อโรคยา

20151017_Arokaya

อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ

พระพุทธภาษิต

——

วันนี้ผมแทบไม่ได้ทำอะไรเลย

นอนตื่นสาย ทานข้าวกับแม่ พาแฟนไปตรวจครรภ์ กลับมานอนดู The Voice เข้าไปดูบ้านใหม่ตอนเย็น พอแฟนไปหาหมอเพราะแฟนบ่นเจ็บหู แล้วจึงทานข้าวเย็น กลับมาก็นอนต่ออีกหน่อย ก่อนต้องฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นมาเขียนบล็อก แต่กว่าจะทำได้ก็มัวแต่เถลไถลดูโน่นดูนี่จนหมดไปอีกเกือบหนึ่งชั่วโมง

สาเหตุหลักของการใช้ชีวิตสะเปะสะปะอย่างนี้ก็เพราะว่าผมไม่ค่อยสบาย

จริงๆ ผมไม่สบายมาสามวันแล้ว คืนวันพุธนอนไม่หลับเกือบทั้งคืน วันพฤหัสฯ จึงลางานนอนอยู่กับบ้านแล้วดีขึ้นมาก แต่พอวันศุกร์กลับไปทำงานก็อาการแย่ลงหน่อย ส่วนวันนี้อาการทรงๆ จนไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย

นี่แค่ป่วยแบบเป็นหวัดเจ็บคอนิดๆ หน่อยๆ ความสามารถยังลดลงไปมากกว่า 50%

ถ้าป่วยหนักกว่านี้ ความสามารถอาจจะลดลงเป็น 0% หรือติดลบก็ได้ (ติดลบเพราะคนอื่นต้องสละเวลามาดูแลเราด้วย)

มาลองคิดดู การที่เราทำอะไรในแต่ละวันได้น้อยลงครึ่งหนึ่ง ก็มีค่าเท่ากับชีวิตของเราสั้นลงไปครึ่งวัน

เพราะแทนที่จะทำสิบเรื่องได้ในวันเดียว เรากลับทำได้แค่ห้าเรื่อง ส่วนเวลาที่เหลือหมดไปกับการนอนซมหรือท่องเน็ตเพราะหัวสมองมันตื้อเกินกว่าจะคิดทำเรื่องที่มีประโยชน์

ผมได้ยินพระพุทธภาษิต อโรคยา ปรมาลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ สมัยยังอยู่ชั้นประถม

เวลาผ่านไป 25 ปี ร่างกายถึงเริ่มออกแววชำรุด และผมเพิ่งจะเริ่มรู้สึก “อิน” กับประโยคนี้

ความเจ็บป่วย จะว่าไปก็เป็นเหมือนกัลยาณมิตรที่มากระซิบบอกเราว่า “จะใช้ชีวิตเหมือนสมัยวัยรุ่นไม่ได้แล้วนะ” แม้ว่าความรู้สึกของเราจะคัดค้านแค่ไหนก็ตาม

คงต้องกินให้ดีกว่านี้ ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอกว่านี้ และพักผ่อนให้เพียงพอกว่านี้

Take care of your body and your healthy body will take care of the rest.

ผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ

—–

ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com

อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ https://anontawong.com/archives/

อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (ถ้ากด Get Notifications ใต้ปุ่ม Like หรือเลือก See First ใต้ปุ่ม Following ก็จะไม่พลาดตอนใหม่ครับ)

ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่

Leave a comment