มาจากไหนไม่สำคัญ

20170527_whereyoucomefrom

ที่สำคัญคือคุณจะไปไหนต่างหาก

“It doesn’t matter where you are coming from. All that matters is where you are going.”
– Brian Tracy

คนเราเกิดมาไม่เท่ากันอยู่แล้ว

คนที่ทำบุญมาดี จึงอาจได้เกิดมาในครอบครัวที่ฐานะดีกว่า มีสมองปราชญ์เปรื่องกว่า มีผิวพรรณหน้าตาที่ดีกว่าคนทั่วไป

แต่คนที่เกิดมาท่ามกลางความยากลำบากก็ใช่ว่าจะเสียเปรียบเสมอไป เพราะเขาจะมีทักษะที่ต่อให้มีเงินมากเท่าไหร่ก็จ้างใครมาสอนไม่ได้ เช่นความอดทนและความสู้ไม่ถอย

เราจึงไม่จำเป็นต้องไปขึ้นชกเวทีเดียวกับคนอื่น ถ้าเขาเป็นเฮฟวี่เวตก็ปล่อยเขา เราตัวเล็กหน่อยก็ไปต่อยรุ่นฟลายเวตก็ได้

ตราบใดที่เราไม่ปล่อยให้กิเลสครอบงำจนเกินไป ทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ และคอยสำรวจตัวเองอยู่เสมอ ทุกๆ คนย่อมมีโอกาสเป็นแชมป์ในสังเวียนชีวิตนี้ได้ครับ


อ่านบทความใหม่ทุกวันที่เพจ Anontawong’s Musings: facebook.com/anontawongblog

อ่านบทความทั้งหมด anontawong.com/archives

ดาวน์โหลดหนังสือ “เกิดใหม่” anontawong.com/subscribe/

ใครจะเป็นแชมป์

20170304_champion

I hated every minute of training, but I said, ‘Don’t quit. Suffer now and live the rest of your life as a champion.’

ผมเกลียดทุกนาทีของการฝึกซ้อมแต่ก็บอกกับตัวเองว่า “ห้ามยอมแพ้นะ ทนทุกข์เสียตอนนี้เพื่อจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างแชมเปี้ยน

– Muhammad Ali

ผมเพิ่งกลับมาจากการเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้านครับ มีเรื่องอยากเล่าหลายเรื่องเลย แต่ตอนนี้ยังไม่มีแรงพอมานั่งเขียนบทความยาวๆ

เอาจริงๆ คืนนี้ผมไม่อยากมานั่งที่โต๊ะด้วยซ้ำเพราะง่วงนอนเหลือเกิน แต่ศักดิ์ศรีของบล็อกเกอร์ที่ประกาศไว้ว่าจะเขียนบล็อกทุกวันมันค้ำคออยู่

พออาบน้ำเสร็จแทนที่จะไปนอนก็เลยมาเปิดคอมหาข้อความเป็นเชื้อไฟ

ไปเจอคำพูดของอาลีซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์มาก

‘Don’t quit. Suffer now and live the rest of your life as a champion.’

บางคนอาจจะมองว่า คำพูดนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรา เพราะเราไม่ใช่นักมวย ไม่ได้หวังจะไปชิงแชมป์กับใคร

แต่จริงๆ แล้วการท้าชิงเกิดขึ้นทุกวัน ระหว่างแชม์ที่ชื่อ “ข้อแก้ตัว” และผู้ท้าชิงที่ชื่อ “ความตั้งใจ”

ซึ่งก็ผลัดกันแพ้-ชนะ

ถ้าปล่อยให้ข้อแก้ตัวชนะบ่อยๆ ความนับถือตัวเองก็จะง่อยลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็กลายเป็น loser

แต่ถ้าความตั้งใจของเราชนะบ่อยๆ เราก็จะกลายเป็น champion หรือผู้ที่ชนะใจตนเองได้

จะมีเข็มขัดแชมป์เข็มขัดไหนที่ทรงคุณค่าไปกว่านี้?


ตอนใหม่ facebook.com/anontawongblog
ตอนเก่า anontawong.com/archives
ดาวน์โหลด eBook – เกิดใหม่

ขอบคุณภาพจาก Pexels.com

ถ้ารู้ว่าทำได้ดีกว่านี้

20161020_better

ทำไมไม่ทำให้ดีกว่านี้?

ถ้ารู้ว่าผิดอยู่ ทำไมไม่แก้?

ถ้ารู้ว่ากินข้าวหมดจานได้ ทำไมไม่ทานให้หมด?

ถ้ารู้ว่าถามแล้วจะได้คำตอบ ทำไมไม่ถาม?

ถ้ารู้ว่าจริงๆ จะลุกก็ได้ ทำไมถึงนอนต่อ?

คำถามพวกนี้วนอยู่ในหัวผมมาสองสามวันแล้ว

เพราะถ้าอยากจะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์พร้อม เราจะมัวปล่อยให้ความง่วง ความขี้เกียจ ความผัดวันประกันพรุ่งมาเป็นข้ออ้างไม่ได้

ถ้ารู้ว่าลุกไหว ก็อย่านอนต่อ

ถ้ารู้ว่าผิด ก็แก้ไข

ถ้ารู้ว่าทำได้ดีกว่านี้ ก็จงทำ

ชีวิตอาจจะเหนื่อยขึ้นอีกนิด แต่ก็น่าจะซับซ้อนน้อยลง

และในระยะยาว น่าจะส่งผลดีกว่ากันเยอะเลย


facebook.com/anontawongblog
anontawong.com/archives
Download eBook – เกิดใหม่

ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com

ต้นทุนที่เรามีกันทุกคน

20161005_endowments

Stephen R. Covey ผู้โด่งดังจากหนังสือ 7 Habits of Highly Effective People เคยกล่าวไว้ว่า มนุษย์ทุกคนต่างเกิดมาพร้อมต้นทุน 4 อย่างที่สัตว์ชนิดอื่นไม่มี

