม่ยากเท่าไหร่ แค่ไม่ต้องเห็นหน้าหรือได้ยินเสียงก็ทุเลาแล้ว

แต่โกรธตัวเองนี่สิลำบาก เพราะเสียงในหัวมันพูดไม่หยุดเลย

แล้วเท่าที่ผมสังเกต ผมมักจะโกรธตัวเองด้วยแพทเทิร์นเดิมๆ

นั่นคือ มีทางเลือกระหว่าง A กับ B

ผมรู้ว่าควรจะทำ A แต่ดันไปเลือกทำ B

พอ B ส่งผลร้าย ผมก็อดอุทานในใจไม่ได้ว่า “กูว่าแล้ว”

แล้วคำถามว่า “ทำไมไม่ทำ A ตั้งแต่แรก” ก็จะผุดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำอีก

ถ้าพูดภาษาโปรแกรมเมอร์ มันคืออาการ Infinite Loop

กว่าจะหลุดวงจรอุบาทว์นี้ได้ ก็เล่นเอาหมดพลังใจไปไม่น้อย

มาอ่านประโยคนี้ของคุณดังตฤณ จึงพบทางออกใหม่

ว่าแทนที่จะโมโหความผิดพลาดของตัวเอง ผมควรจะเอาเวลาไปสำรวจต้นเหตุของความผิดพลาดดีกว่า

เช่นเราเลือก B เพราะใช้พลังงานลบรึเปล่า หรือเราตัดสินใจไปทั้งๆ ที่ยังโกรธอยู่รึเปล่า

เมื่อรู้ต้นเหตุ ก็ท่องไว้ในใจ จะได้ไม่กลับมาพลาดอีก

เกิดเป็นคน ควรจะเจ็บแล้วจำ

ถ้ายังไม่จำ แสดงว่ายังเจ็บไม่พอ (ฮิ้ว!!)

บาดแผลที่ยังคงอยู่

20150128_Scar

“บาดแผลที่ผู้อื่นทำกับเรานั้น ถึงอย่างไรก็ยังพอหาทางรักษาได้
แต่บาดแผลที่ได้มาจากการทำร้ายผู้อื่น อาจต้องอยู่กับเราตลอดไป”
– เสกสรรค์ ประเสริฐกุล

—–

อ่านประโยคนี้แล้วรู้สึกว่า

ถ้าใครที่ผ่านโลกมามาก และมาพบเจอถ้อยคำนี้ เขาอาจจะสะอึก

หรือบางรายอาจน้ำตาตกในเลยก็ได้

—–

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม

และข้อดีของการอยู่ร่วมกันคือการได้พึ่งพาอาศัย

ได้รัก และได้ผูกพันกัน

แต่สิ่งที่ตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้คือการกระทบกระทั่ง ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ

—–

ผมเชื่อว่าเราหลายคนมีบาดแผลในวัยเด็ก

ซึ่งเกิดจากคนที่รักเรามากที่สุดอย่างพ่อกับแม่

บางบาดแผลเราอาจจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ

แต่ผมเชื่อว่าพ่อกับแม่ยังไม่ลืม และอาจยังรู้สึกผิดมาจนถึงวันนี้

—–

พอเราโตขึ้น เราก็อาจกำลังสร้างบาดแผลให้กับคนที่เรารักมากที่สุดเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นคนที่เลี้ยงเรามา คนที่เรากำลังเลี้ยงอยู่ หรือคนที่ยืนเคียงข้างเรา

ผมก็ได้แต่ภาวนาให้ตัวเองมีสติ และระวังทั้งความคิด คำพูด และการกระทำ

ด้วยความหวังว่า หากต้องมีแผลเกิดขึ้น มันจะเป็นเพียงแค่รอยขีดข่วน

และจะไม่ใช่แผลเป็นที่จะฝังลึกอยู่ในใจเขา และใจเรา ตลอดไป

ผมภาวนาอย่างนั้นจริงๆ

เมื่อไหร่จะเหนื่อยน้อยลง

20150119_WiboonNotRich

ไม่ใช่เรื่องผิดที่คนเราจะมีความทะเยอทะยาน

ยิ่งถ้าเรามีคนที่ต้องรับผิดชอบและดูแลด้วยแล้ว การมีฐานะทางการเงินที่ดีจะช่วยป้องกันและแก้ปัญหาได้หลายอย่างเลย

