ผมคิดว่าผมเป็นคนที่ใจเย็นพอสมควร
ใจเย็นในแง่ที่ว่าผมจะไม่ตะโกนหรือวีนใส่ใคร
ถ้ามีใครทำอะไรให้ผมผิดหวังหรืออารมณ์เสีย
อย่างมากก็แค่ทำหน้ามุ่ยๆ แล้วเงียบไป
ไว้อารมณ์ดีขึ้นค่อยมาคุยกันใหม่
การที่ผมไม่เหวี่ยงไม่วีน ไม่ได้แปลว่าไม่โกรธนะครับ
ผมก็ยังโกรธอยู่เรื่อยๆ ตามประสาปุถุชน
และคนที่ผมโกรธบ่อยที่สุดก็คือตัวเอง
—–
โกรธคนอื่น ไม่ยากเท่าไหร่ แค่ไม่ต้องเห็นหน้าหรือได้ยินเสียงก็ทุเลาแล้ว
แต่โกรธตัวเองนี่สิลำบาก เพราะเสียงในหัวมันพูดไม่หยุดเลย
แล้วเท่าที่ผมสังเกต ผมมักจะโกรธตัวเองด้วยแพทเทิร์นเดิมๆ
นั่นคือ มีทางเลือกระหว่าง A กับ B
ผมรู้ว่าควรจะทำ A แต่ดันไปเลือกทำ B
พอ B ส่งผลร้าย ผมก็อดอุทานในใจไม่ได้ว่า “กูว่าแล้ว”
แล้วคำถามว่า “ทำไมไม่ทำ A ตั้งแต่แรก” ก็จะผุดขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำอีก
ถ้าพูดภาษาโปรแกรมเมอร์ มันคืออาการ Infinite Loop
กว่าจะหลุดวงจรอุบาทว์นี้ได้ ก็เล่นเอาหมดพลังใจไปไม่น้อย
มาอ่านประโยคนี้ของคุณดังตฤณ จึงพบทางออกใหม่
ว่าแทนที่จะโมโหความผิดพลาดของตัวเอง ผมควรจะเอาเวลาไปสำรวจต้นเหตุของความผิดพลาดดีกว่า
เช่นเราเลือก B เพราะใช้พลังงานลบรึเปล่า หรือเราตัดสินใจไปทั้งๆ ที่ยังโกรธอยู่รึเปล่า
เมื่อรู้ต้นเหตุ ก็ท่องไว้ในใจ จะได้ไม่กลับมาพลาดอีก
เกิดเป็นคน ควรจะเจ็บแล้วจำ
ถ้ายังไม่จำ แสดงว่ายังเจ็บไม่พอ (ฮิ้ว!!)