บางทีเราก็แค่ต้องเลิกขัดขาตัวเอง

การทำสิ่งที่มีคุณค่ากับชีวิตบางทีมันก็ยากลำบากเหมือนกัน

ยิ่งโปรเจ็คนั้นมีความหมายมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งกลัวจะผิดหวังมากเท่านั้น

เราจึง “หลบซ่อน” ด้วยการ “ทำการบ้าน” เยอะๆ อ่านโน่นอ่านนี่ ถามคนนั้นคนนี้ ทำทุกอย่างเพื่อประวิงเวลาให้ไม่ต้องเริ่มต้นตัวโปรเจ็คจริงๆ เสียที

อุปสรรคที่สำคัญที่สุดจึงไม่ใช่ความยากลำบากในตัวงาน แต่เป็นความขี้กลัวในตัวเรา

เมื่องานสำคัญมันไม่เกิด เราก็จะต่อว่าตัวเองว่าเรานี่ช่างไม่มีวินัย ไม่มีความเข้มแข็ง ไม่มีความกล้าหาญ เราจึงวางโปรเจ็คนั้นลงและหันเหความสนใจไปทำสิ่งอื่นๆ พอขึ้นปีใหม่หรือได้ดูคลิปสร้างแรงบันดาลใจ เราก็เอาโปรเจ็คนี้ขึ้นมาปัดฝุ่น เป็นวังวนอยู่อย่างนี้

บางทีอาจมีทางเลือกที่ดีกว่า หากเราเลิกคาดหวังว่ามันจะต้องดีเลิศ และเลิกมองว่าเราคือตัวเอกของละคร

แทนที่จะมองว่าเราต้อง motivate ตัวเองให้ลุกขึ้นมาทำสิ่งต่างๆ ลองมองว่าสิ่งต่างๆ มันจะเกิดขึ้นตามครรลองอยู่แล้วถ้าเราไม่มัวขัดขาตัวเองอยู่

แทนที่จะถามว่า “เราต้องทำยังไง” (How do I do this?)

ลองถามว่า “อะไรต้องเกิดขึ้นโดยมีเราเป็นตัวกลาง?” (What needs to happen through me?)

เมื่อเอา “ตัวกู” ออกจากสมการ และใช้ร่างกายและจิตใจของเราเป็นเพียงแค่ทางผ่านของการกระทำ

สิ่งดีๆ และมีคุณค่าอาจเกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่ต้องคาดคั้นกับตนเองจนเกินไปครับ


ขอบคุณประกายความคิดจาก Oliver Burkeman: The Imperfectionist: In Your Own Way