นิทานสี่ทิศล้วนเป็นภูเขา

วันนี้วันศุกร์ มาฟังนิทานกันนะครับ

ชายหนุ่มคนหนึ่งขณะที่อายุได้ 27 ปี ก็ละทิ้งตำแหน่งอำมาตย์เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ไปเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ท่านหนึ่ง

พระอาจารย์มอบหน้าที่ดูแลสวนผักใกล้กับบริเวณวัด ฝึกปฏิบัติธรรมท่ามกลางการใช้แรงงานไปด้วย

วันหนึ่งมีพระในวัดรูปหนึ่งหลงนึกว่าตัวเองรู้แจ้งแล้ว สามารถลงจากเขาไปธุดงค์ท่องเที่ยวได้แล้ว เลยไปขออำลากับพระอาจารย์

“สี่ทิศก็ล้วนแต่เป็นภูเขา เจ้าจะไปทางไหน?” พระอาจารย์ถาม

พระรูปนั้นไม่ทราบความหมายที่แฝงอยู่ในคำเหล่านั้น จึงหันหลังกลับวัดไป

ขณะที่เดินไปเรื่อยเปื่อยจนมาถึงแปลงผัก พระที่ดูแลสวนผักกำลังดายหญ้าอยู่ เห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของศิษย์พี่ จึงถามขึ้นว่า

“ศิษย์พี่ ท่านทุกข์ร้อนด้วยเรื่องอันใด?”

ศิษย์พี่จึงเล่าเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นให้ฟัง

พระดูแลสวนผักคิดได้ทันทีว่า สี่ทิศล้วนเป็นภูเขาหมายถึงความหนักและยากลำบาก ทุกหนแห่งล้วนแต่เป็นอุปสรรค พระอาจารย์ต้องการทดสอบความมุ่งมั่นและตั้งใจ แต่เมื่อเห็นว่าศิษย์พี่ยังไม่เข้าใจ พระที่ดูแลสวนผักเลยพูดขึ้นมาว่า

“กอไผ่ถึงขึ้นมาหนาแน่นอย่างไร
ก็ไม่อาจขวางน้ำมิให้เล็ดลอดผ่านไปได้
ภูเขาถึงสูงอย่างไร
ก็มิอาจขวางก้อนเมฆให้ผ่านไปได้”

ศิษย์พี่คิดว่าถ้านำคำตอบนี้ไปให้พระอาจารย์แล้ว พระอาจารย์ต้องชมชอบ
และอนุญาตให้ลงจากเขาได้เป็นแน่ จึงเดินกลับไปหาพระอาจารย์และพูดประโยคที่เพิ่งได้ยินมาจากศิษย์น้อง

แต่เมื่อพระอาจารย์ได้ฟังก็ขมวดคิ้ว จ้องตาเขม็งพลางพูดว่า

“คำตอบนี้เจ้าไม่ได้คิดขึ้นมาเอง ใครเป็นคนช่วยเจ้าคิด?”

เมื่อโดนจับได้ ศิษย์พี่จึงเล่าถึงศิษย์น้องที่ดูแลสวนผัก

“คิดได้ขนาดนี้ ต่อไปต้องมีดีแน่ แม้แต่พระรูปนั้นยังไม่คิดจะลงจากเขาเลย แล้วเจ้ายังจะลงจากเขาอีกหรือ?”


ขอบคุณนิทานจากเว็บ What Am I