การได้ไปเที่ยวเมืองนอกเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายๆ คน
แต่ก็มีไม่น้อยที่เมื่อไปอยู่เมืองนอกมาซักพักก็จะได้ข้อสรุปว่าอยู่เมืองไทยดีที่สุดแล้ว
เรื่องที่หยิบยกมาพูดว่าอยู่เมืองไทยแล้วสบายกว่าก็มักจะเป็นเรื่องภาษาที่สื่อสารกันเข้าใจ อาหารถูกปาก และความง่ายๆ สบายๆ ของคนไทย
นอกจากเหตุผลหลักต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ผมก็มานั่งคิดเล่นๆ ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรอีกบ้างที่เมืองไทยมี แต่ฝรั่งไม่มี (เอาเฉพาะฝรั่งนะครับ ไม่นับเอเชีย) โดยใช้ประสบการณ์ตัวเองล้วนๆ ดังนั้นอาจจะผิดพลาดหรือไม่เป็นความจริงทั้งหมดก็ได้ครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกที่คิดได้มีดังนี้
1. หนังยาง – ไม่รู้ทำไมฝรั่งเค้าไม่เห็นค่อยใช้หนังยางกันเลย เวลาปิดถุงเขามักจะใช้วัสดุที่ทำมาจากพลาสติกหรือไม่ก็จากโลหะ แต่ผมว่าหนังยางที่แหละที่สะดวกที่สุดแล้ว จะมัดถุงกับข้าวก็ง่ายและรวดเร็ว จะมัดหนังสือพิมพ์ส่งตามบ้านก็ได้ แถมตอนเด็กๆ เรายังเอามาร้อยไว้โดดเล่นหรือเอามาเหนี่ยวยิงใส่เพื่อนก็ได้ (ผมลองเปิดประวัติ rubber band ดูถึงรู้ว่าอังกฤษคิดค้น แต่กลับไม่รู้สึกว่าเค้าใช้กันแพร่หลายเหมือนบ้านเรา)
2. เชือกฟาง – เชือกที่ฝรั่งมีไม่ว่าจะเป็นเส้นเล็กหรือเส้นใหญ่มักจะเป็นเชือกจริงจังที่มันสากๆ แต่ผมว่าเชือกฟางนี่ทั้งถูก ทั้งเบา แข็งแรง แต่ก็ตัดง่าย ยิ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเก็บหนังสือเพื่อเตรียมย้ายบ้าน ก็ยิ่งเห็นคุณค่าของเชือกฟางเพราะเอาไว้มัดหนังสือเป็นแพ็คๆ ขนาดเหมาะมือได้ชิลล์ๆ
3. สายฉีดก้น – ฝรั่งใช้แต่กระดาษเช็ดก้นกัน (ซึ่งถ้าเช็ดหลายๆ ทีก็อาจเป็นแผลได้) ผมเคยถามครูฝรั่งชาวอังกฤษที่มาอยู่เมืองไทย เค้ายังยอมรับเลยว่าสายฉีดก้นทำความสะอาดได้ดีกว่ากระดาษทิชชู่เยอะเลย แถมยังพูดถึงคนในประเทศเขาเองด้วยว่า “We are very unclean”
4. ห้างร้านที่เปิดถึงสามทุ่ม 7 วันต่อสัปดาห์ – ที่ยุโรปหลายประเทศวันเสาร์ร้านจะเปิดถึงแค่ทุ่มเดียวหรือเร็วกว่านั้น ส่วนวันอาทิตย์นี่แทบจะหาร้านที่เปิดทำการไม่ได้เลย เพื่อนชาวสวิสผมบอกว่าเพราะวันอาทิตย์ผู้คนถือว่าเป็นวันพักผ่อน (พระเจ้าสร้างโลกหกวันแล้วพักวันอาทิตย์) ดังนั้นก็เลยพักผ่อนกันหมดทั้งลูกค้าทั้งเจ้าของร้าน ซึ่งบางทีมันก็ทำให้เราเดือดร้อนเพราะวันอาทิตย์เราก็ต้องกินต้องใช้เหมือนกัน ขณะที่เมืองไทยเราจะไม่มีวันเจอห้างที่ปิดวันอาทิตย์แน่ๆ
5. เซเว่นอีเลฟเว่น – ร้านสะดวกซื้อของฝรั่งส่วนใหญ่เปิดไม่ดึก อย่างมากก็แค่สามทุ่ม ตอนที่ผมไปเที่ยวปารีส สังเกตเห็นว่าร้านที่จะเปิดดึกกว่าสามทุ่มมักจะเป็นร้านมินิมาร์ทเล็กๆ ที่มีเจ้าของเป็นคนเอเชียซะมากกว่า แต่สำหรับเมืองไทย ไม่ว่าจะดึกดื่นแค่ไหน ก็ไม่มีทางอดตายเพราะออกไปเซเว่นเมื่อไหร่ก็จะมีขนมจีบซาละเปาให้กินแน่นอน
