เหตุผลที่มังกรอ้าปาก

“ถ้าท่านไปที่ถ้ำอชันตาที่อินเดียจะพบภาพอุปมาของอหิงสา เขาทำเป็นรูปมกร (มังกร) อ้าปาก มังกรเป็นสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ มีอำนาจมหาศาล แต่ก็อนุญาตให้ปลาตัวเล็กๆ เข้าไปว่ายน้ำเล่นในปากโดยไม่ทำร้าย ทั้งช่วยปกป้องคุ้มครอง”
-เขมานันทะ หนังสือดวงตาแห่งชีวิต

สิ่งที่มาพร้อมกับอายุงาน คือความรับผิดชอบและอำนาจหน้าที่

เมื่อมีอำนาจสูงส่ง ก็ให้คุณให้โทษได้มากเป็นเงาตามตัว

หากผู้นำใช้อำนาจไปในทางที่ดี คนจำนวนมากก็จะได้อานิสงส์และร่วมอนุโมทนาไปด้วย

หากผู้นำใช้อำนาจไปในทางที่ผิด ผู้นำคนนั้นย่อมไม่ได้รับการสรรเสริญ

เมื่อเราได้เป็นใหญ่ มีปลาเล็กปลาน้อยมาพึ่งพิง จะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด สิ่งทีเราเลือกกระทำจะเป็นตัวบอกว่าเราคือมังกรหรือเป็นตัวอะไรครับ

4 Mindsets และ 5 Skills สำหรับผู้นำทศวรรษใหม่

เผอิญผ่านไปเจอสรุปเนื้อหาจากหนังสือ The Future Leader: 9 Skills and Mindsets to Succeed in the Next Decade ของ Jacob Morgan

เลยนำมาเล่าสู่กันฟังครับ

4 Mindsets ที่สำคัญสำหรับผู้นำในทศวรรษนี้

Mindset 1: นักสำรวจ (Explorer)
ผู้นำยุคใหม่ต้องมีความสงสัยใคร่รู้และความพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลง

Mindset 2: เชฟ (Chef)
ผู้นำยุคใหม่ต้องหาส่วนผสมกลมกล่อมระหว่างเทคโนโลยีและความเป็นมนุษย์ (“HumanIT”) เขายินดีจะลองใช้เครื่องมือใหม่ๆ แต่เครื่องมือเหล่านี้ต้องไม่ไปลดทอนความเป็นมนุษย์ของคนในองค์กร

Mindset 3: ผู้รับใช้ (Servant)
องค์กรที่ดีจะเต็มไปด้วยผู้รับใช้ ลูกน้องจะรับใช้หัวหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมาย หัวหน้าจะรับใช้ลูกน้องเพื่อให้ลูกน้องได้เติบโตและเติมเต็มศักยภาพของตัวเอง ทุกคนจะรับใช้ลูกค้าและผู้ใช้งานเพื่อให้ทุกคนมีประสบการณ์ที่ดี

Mindset 4: พลเมืองโลก (Global Citizen)
ผู้นำยุคใหม่ต้องมองกว้างและใจกว้าง ยอมรับความแตกต่างของผู้คนที่มาจากต่างวัฒนธรรมต่างโลกทัศน์

5 Skills ที่จำเป็นสำหรับผู้นำยุคใหม่

Skill 1: นักอนาคตศาสตร์ (The Futurist)
มองไกล ใคร่ครวญถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น และเตรียมพร้อมที่จะรับมือไม่ว่าไพ่จะออกมาหน้าไหน

Skill 2: โยดา (Yoda)
ใช้ความฉลาดทางอารมณ์เพื่อสร้างความรู้สึกปลอดภัยในที่ทำงานและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการล่มหัวจมท้ายของคนในทีม

Skill 3: นักแปล (The Translator)
ฟังและสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้คนในองค์กรเห็นและมองไปในทิศทางเดียวกัน

Skill 4: โค้ช (The Coach)
เข้าถึง ผลักดัน สร้างแรงบันดาลใจและถ่ายทอดให้กับทุกคนโดยไม่หวงวิชา

Skill 5: วัยรุ่นสายเทค (The Technology Teenager)
กล้าเล่นกล้าลองของใหม่ๆ

ลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ

หัวหน้าต้องทำให้ชีวิตลูกน้องดีขึ้น

20190624_goodleaders

ถ้าทำให้ชีวิตเค้าแย่ลง เค้าจะเกลียดเรา

นี่เป็นคำที่พี่บุ๋ม บุญย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ หัวเรือใหญ่ของ BBQ Plaza มาพูดให้เราฟังใน Wongnai WeShare

“ชีวิตที่ดีขึ้น” ของลูกน้องไม่ได้แปลว่าต้องสบายนะครับ แต่หมายถึงลูกน้องควรจะได้ทำงานที่ท้าทาย ได้เก่งกว่าเดิม และมีโอกาสเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานของเขา

“ซุปปี้” ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนและเจ้านายเก่าของผมก็เคยพูดว่า หัวหน้ากับลูกน้องนั่น “เท่ากัน” ต่างกันเพียงหน้าที่ หน้าที่ของลูกน้องคือทำงานของตัวเองให้ดี หน้าที่ของหัวหน้าคือช่วยให้ลูกน้องทำงานได้ดีขึ้น

เวลาคนๆ หนึ่งตัดสินใจสมัครงานกับบริษัท เขามาเพราะรักในตัวบริษัท แต่เวลาที่พนักงานตัดสินใจลาออกส่วนใหญ่ เขาไม่ได้ลาออกเพราะเกลียดบริษัท แต่ลาออกเพราะเข้ากันไม่ได้กับหัวหน้า

