Morgan Housel เป็นผู้เขียนหนังสือ Thy Psychology of Money ซึ่งผมยกให้เป็นหนังสือเปลี่ยนชีวิตแห่งปี 2021
Housel เขียนบล็อกลง The Collaborative Fund ซึ่งผมตามอ่านตลอด
วันนี้เจอบทความ Little Rules About Big Things ซึ่งผมคิดว่าน่าจะถูกจริตผู้ติดตาม Anontawog’s Musings เลยขอแปลบางส่วน (ประมาณหนึ่งในสาม) มาให้ชิมลางนะครับ
- ถ้าความคาดหวังของเราเติบโตเร็วกว่ารายได้ เราจะไม่มีวันมีความสุขกับเงินแม้ว่าเราจะมีมันมากเท่าไหร่ก็ตาม
- การไม่กลัวตกรถไฟ (Having no FOMO) อาจเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดสำหรับการลงทุน
- ในโลกยุคนี้แทบไม่มีทักษะใดสำคัญไปกว่าการมี bullsh*t detector
- สิ่งที่เราบอกว่าเป็น “ความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า” มักเป็นการเพิกเฉยต่อข้อมูลใหม่ๆ ที่อาจทำให้เราเปลี่ยนใจ
- มนุษย์มีความต้องการที่แตกต่างกันอย่างมาก ยกเว้นสามเรื่องที่ทุกคนต้องการเหมือนกัน: การได้รับความเคารพจากคนอื่น, ความรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์, และการได้เป็นนายของเวลา
- ตลาด (The market) นั้นมีเหตุผลเสมอ แต่นักลงทุนล้วนเล่นเกมที่แตกต่างกัน ดังนั้นเกมบางเกมจึงดูไร้เหตุผลสำหรับคนที่กำลังเล่นเกมอื่นอยู่
- สิ่งที่เราควรเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ก็คืออดีตนั้นไม่ได้หอมหวานอย่างที่เราระลึกถึง ปัจจุบันไม่ได้แย่อย่างที่เราคิด และอนาคตนั้นจะดีกว่าที่เราคาดการณ์
- การปลอบใจตัวเองที่พบเห็นบ่อยๆ คือการบอกตัวเองว่าสิ่งเลวร้ายที่เกิดกับคนอื่นจะไม่เกิดกับเรา
- เราค่อนข้างมั่นใจได้ว่าอะไรจะทำให้เรามีความทุกข์ แต่เราไม่อาจมั่นใจได้เลยว่าอะไรจะทำให้เรามีความสุขเพราะความคาดหวังของเราขยับสูงขึ้นตลอด
- ประโยชน์สำคัญที่สุดของการมีเงินคือมันช่วยให้เราได้เป็นนายของเวลา
- ช่วงเวลาที่ดีสุดๆ หรือแย่สุดๆ ไม่อาจคงอยู่ได้ยาวนาน เพราะช่วงเวลาดีๆ จะปลูกเมล็ดแห่งความประมาทและความย่ามใจ ส่วนช่วงเวลาแย่ๆ ก็จะปลูกเมล็ดแห่งการแก้ไขปัญหาและการใช้โอกาสให้คุ้มค่าที่สุด
- ประสบการณ์ตรงของเราเป็นเพียง 0.00000001% ของสิ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ แต่เป็น 80% ของวิธีคิดของเราว่าโลกใบนี้ทำงานยังไง
- ในมุมมองของนโปเลียน อัจฉริยะในศึกสงครามคือ “คนที่สามารถทำเรื่องปกติสามัญในเวลาที่ทุกคนกำลังสติแตก” โลกธุรกิจและการลงทุนก็เป็นเช่นนั้น
- การโกหกด้วยตัวเลขนั้นง่ายกว่าการโกหกด้วยคำพูด เพราะมนุษย์เราเข้าใจเรื่องราว (stories) ได้เป็นอย่างดีแต่มักจะมองตัวเลขแค่เพียงผ่านๆ จำนวน “นิยาย” ที่ถูกเขียนในโปรแกรม Word จึงเทียบไม่ได้เลยกับจำนวน “นิยาย” ที่ถูกเขียนใน Excel
- ช่วงเวลาและสถานที่ที่เราเกิดนั้นอาจมีผลต่อชีวิตของเรามากกว่าทุกอย่างที่เราทำ
- ความผิดพลาดทางการเงินส่วนใหญ่เกิดจากการที่เราใช้ทางลัด
- “ความเสี่ยง” คือสิ่งที่เรามองไม่เห็น สิ่งที่เราคิดว่าเกิดขึ้นกับคนอื่นเท่านั้น สิ่งที่เราไม่ได้ใส่ใจ สิ่งที่เราตั้งใจเพิกเฉย สิ่งที่ไม่ได้อยู่ในข่าว เรื่อง surprise เล็กน้อยจึงมักสร้างความเสียหายได้มากกว่าเรื่องใหญ่ๆ ที่เป็นข่าวมาหลายเดือนแล้ว
- คนเราไม่ว่า IQ จะสูงแค่ไหนก็แพ้อารมณ์ได้เสมอ
- ไม่มีใครคิดถึงเรามากเท่ากับเราคิดถึงตัวเอง
- ถ้าเราเชื่อเรื่องความเสี่ยง (risk) เราก็ต้องเชื่อเรื่องโชค (luck) ด้วย เพราะสุดท้ายมันคือสิ่งเดียวกัน – นั่นคือการยอมรับว่ามีอะไรบางอย่างที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเราซึ่งอาจส่งผลลัพธ์ได้มากกว่าทุกสิ่งที่เราทำ