แต่ถ้าเราเอาความรวยเป็นจุดหมาย ชีวิตอาจจะเป็นทุกข์มาก เหมือนอย่างที่ผู้ใหญ่วิบูลย์เคยประสบมาแล้ว

ผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม เป็นปราชญ์ชาวบ้านผู้บุกเบิกแนวคิด “นวเกษตร” ซึ่งเป็นวิถีแห่งการดำรงชีวิตของมนุษย์ในการอยู่ร่วมกับป่า และสามารถหาอยู่หากินอย่างมีความสุข

แต่กว่าจะมาพบแนวทางนี้ ท่านเคยเป็นคนอยากรวยมากๆ มาก่อน

แต่ยิ่งขยันก็ยิ่งเป็นหนี้ ที่ดินที่เคยมี 200 ไร่ ต้องขายใช้หนี้จนเหลือแค่ 10 ไร่

สุดท้าย ผู้ใหญ่วิบูลย์กลับมาทบทวนตัวเอง และดำเนินตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงจนกลับมายืนหยัดได้อย่างสง่างาม

ผมเองก็อยากทำได้อย่างผู้ใหญ่วิบูลย์นะ แต่เมื่อสำรวจสถานการณ์ในชีวิตและจิตใจของตัวเองแล้ว ก็รู้ตัวว่ายังไม่พร้อมที่จะออกไปทำแบบนั้นได้

ผมกับภรรยาเองกำลังจะเป็นหนี้ก้อนใหญ่จากการซื้อบ้านเดี่ยว

พูดตามตรงก็หวั่นใจอยู่เหมือนกันนะครับ เพราะไม่รู้ว่าว้นข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

และเรากำลังทำอะไรที่เกินตัวและไม่พอเพียงอยู่หรือเปล่า

แต่ก็อีกนั่นแหละ

ความกลัวเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง

ตราบใดที่เรายังใช้ชีวิตอย่างมีสติ ทำงานอย่างเต็มความสามารถ และไม่ปล่อยให้ความโลภครอบงำจนลืมหูลืมตา

ผมเชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้โดยไม่สะบักสะบอมเกินไปนัก

วันนี้ผมยอมเหนื่อย ไม่ใช่เพราะอยากรวย หรืออยากจะมีบ้านหลังใหญ่ใจกลางเมือง

แต่เพราะรู้สึกว่ามันเป็นหน้าที่ของเราที่จะทำเต็มกำลังเพื่อคนที่เรารัก

ทั้งคนปัจจุบัน และคนที่กำลังจะมาถึงในอนาคต (ผมหมายถึงลูกนะครับ ไม่ใช่กิ๊ก!)

อีกสิบปีต่อจากนี้ ก็ไม่รู้ว่าความคิดของผมจะเปลี่ยนไปอีกรึเปล่า

ถึงตอนนั้นอาจจะกำเริบเสิบสาน อยากเป็นเศรษฐี 100 ล้านขึ้นมาก็ได้

ซึ่งก็คงต้องเหนื่อยหนักอีกน่าดู และตัวผมในตอนนี้ก็ยังมองไม่เห็นความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องมีเงินเยอะขนาดนั้น

เลยขอเขียนโพสต์นี้ไว้ เพื่อเตือนใจตัวเองตอนอายุ 45 ปี

ว่าก่อนที่เอ็งจะออกไปตามหาเงินร้อยล้าน จงตอบคำถามสองข้อนี้ให้ได้เสียก่อนว่า

จะมีเงินร้อยล้านไปเพื่ออะไร?

และจะมีเงินขนาดนั้นไปเพื่อใคร?