6. วินมอเตอร์ไซค์ – กรุงเทพรถติดก็จริง แต่ผมว่าบ้านเราเป็นเมืองที่การจราจรครอบคลุมที่สุดเมืองหนึ่งของโลกเลยนะ ตอนผมไปเที่ยวแมนเชสเตอร์ต้องทนหนาวยืนรอรถเมล์เป็นสิบนาที แต่ถ้าอยู่กรุงเทพ แค่เดินไปนิดหน่อยก็จะเจอยานพาหนะที่จะพาเราไปถึงไหนต่อไหนอย่างง่ายดาย
7. ซาเล้ง – เวลาฝรั่งเขามีของเก่า ถ้าไม่ขนไปทิ้งหรือบริจาค ก็ต้องเปิด Garage Sale* ให้คนแถวนั้นผ่านมาซื้อ แต่ที่บ้านเรามีบริการมาซื้อของเก่าถึงบ้าน ไม่ต้องเสียแรง เสียเวลา เปลืองน้ำมันขับรถออกจากบ้านให้เมื่อยตุ้ม
8. พนักงานที่หยิบของใส่ถุงให้เราเวลาซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต – คำอธิบายยาวเชียว แต่รู้หรือไม่ว่าเวลาเราไปซื้อของตามซูเปอร์มาร์เก็ตที่เมืองนอก พนักงานคิดเงินเขาไม่ได้หยิบของใส่ถุงให้เรานะครับ เขาก็แค่สแกนบาร์โค้ดแล้วก็ผลักสินค้าไปตรงท้ายเคาท์เตอร์ เราจ่ายเงินเสร็จแล้วต้องเอาของใส่ถุงเอง บางทีต้องจ่ายเงินซื้อถุงเพิ่มด้วยเพราะนโยบายรักษ์โลกของซูเปอร์มาร์เก็ตเขา
9. หาหมอที่โรงพยาบาล – อันนี้เป็นความรู้ใหม่จากหัวหน้าซึ่งเป็นชาวอังกฤษอีกเช่นกัน เขาบอกว่าคนประเทศเขาเวลาป่วยจะไปหาหมอที่คลีนิค ไม่ใช่ที่โรงพยาบาล คุณจะเข้าโรงพยาบาลได้ก็ต่อเมื่ออาการคุณหนักหนาสาหัสจริงๆ เท่านั้น ในขณะที่เมืองไทย แค่เป็นหวัดเราก็ไปโรงพยาบาลกันแล้ว (โดยเฉพาะถ้าบริษัทสวัสดิการดี!) ที่สำคัญถ้าคุณเป็นหวัดแล้วจะไปหาหมอคุณต้องโทร.นัดล่วงหน้าหลายวันด้วย!
10. ปากซอย – ฝรั่งไม่น่าจะมีสิ่งที่เรียกว่า “ปากซอย” เพราะผังเมืองเค้าออกแบบมาเป็นบล็อกๆ ไม่ได้เป็นตรอกซอกซอยเหมือนบ้านเรา แต่ผมว่า “ปากซอย” เรานี่แหละคือทีเด็ด เพราะสิ่งละอันพันละน้อยจะอยู่ที่ปากซอยกันเกือบหมด ไม่ว่าจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ปากซอย เซเว่นปากซอย รถเข็นหมูปิ้งปากซอย ป้ายรถเมล์ปากซอย ร้านตัดผมปากซอย ฯลฯ จะบอกว่าปากซอยเป็นแหล่งรวบรวมอารยธรรมและความเจริญก็คงไม่ผิดนัก เพราะ แค่เดินไปปากซอยเราก็มีครบเกือบทุกอย่างแล้ว ขณะที่ฝรั่งต้องขับรถเข้าเมืองถึงจะได้รับบริการเหล่านี้
ผมเชื่อว่ามันยังมีอะไรอีกเยอะแน่ๆ ที่ช่วยให้เมืองไทยสะดวกกว่าเมืองนอก ใครคิดออก รบกวนมาบอกกันผ่านหน้า Anontawong’s Musings Facebook Page นะครับ
—–
* EDIT 9:40pm 7 ส.ค. 2558: ตอนแรกผมเข้าใจผิดว่า Garage Sale คือการขนของไปขายที่ตลาดนัด แต่ได้รับการท้วงติงมา (ดูคอมเม้นท์ด้านล่าง) จึงขอแก้ไขให้ถูกต้องครับ
ภาพจากกล้องผู้เขียน ถ่ายที่เมืองไทยเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2558
ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่”
อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ Archives
อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (ถ้ากด Get Notifications ใต้ปุ่ม Like หรือเลือก Show First ใต้ปุ่ม Following ก็จะไม่พลาดตอนใหม่ครับ)

Pingback: แจกสูตรราชินีแห่งการจัดบ้านแบบมาริเอะ คนโดะ ทิ้งยังไงไม่ให้บ้านรก - สัมมากร
