
วันก่อนผมไปทานข้าวกับคนในทีม มีน้องคนหนึ่งตั้งคำถามว่าเป็นห่วงลูกเรื่องอะไรบ้าง
ผมตอบไปว่าห่วงเรื่องสุขภาพ อยากให้เป็นเด็กที่แข็งแรง และห่วงเรื่องผู้ชายที่จะเข้ามาจีบ (จริงๆ ลูกสาวผมก็อายุแค่ 6 ขวบแต่ผมเตรียมไว้หนวดไปเรียบร้อยแล้ว)
จริงๆ มีอีกประเด็นหนึ่งที่ผมห่วงแต่ไม่ได้เล่าให้น้องฟังในคืนนั้น
ผมห่วงว่าลูกจะสบายเกินไป
ตระกูลแวนเดอร์บิลต์ (Vanderbilt)เคยเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกา
คอร์เนเลียส แวนเดอร์บิลต์ ร่ำรวยจากการเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมทางรถไฟและการขนส่งทางเรือ
ในปี 1877 คอร์เนเลียสมีทรัพย์สินราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าทรัพย์สินของกระทรวงการคลังของสหรัฐในขณะนั้นเสียอีก
แต่ในเวลาเพียง 50 ปีหลังจากคอร์เนเลียสจากไป ก็ไม่มีใครในตระกูลแวนเดอร์บิลต์ที่ติดอยู่ในรายชื่อคนที่ร่ำรวยที่สุดในอเมริกาอีกต่อไป
ทายาทหลายคนเป็นเพลย์บอย ไม่ต้องทำงาน และหมดเงินไปกับการบริจาคและการสร้างคฤหาสน์หรูหราที่ไม่มีคนไปอยู่
ทายาทคนหนึ่งในตระกูลแวนเดอร์บิลต์เคยกล่าวไว้ว่า
“ทรัพย์สมบัติที่รับสืบทอดมาเป็นอุปสรรคขัดขวางความสุข…มันทำให้ฉันไม่มีอะไรให้คาดหวัง ไม่มีอะไรให้แสวงหาหรือมุ่งมั่นทำให้มันเกิดขึ้น”
เราเคยได้ยินมานานว่า ธุรกิจที่ยิ่งใหญ่อยู่ได้ไม่เกิน 3 รุ่น รุ่นแรกสร้าง รุ่นสองรักษา รุ่นสามทำเสียของ
ในมุมกลับกัน ชาติที่แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเยอรมันนีและญี่ปุ่น กลับกอบกู้ตัวเองและมุ่งมั่นพัฒนาประเทศจนมีขนาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ 3 และ 4 ของโลก เป็นรองเพียงอเมริกาและจีนเท่านั้น
มีคำพูดประโยคหนึ่งที่ผมชอบและคิดว่าเป็นความจริงอย่างมาก
“Hard times create strong men. Strong men create good times. Good times create weak men. And, weak men create hard times.”
― G. Michael Hopf, Those Who Remain
ช่วงเวลาที่ยากลำบากจะสร้างคนที่เข้มแข็ง
คนที่เข้มแข็งจะสร้างช่วงเวลาที่รุ่งเรือง
ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองจะสร้างคนอ่อนแอ
คนอ่อนแอจะสร้างช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ในฐานะพ่อแม่ยุคนี้ การจะมีลูกทั้งทีต้องคิดหนัก เพราะมันตามมาด้วยต้นทุนมหาศาล เมื่อตัดสินใจจะมีทั้งทีเราก็เลยอยากดูแลลูกให้ดี เขาอยากกินอะไรก็ได้กิน เขาอยากลองอะไรก็ได้ลอง
แต่บางทีผมก็กลัวว่าสายพิณจะหย่อนเกินไปได้เหมือนกัน
อยากให้เขาได้ลำบากบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าผมกับแฟนจะใจแข็งพอหรือเปล่า แต่ถ้าเราไม่ใจแข็งตอนนี้ เราก็อาจจะทำให้ลูกอ่อนแอโดยไม่ได้ตั้งใจได้เช่นกันครับ