ดังนั้น หัวหน้าทำตัวยังไง มีความเชื่อแบบไหน จึงให้คุณให้โทษได้สูงมาก

ถ้าหัวหน้าดี ลูกน้องก็ทำงานดีและไม่จากไปไหน องค์กรก็เจริญเติบโต

แต่ถ้าหัวหน้าไม่ดี คิดถึงคนอื่นน้อย คิดถึงตัวเองเยอะ ไม่ได้มีจิตใจที่เป็นไปเพื่อส่วนรวม ก็พาคนรอบตัวดิ่งเหวไปด้วย

เป็นหัวหน้าต้องทำให้ชีวิตลูกน้องดีขึ้น

ถ้าทำให้ชีวิตเค้าแย่ลง ก็ถึงเวลาต้องทบทวนตัวเองแล้ว

กฎข้อแรกของการเป็นผู้นำ

20190204_leader

“First rule of leadership: everything is your fault”
-Hopper, from A Bugs Life

ถ้าทีมเราทำได้ดี เราควรให้เครดิตกับลูกน้อง

ถ้าทีมเราทำพลาด เราควรจะแบกรับความผิดไว้เองทั้งหมด

เป็นกฎที่ทำตามได้ยากมาก เพราะอีโก้นั้นรักตัวเองยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

กี่ครั้งแล้วที่เราเสียศรัทธาในหัวหน้าบางคนที่โยนความผิดให้ลูกน้องเวลาเกิดความผิดพลาด

และที่หนักพอกันคือหัวหน้าที่เอาความดีใส่ตัวทั้งๆ ที่ตัวเองแทบไม่ได้ทำอะไร

คนแบบนี้ไม่เท่ และไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

จะให้รับผิดชอบทุกความผิดพลาดเลยอาจจะยังทำไม่ได้ แต่เราสามารถเริ่มจากง่ายไปยากได้

1. ขั้นแรก เริ่มให้เครดิตคนในทีมให้บ่อยขึ้น ชมเขาในที่สาธารณะ

2. ขั้นที่สอง เมื่อเกิดความผิดพลาด ก็ใช้สติรั้งตัวเองไว้ ไม่เผลอด่าลูกน้องในที่สาธารณะ แค่เรียกมาคุยส่วนตัวก็พอ

3. ขั้นสุดท้าย คือเมื่อเกิดความผิดพลาดใดๆ เรายืดอกรับผิดทั้งหมด ซึ่งยากมาก แต่เท่มาก

และจะได้ใจลูกน้อง(ที่ใช่)ไปเต็มๆ ครับ

ไม่มีทีมที่แย่

20190103b

มีแต่หัวหน้าที่แย่

“There are no bad teams. Only bad leaders”
-Jocko Willink

มีคำคมฝรั่งที่บอกว่าฝูงแกะที่นำด้วยสิงโตนั้นน่ากลัวกว่าฝูงสิงโตที่นำด้วยแกะ

ทีมจะเต็มไปด้วยคนเก่งแค่ไหน แต่ถ้าผู้นำไม่ดีก็หาทางเจริญได้ยาก

นี่คือเหตุผลที่ทำไมเวลาทีมฟุตบอลผลงานย่ำแย่ เขาจะเปลี่ยนผู้จัดการก่อน (ผมเชียร์แมนยู และผมดีใจที่มูรินโญโดนปลดและได้โซลชาร์มาแทน)

น้องที่ทำงานจบโทจากมหาลัยรัฐที่โด่งดังแห่งหนึ่ง แม้จะจบมานานแล้วแต่ก็ยังกลับไปช่วยสอนเป็น teaching assistant อยู่ทุกปี แต่ปีนี้เขาบอกว่าจะสอนเป็นปีสุดท้าย เพราะพอเปลี่ยนคณบดีแล้ว อะไรๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

หัวเปลี่ยนเพียงคนเดียวสะเทือนไปได้ทั้งกระบวน

ถ้าเราเป็นหัวหน้าทีม แล้วมีคนมาบอกว่าทีมเราทำงานแย่ คนที่ควรเพ่งเล็งคนแรกคือตัวเราเอง

แล้วถ้าเรายังเป็นเด็กในทีม แล้วหัวหน้าทีมไม่ดี เราจะทำอะไรได้บ้าง?

1. อย่าเป็นอย่างเขา

2. ทำสิ่งที่รู้ว่าถูกต้องและเหมาะสม lead by example เพราะความเป็นผู้นำนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งแห่งหน ต่อให้เป็นเด็กจบใหม่ก็อาจจะมีความเป็นผู้นำและความน่านับถือมากกว่าคนที่ทำงานมาเป็นสิบปีก็ได้

3. ตั้งใจไว้ว่า เมื่อถึงวันที่เราเติบโตเป็นใหญ่ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราจะทำได้คือการเลือกหัวหน้าที่ดีให้กับทีมงานที่อยู่ข้างใต้เราครับ

—–

Storytelling with Powerpoint รุ่นที่ 2 เรียนเสาร์ที่ 19 มกราคมนี้ เหลืออีก 13 ที่ ดูรายละเอียดได้ที่  http://bit.ly/tgimstory2fb

บทความวันละตอนจาก Anontawong’s Musings:

LINE: bit.ly/tgimline

Facebook: bit.ly/tgimfb

Twitter: bit.ly/tgimtwt