บางทีเราก็ไม่ควรให้ค่ากับ efficiency มากจนเกินไป
เพราะคนไม่ใช่เครื่องจักร ทำสิบครั้งใช่จะเหมือนกันทุกครั้ง มีผิดพลาดได้ มีงอแงได้
ถ้าเรามุ่งเน้นที่จะ super productive จนเกินเลย เราจะทำงานจนไม่ได้มีเวลากินข้าวกินปลา โรคกระเพาะจะถามหา ชีวิตจะไม่โอเค
เปรียบเทียบให้เห็นภาพ สมมติมีโจทย์ว่าภายในสองชั่วโมงจะต้องให้รถวิ่งผ่านทางด่วนเส้นหนึ่งให้เยอะที่สุด แบบไหนจะวิ่งได้เยอะกว่ากัน
- ยัดรถลงไปบนถนนแบบให้เหลือช่องว่างระหว่างรถแต่ละคันแค่ 50 ซ.ม.
- ใส่รถลงไปในจำนวนที่พอดี แต่ละคันห่างกันประมาณ 10 เมตร
ถ้าทำแบบแรก จะไม่มีรถคันไหนวิ่งได้เลย ทำได้แค่เพียงคลานไปเรื่อยๆ
แบบที่สอง การจราจรจะลื่นไหล ทุกคันสามารถขับได้ตามความเร็วที่เหมาะสม
ชีวิตจึงควรจะมี buffer เอาไว้เสมอ
buffer สำหรับงานที่อาจใช้เวลามากกว่าที่คิด
buffer สำหรับเงินสดเผื่อมีเหตุฉุกเฉิน
buffer สำหรับความสัมพันธ์ มี “ที่ว่าง” เหมือนเพลงของวง Pause
อย่าพยายามใส่สิ่งที่เราอยากทำมากจนเกินไป อย่ามองโลกในแง่ดีว่าทุกอย่างจะไปได้สวย
มองโลกในแง่จริง และพก buffer ติดตัวเอาไว้
เพราะวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจจะมาถึงอย่างแน่นอน