นิทานถ่มน้ำลาย

วันนี้วันศุกร์ มาฟังนิทานกันนะครับ

มีชายคนหนึ่งเข้ามาถ่มน้ำลายใส่พระพักตร์พระพุทธเจ้า เขาเป็นพราหมณ์และพระพุทธเจ้ากำลังตรัสสิ่งที่ทำให้เขาโกรธมาก พระองค์ทรงเช็ดออกและถามว่า “มีอะไรจะกล่าวอีกไหม”

พระอานนท์สาวกของพระพุทธเจ้าโกรธมากจนต้องทูลพระพุทธเจ้าว่า “โปรดอนุญาตให้ข้าพระองค์สั่งสอนชายคนนี้ด้วยเถิด ทำเช่นนี้มันเกินไปแล้ว ข้าพระองค์ไม่อาจทนรับได้”

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “แต่เขาไม่ได้ถ่มน้ำลายใส่หน้าท่าน เขาถ่มน้ำลายใส่ตถาคต ลองมองชายคนนั้นสิ แล้วท่านจะเห็นว่าเขาลำบากใจเพียงใด ลองมองชายคนนั้นสิ แล้วท่านจะเห็นใจเขา เขาอยากบอกอะไรสักอย่างแก่ตถาคต แต่ถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ เขาตกที่นั่งลำบากเหมือนกับตถาคต เขาโกรธมากจนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เช่นเดียวกับที่ตถาคตรักมากเกินกว่าจะถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดและการกระทำได้ ตถาคตรู้ว่าเขาลำบากใจที่จะพูดออกมา ด้วยเหตุนี้เขาจึงถ่มน้ำลาย ลองมองชายคนนี้สิ”

ขณะที่พระพุทธเจ้าทอดพระเนตรเขา พระอานนท์ก็มองเขาเช่นกัน ขณะที่พระพุทธเจ้าบันทึกความทรงจำจากข้อเท็จจริง พระอานนท์ก็บันทึกความทรงจำที่ผ่านการปรุงแต่ง

ชายคนนี้แทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าพระพุทธเจ้าจะตรัสเช่นนั้น เขาตกใจมาก หากพระพุทธเจ้าทรงทุบตีเขา หรือหากพระอานนท์พุ่งเข้าใส่เขา เขาคงจะไม่ตกใจ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์จะตอบโต้เช่นนั้น แต่พระพุทธเจ้ากลับทรงเห็นใจเขา และเห็นว่าเขาลำบากใจเพียงใด ชายคนนี้กลับไปนอนไม่หลับทั้งคืน เขาใคร่ครวญและพิจารณาถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เพิ่งเกิดขึ้น เขารู้สึกเจ็บปวดเสียใจ เขารู้สึกตัวแล้วว่าทำอะไรลงไป บาดแผลในใจเขาเปิดออกแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น เขาวิ่งพรวดพราดเข้าหาพระพุทธเจ้าและทิ้งตัวลงแทบพระบาทของพระองค์ พระพุทธเจ้าตรัสแก่พระอานนท์ว่า “ดูสิ ปัญหาเดิมอีกแล้ว ตอนนี้เขามีความในใจต่อตถาคตมากมาย แต่เขาพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เขาจึงสัมผัสเท้าของตถาคต ชายคนนี้ไม่รู้จะทำเช่นไร เขามีความในใจมากเกินกว่าจะสื่อสารออกมาได้ แต่ท่าทางของเขาบ่งบอกอะไรบางอย่าง ดูสิ”

เขาเริ่มร้องไห้และกล่าวว่า “โปรดให้อภัยข้าด้วยเถิดท่านผู้เจริญ ข้าเสียใจเหลือเกิน ข้าช่างโง่เขลาแท้ๆ ที่ถ่มน้ำลายใส่คนเช่นท่าน”

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ลืมมันไปเถิด ผู้ที่ท่านถ่มน้ำลายใส่ไม่มีอีกแล้ว ผู้ที่ถ่มน้ำลายก็ไม่มีอีกต่อไป ท่านเป็นคนใหม่แล้ว ตถาคตก็เป็นคนใหม่ ดูสิ ดวงตะวันกำลังทอแสงรับวันใหม่ ทุกอย่างใหม่หมด ไม่มีวันวานอีกต่อไป จงให้มันจบสิ้นไปพร้อมกันเถิด อีกอย่างหนึ่งตถาคตจะให้อภัยท่านได้อย่างไร เพราะท่านไม่เคยถ่มน้ำลายใส่ตถาคต ท่านถ่มน้ำลายใส่คนที่จากไปแล้วต่างหาก”


ขอบคุณนิทานจาก OSHO: พลังสร้างสรรค์ : ของกำนัลแด่ผู้ฉีกกรอบ แปลโดย ภัทริณี เจริญจินดา