สิ่งที่รออยู่หลังความลำบาก

สิ่งที่รออยู่หลังความลำบาก

สุดสัปดาห์ที่แล้วน้องชายชวนผมกับลูกๆ ไปปั่นจักรยานที่ Happy & Healthy Bike Lane ที่สุวรรณภูมิ

ปรายฝนและใกล้รุ่งเอาจักรยานไปทั้งคู่ ปรายฝนวัย 7 ขวบขี่จักรยานเป็นอยู่แล้ว ส่วนใกล้รุ่งวัย 5 ขวบเพิ่งเอาล้อเสริมออกได้ไม่นานเลยยังปั่นจักรยานสองล้อไม่เป็น ต้องใช้สองขาค่อยๆ ถีบพื้นไป แต่ก็ค่อนข้างติดขัดเพราะว่ามีที่ถีบจักรยานอยู่ (ใกล้รุ่งอยากได้จักรยานแบบ balance bike ที่ไม่มีที่ถีบ แต่ผมกับแฟนยังไม่ได้ซื้อให้เพราะราคาก็สูงเอาเรื่อง)

ระยะทางจากลานจอดรถถึง bike lane น่าจะอย่างน้อย 200 เมตร ใกล้รุ่งถีบพื้นไปก็บ่นไป เพราะน่องชอบไปขัดกับที่ถีบตลอด

ผ่านมาได้ครึ่งทาง ใกล้รุ่งก็ทนไม่ไหว ร้องไห้ออกมาแล้วบ่นว่า

“ใกล้รุ่งไม่ไหวแล้ว มันลำบาก”

ผมขำเล็กน้อยที่ลูกใช้คำว่า “ลำบาก” ในบริบทแบบนี้ ส่วนแฟนเห็นใจก็เลยให้ใกล้รุ่งลงมาเดิน แล้วแฟนก็ช่วยเข็นจักรยานใกล้รุ่งจนถึง bike lane

โชคดีที่น้องภูมิ ลูกของน้องชายเอา balance bike มาด้วย ใกล้รุ่งเลยยืมของภูมิใช้เพราะเคยขี่คันนี้แล้ว ส่วนภูมิก็ใช้ของที่สถานที่มีไว้ให้ยืม

ใกล้รุ่งกับภูมิขี่จักรยานกันสนุกมาก ผิดกับปรายฝนที่กล้าๆ กลัวๆ กับเส้นทางอันหลากหลาย ทั้งเนิน ทั้งสะพาน และสไลเดอร์ แต่ก็เล่นกันอยู่เกือบสองชั่วโมงก่อนจะต้องเลิกเพราะเริ่มมืดแล้ว

เด็กๆ บอกว่าอยากมาอีก โดยเฉพาะใกล้รุ่งที่อ้อนแม่ว่ารอบหน้าอยากมี balance bike ของตัวเอง


เมื่อวานนี้ วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พวกเราก็ไปขี่จักรยานรอบหมู่บ้านกัน ใกล้รุ่งเหมือนจะถีบจักรยานของตัวเองได้ดีขึ้น ส่วนแฟนก็ค่อยๆ สอนใกล้รุ่งว่า พอจักรยานความเร็วได้ที่ ก็ลองยกขาออกจากพื้นดู แล้วลองนับ 1-2-3 แล้วเอาขามาวางไว้ตรงที่ถีบแล้วลองปั่นจักรยาน

ใกล้รุ่งลองอยู่ 4-5 ครั้ง แล้วก็ปั่นจักรยานได้จริงๆ พอผ่านหน้าบ้านผมเลยแวะไปเอามือถือมาถ่ายวีดีโอเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าลูกชายคนเล็กปั่นจักรยานสองล้อได้เป็นครั้งแรก

ยิ่งปั่นยิ่งมั่นใจ ก็เลยปั่นเร็วขึ้น มีล้มไปสองทีแต่ไม่ร้องซักแอะ ปั่นจนเหงื่อออก แก้มแดง ใบหน้ายิ้มแฉ่ง แถมไม่อยากได้ balance bike แล้วเพราะปั่นแบบนี้ไปได้เร็วกว่าเยอะ

กลับมาถึงบ้าน นั่งกินข้าวเย็นและน้ำผลไม้ด้วยกัน แฟนผมถามใกล้รุ่งว่าวันนี้สนุกมั้ย

“สนุกมาก”

“ไม่ลำบากเหมือนสัปดาห์ที่แล้วแล้วเนอะ”

[ส่ายหน้ายิ้มเขินๆ]

ผมก็เลยบอกใกล้รุ่งว่า

“รู้มั้ยใกล้รุ่ง เวลาเราเจอความลำบากเมื่อไหร่ พอเราผ่านมันไปได้ จะมีความสนุกรอเราอยู่”

แล้วผมก็หันไปหาปรายฝน

“ตอนที่มัมมี่ตั้งท้องปรายฝน มัมมี่ก็ลำบากมาก ท้องก็ใหญ่ กินอะไรก็อาเจียน แต่พอคลอดปรายฝน โตขึ้นมา ก็สนุกเลย!”

[ปรายฝนทำหน้าไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่]

ผมก็เลยยกอีกตัวอย่างหนึ่งว่า ตอนที่ปรายฝนเรียนเปียโนแรกๆ ก็ไม่สนุกใช่มั้ย แต่พอเรียนจบเล่ม 1 ขึ้นเล่ม 2 มันก็สนุกขึ้น เล่ม 3 ก็สนุกกว่าเดิมเพราะเพราะเพลงยาวขึ้น เพราะขึ้น


สิ่งที่รออยู่หลังความลำบาก คือความสนุก

แน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนี้เสมอไป บางครั้งสิ่งที่อยู่หลังความลำบาก คือความลำบากยิ่งกว่าเดิม

แต่ผมก็เชื่อว่าวิธีคิดแบบนี้ยังมีประโยชน์ และใช้ได้จริงในอีกหลายสถานการณ์

มันลำบาก เพราะว่าเราไม่เคยทำ เพราะว่ามันยาก และสิ่งที่ยากมักจะมีคุณค่าในตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน กีฬา ดนตรี ท่องเที่ยว เราจะต้องเดินผ่านหุบเขาแห่งความน่าเบื่อและความลำบากประมาณหนึ่ง แต่ถ้าผ่านมันมาได้ เราก็จะพบช่วงเวลารื่นรมย์ไม่มากก็น้อย

ในทางกลับกัน ถ้ารู้สึกว่าชีวิตช่วงนี้ไม่ค่อยสนุก อาจเป็นเพราะว่าเราไม่ค่อยได้เจอความยากลำบากเท่าไหร่

ถ้าอยากสนุกมากขึ้น ลองออกไปแสวงหาความลำบากให้มากกว่าเดิมดูนะครับ

https://anontawong.com/2023/01/15/after-struggle