1. ความตระหนักรู้ในตนเอง (self-awareness)
2. ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี (conscience)
3. จินตนาการ (imagination)
4. ความมุ่งมั่น (independent will)

ความตระหนักรู้ในตนเองจะทำให้เราสามารถ “ถอยหลัง” ออกมาเพื่อสังเกตความคิดหรือการกระทำของเราว่ามันมีประโยชน์หรือไม่ ความตระหนักรู้ในตนเองยังช่วยสร้าง “ช่องว่าง” ระหว่าง “สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา” กับ “สิ่งที่เราจะตอบสนองออกไป” เมื่อใดก็ตามที่เรามองเห็นช่องว่างนั้น เราก็จะเลือกได้ว่าจะเลือกตอบสนองด้วยวิธีไหน

ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเป็นเหมือนเข็มทิศที่ชี้ไปทางทิศเหนือเสมอ คนเราทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าสิ่งใดคือถูก สิ่งใดคือผิด เหลือเพียงแต่ว่าเราจะฟังเสียงข้างในตนเองหรือจะกลบเสียงนั้นด้วยข้ออ้างต่างๆ นาๆ หรือเปล่าเท่านั้น

จินตนาการ จะช่วยให้เราสร้างภาพของสิ่งที่ยังไม่มี ทำให้เรามองเห็นอนาคตด้วยความหวังและทัศนคติในทางบวก เพื่อที่จะมุ่งไปยังภาพที่เราได้จินตนาการเอาไว้

ความมุ่งมั่น คือแรงขับดันจากภายในที่จะลงมือทำอย่างไม่ย่อท้อ โดยใช้จินตนาการเป็นจุดหมาย ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเป็นเครื่องนำทาง และความตระหนักรู้เป็นเครื่องตรวจสอบตนเองตลอดเส้นทางที่เราเดิน

ไม่ว่าจะยากดีมีจนเพียงใด ต้นทุนทั้งสี่ข้อนี้มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน

และที่สำคัญ คือไม่มีใครสามารถเอามันไปจากเราได้

มีของดีอยู่กับตัวขนาดนี้แล้ว ใช้มันให้คุ้มค่านะครับ


ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ First Things First by Stephen R. Covey

อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (กดไลค์แล้วเลือก See First หรือ Get Notifications ก็จะไม่พลาดตอนใหม่ครับ)

อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ https://anontawong.com/archives/

ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่

ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com

 

ถึงหีบห่อจะไม่สวยงาม

20160801_gift

แต่ข้างในก็ยังเป็นของขวัญอยู่ดี

ทุกๆ สิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา เราสามารถมองว่าเป็นของขวัญได้ทั้งหมด

การมองเรื่องดีๆ ให้เป็นของขวัญนั้นไม่ใช่เรื่องยาก

แต่เราจะมองเรื่องแย่ๆ ให้เป็นของขวัญได้อย่างไร?

สิ่งแรกที่เราควรทำ คือโยนกล่องและกระดาษห่อทิ้งออกไป

เรื่องราวแย่ๆ ก็เหมือนหีบห่อที่บูดเบี้ยวไม่ชวนมอง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่บึ้งตึง คำพูดที่ไม่เข้าหู หรือการกระทำที่ไม่เข้าตา

แต่ถ้าเราสามารถมองทะลุหีบห่อลงไปได้ จะพบว่าข้างในนั้นคือของขวัญที่เราอาจใช้ประโยชน์ได้

ตัวอย่างที่ 1:
หีบห่อ: เขาดูถูกเรา ชอบพูดจาเยาะเย้ยถากถางเราเสมอ
ของขวัญ: เขากำลังประเมินเราต่ำไป ถ้าแข่งกันเรามีสิทธิ์สูงมากที่จะชนะเพราะว่าเขาประมาท

ตัวอย่างที่ 2:
หีบห่อ: เพื่อนร่วมงานไม่ขยัน ทำงานตัวเองไม่ค่อยเสร็จตามที่รับปากไว้
ของขวัญ: เวลาที่เราทำงานเสร็จและทำงานดี เราจะโดดเด่นขึ้นมาทันที

ตัวอย่างที่ 3:
หีบห่อ: เขาไม่มั่นใจในความสามารถของเราเพราะว่าเราประสบการณ์ไม่พอหรือเรียนมาไม่ตรงสาย
ของขวัญ: เมื่อความคาดหวังต่ำ การทำให้ได้ตามความคาดหวังหรือเกินคาดหวังก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งขึ้น

จากนี้ไป ขอให้จำไว้ว่า ทุกๆ เรื่องที่คนรอบข้างหรือโชคชะตาหยิบยื่นให้นั้นอาจมีของดีอยู่ข้างใน

เราอาจจะตกใจกับหีบห่อที่หน้าตาไม่สวยงาม

แต่ถ้าเราไม่เดินหนีหรือโยนมันทิ้งไปเสียก่อน

ลองแกะออกมา แล้วพิจารณาดูดีๆ ว่า “เราจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร”

แล้วทุกเรื่องในชีวิตจะกลายเป็นของขวัญครับ


ขอบคุณไอเดียจากหนังสือ The Obstacle is The Way by Ryan Holiday

อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (กดไลค์แล้วเลือก See First หรือ Get Notifications ก็จะไม่พลาดตอนใหม่ครับ)

อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ https://anontawong.com/archives/

ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่