หนึ่งคือปีแรกที่เราเกิดมา
สองคือปีที่เราเกษียณ
แม้อัตราการเสียชีวิตของเด็กแรกเกิดจะลดลงอย่างฮวบฮาบในรอบร้อยปีที่ผ่านมา ก็ยังมีเด็กที่เสียชีวิตก่อนจะอายุครบหนึ่งขวบให้เราได้ยินอยู่เนืองๆ
ส่วนปีที่เราเกษียณ คือปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน
จากคนทำงานสู่คนไร้งาน
จากคนที่เคยถูกบังคับให้สร้างคุณค่า กลายเป็นคนที่ต้องคิดเองว่าจะสร้างคุณค่าได้อย่างไร
ซึ่งถ้าคิดไม่ออกหรือทำไม่ได้ ชีวิตก็มีสิทธิ์จะเหี่ยวเฉาได้อย่างง่ายดาย
เราจึงเห็นคนอายุหกสิบที่ดูแก่หง่อม บางทีแก่กว่าคนคนอายุเจ็ดสิบที่ยังทำงานเสียอีก
เป้าหมายที่เราอยากทำงานเก็บเงินเยอะๆ จะได้มีเงินเลี้ยงพ่อแม่ให้สุขสบาย บางทีก็ต้องระวังไม่ให้มันกลายเป็นดาบสองคม
เพราะถ้าสุขสบายเกินไป อยู่บ้านเฉยๆ ร่างกายก็จะไม่ได้ใช้ สมองก็จะไม่ได้ใช้
และอะไรก็ตามที่ไม่ได้ใช้นั้นย่อมเสื่อมโทรมได้โดยง่าย ไม่ต่างอะไรกับบ้านที่ไม่มีคนอยู่
เราจึงควรแสวงหาและยินดีต้อนรับความไม่สุขสบายเข้ามาในชีวิตอยู่เนืองๆ ให้ร่างกายได้พบความลำบากและให้สมองได้ครุ่นคิด เพื่อคงความหนุ่มสาวไว้ให้ยาวนานเท่าที่ธรรมชาติจะเปิดทางให้ครับ
—–
ติดตาม Anontawong’s Musings ทาง LINE: bit.ly/tgimline
Time Management Workshop วันเสาร์นี้เต็มแล้วครับ จะเปิดสอนอีกครั้งประมาณเดือนพ.ค.หรือมิ.ย.ครับ ขอบคุณทุกๆ คนครับ