ความเจ็บปวดทำให้เราเป็นคนแบบไหน

เมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ผมได้รับโอกาสให้เขียนหนังสือให้คุณอนันต์ เดชอนันตชาติ เจ้าของเครื่องสำอางค์โยโกะ

หนังสือเล่มนั้นมีชื่อว่า “ล้มลุกคลุกคลาน ประสบการณ์ 75 ปี” ที่แชร์ประสบการณ์คุณอนันต์ที่ผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชน

หนึ่งในบทที่ผมชอบที่สุดมีชื่อว่า “ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด”:

“เพื่อนผมคนหนึ่ง ตอนเด็กๆ ที่บ้านยากจนมาก ถึงขนาดที่แม่จะคลอดลูก ไปยืมเงินญาติกลับไม่มีใครให้ยืม

ความแร้นแค้นครั้งนั้นฝังใจเพื่อนผมมาก จนเดี๋ยวนี้แม้จะทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จแล้ว กลายเป็นคนไม่ค่อยจะยอมใช้เงิน ไม่เคยให้ใครยืมเงิน เวลาไปกินข้าวไม่เคยเลี้ยงเพื่อน กลายเป็นเศรษฐีขี้เหนียว เพราะเขาไม่อยากกลับมาจนอีก

ตัวผมเองก็เคยลำบากมากๆ เหมือนกัน ตอนนั้นได้แต่คิดว่า ถ้ามีคนยื่นมือมาช่วยเหลือเราบ้างคงดีไม่น้อย

มาถึงวันนี้ ถ้ามีคนเดือดร้อนมาหา ผมจะพยายามช่วยเหลือเขา เพราะผมเข้าใจดีว่าการมีปัญหาการเงินนั้นมันทุกข์แค่ไหน

แปลกดีที่คนสองคนที่ผ่านสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันกลับได้ข้อสรุปที่ตรงกันข้าม
คนหนึ่งเลือกที่จะเก็บเงินเอาไว้ อีกคนเลือกที่จะปล่อยมันออกไป

เพื่อนคนนั้นเขาก็ถูกของเขา แต่ผมเองผมก็ถูกของผมเช่นกัน”


Donald Miller เป็นผู้เขียนหนังสือ Hero on a Mission: The Power of Finding Your Role in Life

Miller เคยให้สัมภาษณ์ในพ็อดแคสต์ The School of Greatness ของ Lewis Howes

สิ่งที่เขาเล่าในนาทีที่ 35 สอดคล้องกับสิ่งที่คุณอนันต์เคยเล่าเอาไว้

“วายร้ายกับฮีโร่นั้นมีเรื่องราวเบื้องหลังที่เหมือนกันเป๊ะ นั่นคืออดีตที่เจ็บปวด

ฮีโร่มักจะเป็นเด็กกำพร้าหรือเคยถูกทอดทิ้ง ส่วนวายร้ายนั้น ถ้าคุณสังเกต นักเขียนบทจะให้เขามีแผลเป็นบนหน้า หรือเดินขากะเผลก หรือพูดจาติดๆ ขัดๆ ซึ่งล้วนเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าตัวละครนี้มีความหลังที่เจ็บปวด

ดังนั้น ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวของฮีโร่กับว้ายร้าย ก็คือการตอบสนองต่อความเจ็บปวดที่พวกเขาเคยประสบมา

วายร้ายจะพูดว่า “โลกเคยทำร้ายเรา ดังนั้นเราจะทำร้ายโลกกลับ” (The world hurt me, I’m gonna hurt it back)

ส่วนฮีโร่จะพูดว่า “โลกเคยทำร้ายเรา ดังนั้นเราจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับใครอีก” (The world hurt me, I’m not gonna let this happen to anybody else.)

เราตอบสนองต่อความเจ็บปวดอย่างไร คือตัวตัดสินว่าเราจะเป็นฮีโร่หรือจะเป็นวายร้าย”


ชีวิตเกิดมาย่อมไม่เท่ากัน บางคนโชคดีกว่าคนอื่น บางคนก็โชคร้ายกว่าคนอื่น

แต่ถ้าเรายังนั่งอ่านบทความนี้ได้ แสดงว่าเรามีสติปัญญาและศักยภาพเพียงพอที่จะเลือกทำในสิ่งที่ควรทำ

ความเจ็บปวดในอดีตเรากลับไปแก้ไขไม่ได้ เช่นเดียวกับความเจ็บปวดในอนาคตที่ไม่มีมนุษย์คนใดหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน

สิ่งเดียวที่เราพอทำได้ คือจะให้ความเจ็บปวดเหล่านั้นหล่อหลอมเราให้เป็นคนแบบไหนครับ