พ่อแม่ต้องโตให้ทันลูก

เมื่อเช้านี้ผมกับแฟนพา “ใกล้รุ่ง” ลูกชายวัยเกือบสามขวบไปทดลองเรียนมอนเตสซอรี่ที่ซอยพัฒนาการ 69 มาครับ

เขาให้ผู้ปกครองเข้าไปนั่งกับเด็กได้หนึ่งคน ผมกับ “ปรายฝน” ลูกสาวคนโตซึ่งเป็นศิษย์เก่าของที่นี่ก็เลยรอด้วยการไปเล่นที่สนามเด็กเล่นกลางแจ้ง ทั้งเล่นทราย เดินบนสะพานเชือก และกระโดดแทรมโปลีน

กิจกรรมที่ใกล้รุ่งได้ทำวันนี้ก็เช่นจำแนกตุ๊กตาสัตว์ หยอดลูกบอลแต่ละสีให้ลงรู เอาฟองน้ำชุบน้ำจากเหยือกหนึ่งไปใส่อีกเหยือกหนึ่ง และทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์หลายต่อหลายอย่าง

ผมกับแฟนชอบการเรียนการสอนแบบนี้ตรงที่มันเปิดโอกาสให้เด็กได้ลองผิดลองถูก สำรวจตรวจสอบ ไม่กลัวที่จะออกนอกกรอบ ไม่กลัวที่จะทำอะไรเสี่ยงๆ

เสร็จจากทดลองเรียน ผมกับแฟนก็ไปดูเฟอร์นิเจอร์แถวเกษตร-นวมินทร์ ระหว่างดูเฟอร์นิเจอร์ เด็กๆ ก็วิ่งไปเล่นโน่นเล่นนี่ เสียงดังเจี๊ยวจ๊าวจนผมต้องปรามหลายทีเพราะเกรงใจคนอื่นเขา ดูเสร็จก็หิวได้ที่เลยพาเด็กๆ ไปกินร้านอาหารญี่ปุ่นที่คริสตัลพาร์ค

ระหว่างที่ผมกำลังสั่งอาหารอยู่ ปรายฝนกับใกล้รุ่งก็ยังไม่เลิกซน เอาพริกป่นมาเทใส่จานกองใหญ่จนพนักงานบริการในร้านตกใจเพรากลัวพริกจะเข้าตาน้อง ผมเลยต้องดุไปอีกรอบว่าอย่าเล่นพริก

สั่งอาหารเสร็จใกล้รุ่งก็เอาซุปมิโสะมาใส่ในแก้วน้ำเด็กแล้วยกซด พอเผลอแป๊บเดียวก็เอากระดาษทิชชู่เปียกยัดใส่แก้วใบเดิมจนกินซุปแก้วนั้นไม่ได้และต้องขอแก้วใหม่

ระหว่างที่ผมหงุดหงิดว่าทำไมลูกซนจัง ผมก็คิดขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง

เออ เมื่อเช้าเราเพิ่งพาเขาไปมอนเตสซอรี่มาเอง

ที่เราพาเขาไปเรียนแบบนี้ ก็เพื่อที่จะให้ชอบการลองผิดลองถูก ไม่กลัวที่จะทำอะไรๆ ที่มันนอกกรอบ

แต่พาออกจากโรงเรียน ผมกับแฟนกลับคาดหวังให้เด็กๆ เชื่อฟังเราทุกอย่าง ห้ามเสียงดัง ห้ามเล่นพริกป่น ห้ามเอาทิชชู่เปียกมาใส่แก้ว อะไรก็ตามที่เรารู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม เสียมารยาท เราห้ามเขาหมดเลย

ตกลงเราอยากให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์แค่ในโรงเรียนอย่างนั้นหรือ ตกลงเราต้องการให้ลูกของเราเป็นเด็กแบบไหนกันแน่

คิดได้อย่างนี้ ก็เลยขำๆ และเล่นไปตามน้ำกับใกล้รุ่งแทน ตราบใดที่มันไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้โต๊ะข้างๆ และพนักงานในร้านมากเกินไป ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

พ่อผมเคยเขียนไว้ว่า เมื่อต้องการฝนก็ต้องยอมรับเสียงฟ้าร้อง ของทุกอย่างมันมาเป็นแพ็คเกจ เราจะเลือกเอาเฉพาะสิ่งที่เราชอบอย่างเดียวนั้นมันเป็นไปไม่ได้

เมื่ออยากให้เด็กคิดและทำอะไรได้ด้วยตัวเอง เราก็ต้องยอมรับด้วยว่าบางครั้งเขาก็จะไม่ฟังเราหรอก ซึ่งนั่นแหละถูกแล้ว คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับพ่อแม่อย่างเราว่าจะพัฒนาตัวเองขึ้นมาให้มีชั้นเชิงมากพอที่จะรับมือกับลูกเรารึเปล่า

เมื่ออยากให้ลูกเติบโต พ่อแม่ก็ต้องเติบโตให้ทันลูกด้วยเช่นกันครับ