ความรับผิดชอบจะมอบความหมาย

ผมเคยเขียนเอาไว้ว่า มากกว่าเงินคือเราอยากมีความสุข มากกว่าความสุขคือเราอยากมีประโยชน์ มากกว่าประโยชน์คือเราอยากให้ชีวิตมีความหมาย

เพราะภายใต้ความกว้างใหญ่และยาวนานของจักรวาล ชีวิตมนุษย์นั้นแทบไม่มีคุณค่าใดๆ

เราจึงต้องนิยามความหมายของเราขึ้นมาเอง ว่าเกิดมาทำไม อยู่ไปทำไม และที่ทำอยู่ทุกวันนี้นั้นเพื่ออะไรและเพื่อใคร

ในหนังสือ “Between Hello and Goodbye ครู่สนทนา” คุณจิรเดช โอภาสพันธ์วงศ์ ได้สัมภาษณ์คุณอ๋อง วุฒิชัย กฤษณะประกรกิจ อดีตบรรณาธิการนิตยสาร a day BULLETIN และผู้แปลหนังสือ “อิคิไก ความหมายของการมีชีวิตอยู่” (The Little Book of Ikigai) เอาไว้ว่า

ถาม: แล้วมีเหตุการณ์ไหนไหมที่ทำให้คุณรู้สึกค้นพบว่าชีวิตมีความหมาย
ตอบ “ตอนนั้นแม่ผมไม่สบาย อยู่ๆ แม่ไม่มีความรู้สึกที่ปลายเท้า แล้วแม่เริ่มเดินไม่ได้ แม่กับพ่อเลยย้ายไปอยู่กับพี่ชายที่ต่างจังหวัด ในขณะที่ผมครอบครองบ้านที่กรุงเทพฯ คนเดียว ตอนนั้นผมเป็นฟรีแลนซ์ ก็รับจ๊อบเขียนงาน ดูซีรีส์ อยู่ไปวันๆ ชีวิตไร้ความหมาย แล้วเรามีพี่ชายอีกคนซึ่งเขาพิการเพราะตอนเกิดมาเขาถูกกระทบกระเทือนทางสมอง พี่ชายคนนี้อยู่ที่ศูนย์ฝากเลี้ยงแห่งหนึ่ง แต่ละเดือนที่บ้านจะต้องจ่ายตังค์ให้ศูนย์นี้มหาศาล ทั้งค่าแรง ค่าที่ ค่าใช้จ่าย ค่าอาหาร แล้ววันนั้นแม่ที่ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดก็โทรมาหาผม บอกว่า ‘อ๋อง เอาเลขบัญชีมา แม่จะโอนตังค์ค่าเลี้ยงพี่ชายให้’ เพราะแม่เห็นว่าผมตกงาน แล้วแม่ก็ถามว่า ‘อ๋อง กินข้าวหรือยัง อยู่บ้านคนเดียวหาข้าวปลากินยังไง’

ตอนนั้นผมก็บอกแม่ว่า ‘ไม่เป็นไร ผมมีเงินอยู่ แม่ไม่ต้องโอนเงินมา แล้วเดี๋ยวผมหาข้าวหาปลากิน แม่ไม่ต้องเป็นห่วง’ เสร็จแล้วผมก็ขับรถไปธนาคาร เบิกเงินมาปึกหนึ่ง ขับรถข้ามสะพานพระราม 5 ไปยังสถานที่ที่ดูแลพี่ชายเราอยู่ ไอ้โมเมนต์ที่ผมขับรถข้ามสะพานพระราม 5 มันเหมือนกับฟ้าสว่าง เหมือนเราเข้าใจแล้วว่าเราเกิดมาทำไม พ่อเราสอนเราขับรถเมื่อ 10 ปีก่อนเพื่อที่วันหนึ่งเมื่อเขาไม่อยู่บ้านเราจะได้ขับรถไปดูแลพี่เรา พ่อแม่เราส่งเสียเราจนเรียนจบเพื่อที่เราจะได้มาเป็นนักเขียน เพื่อที่เราจะได้มีเงิน เพื่อที่เราจะได้ตัดเงินแต่ละเดือนเพื่อไปจ่ายเงินให้กับคนดูแล ตอนนั้นมันไม่มีคำถามเลยว่าเกิดมาทำไม ความหมายของชีวิตแค่นี้แหละ แค่นี้เลย เพื่อที่จะขับรถมา ณ ตรงนี้ ตอนนี้ เพื่อที่จะให้พี่ชายมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีก 1 เดือน”


หากเรามีภาระ หากเรามีคนต้องดูแล ขอให้เข้าใจว่าตัวเองโชคดี

เพราะแม้ว่ามันจะหนัก แม้ว่ามันจะเหนื่อย แต่ในทางกลับกันภาระเหล่านั้นก็มอบสิ่งยึดเหนี่ยวให้เราตื่นขึ้นมาในทุกเช้าเพื่อออกไปทำอะไรบางอย่าง ซึ่งไม่ต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่อะไร

ขอแค่มันมีคุณค่ากับใครบางคนที่เราแคร์ก็พอแล้ว