Pingback: วิธีการจัดบ้านแบบ KonMari | Anontawong's Musings
ขอบคุณมากครับคุณ J Keeny เป็นความรู้ที่มีประโยชน์มากเลย
LikeLike
ขอเพิ่มเติมเรื่องหาหมอที่อังกฤษค่ะ คือตามโรงพยาบาลจะเป็นหมอเฉพาะทางค่ะ ต้องไปหาหมอที่คลีนิค (ซึ่งมักจะอยู่ใกล้บ้าน) ก่อน ถ้าเป็นโรคที่ไม่สลับซับซ้อน หมอก็วินิจฉัย แล้วให้ใบสั่งยามาเพื่อไปซื้อที่ร้านขายยาซึ่งอาจจะอยู่อีกที่นึง (อันนี้เมืองไทยสะดวกกว่าค่ะ เพราะรับยาที่โรงพยาบาล/คลีนิค ได้เลย) ถ้าเป็นโรคที่สลับซับซ้อน หมอคลีนิคก็จะส่งตัวต่อไปโรงพยาบาล อันนี้ส่วนตัวมองว่าคล้ายๆที่เมืองไทยที่ต้องไปหาหมอ 30 บาทก่อน แล้วหมอถึงจะส่งต่อไปให้หมอเฉพาะทางอีกที
แต่อย่างหนึ่งที่เมืองไทยสะดวกกว่าแน่ๆ คือหมอคลีนิคที่อังกฤษทำงานจันทร์-ศุกร์ และเปิดเช้าปิดเย็นค่ะ ไม่ได้เปิด 24/7 ถ้าเจ็บป่วยนอกเวลาทำงานคลีนิคก็ต้องใช้ทางเลือกอื่นเช่นสายด่วนสุขภาพ/ drop-in clinics หรือถ้าร้ายแรงก็เข้าห้องฉุกเฉินตามโรงพยาบาล
และหมอที่อังกฤษต้องโทรนัดก่อน ไม่ใช่ว่าป่วยแล้วจะไปหาหมอได้ทันที แต่เค้าจะมีสิทธิ์พิเศษให้สำหรับเด็กและผู้สูงอายุ ที่มักจะนัดได้ในวันเดียว ถ้านอกข่ายนี้บางทีต้องรอนาน สามีเคยปวดหัวมาก โทรไปนัดหมอ ได้นัด 10 วันต่อมา เลยต้องไป drop-in clinic เพื่อรับใบสั่งยามาซื้อยา (ยาหลายชนิดถ้าไม่มีใบสั่งยาก็ซื้อตามร้านยาไม่ได้ค่ะ)
LikeLiked by 2 people
ข้อมุลเพิ่มเติมจากผู้อ่านผ่าน TNews: http://social.tnews.co.th/content/155615/ นะครับ
Sandra Chotechuang · Clearwater Beach:
คิดว่าผู้เขียนบทความนี้จะมีประสพการณ์ในยุโรปเท่านั้น แต่การใข้คำว่า ฝรั่ง คลุมไปถึง Western countries ทุกประเทศชึ่งข้อความของคุณ Apply ไม่ได้เลยสำหรับชีวิตในอเมริกาชิ่งมีหนังยางชื้อได้ใน Super market or Grocery Stores ข้อสาม สายฉีดก้น ฝรั่งเศสเขาใช้ Bidet กดปุ่มฉีดนำ้ ข้อสี่ Garage Sales ใม่ใช่ตลาดนัด เป็นที่เจ้าของบ้านขายรุของใช้แล้วใน Garage ของตนเอง ข้อสืบที่บ้านข้าพเจ้าหยู่ขณะนี้เพียงเดินข้ามถนนไปก็ถึง Grocery Store, Bank,Hair Salon etc. ใม่ต้องขับรถเข้าเมีอง
LikeLike
ขอบคุณรับ ผู้ผ่านมา-anti-copy ที่ช่วยสอดส่องให้ครับ
เผอิญทาง T-News ติดต่อมาขออนุญาตผมก่อนแล้วล่ะครับ ผมก็ยินดีให้เอาไปลงครับผม
มาดูกัน!! 10 สิ่งอำนวยความสะดวกของ “คนไทย” อะไรบ้าง? ที่ฝรั่งไม่มี!
http://social.tnews.co.th/content/155615/
LikeLike
ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้อ่านทาง Facebook คุณ Jaja Jubjub ครับ
“หนังยางมีขายในซุปเปอร์นะ แต่ราคาแพง คนส่วนใหญ่พกพาอาหารแห้ง ที่ไม่เปนน้ำแกงแบบบ้านเราน่ะ แต่มีขายค่ะหาซื้อได้นะ คิดเปนเงินไทยจะแพงหน่อย เวลาซื้อถุงพลาสติกหนึ่งแพค จะมีลวดพลาสติกแถมมาให้ด้วยค่ะ แทนยางมัดของ”
LikeLike
ลงได้สองวัน TNEWS ก๊อบข้อความไปทั้งดุ้งซะงั้น ถึงจะมีเครดิตให้ก็เหอะ
LikeLike