ตอนที่ฉันยังเด็ก โรงเรียนจะคืนสมุดพกมาให้เราทุก 6 สัปดาห์
พวกเราทั้งสี่คนจะเอาสมุดพกไปให้แม่ เพราะพ่อนั้นออกไปรีดนมวัวอยู่
สมุดพกของพี่น้องของฉันทั้งสามคนนั้นดูดีมาก มีแต่เกรด A เต็มไปหมด นานๆ จะมี B โผล่มาสักที แต่มีพี่สาวคนนึงที่ได้ A ทุกวิชาตลอดช่วงชีวิตการเป็นนักเรียน
สมัยนั้นพวกเราจะได้รายงานความประพฤติด้วย ซึ่งพี่น้องของฉันก็ได้รับแต่คำชมเต็มไปหมด
ส่วนสมุดพกของฉันนั้น แค่มี C ติดมาบ้างก็โชคดีมากแล้ว ส่วนเรื่องคะแนนความประพฤติยิ่งไม่ต้องพูดถึง
คุณคงสงสัยว่าพ่อแม่ฉันมีปฏิกิริยายังไง คำตอบก็คือท่านไม่พูดอะไรเลย ไม่มีการเปรียบเทียบอะไรทั้งสิ้น ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเป็นแกะดำเลย พอโตมาถึงได้เข้าใจว่าฉันโชคดีแค่ไหน
เกมมาพลิกตอนฉันขึ้นป.6 เพราะอยู่ๆ ฉันก็เริ่มเข้าใจสิ่งที่คุณครูสอนขึ้นมา แม้เกรดในสมุดพกของฉันจะไม่ได้เริดหรูเท่าของคนอื่น แต่ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ฉันยังจำเหตุการณ์นั้นได้ราวกับมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แม่เปิดดูสมุดพกทีละเล่ม แล้วแม่ก็ไม่พูดอะไรเช่นเดิม แต่พอแม่เปิดสมุดพกของฉัน ฉันเห็นรอยยิ้มเล็กๆ ตรงมุมปาก แต่แม่ก็ไม่พูดอะไรเลยเหมือนกัน ตอนที่พ่อกลับมาถึงบ้าน พ่อก็ทำสิ่งเดียวกับแม่ คือเปิดดูสมุดพกต่างๆ โดยไม่พูดอะไร แต่พอถึงสมุดพกของฉันพ่อก็ยิ้มน้อยๆ เช่นกัน
สิ่งที่ดีที่สุดที่พ่อแม่จะทำให้ลูกได้ คือการไม่ตัดสินลูกจากผลการเรียน
ขอบคุณเนื้อหาจาก Quora: Kathy Pennell’s answer to What was the most life-changing realization of your childhood?