ทำเพื่อคนอื่นไม่เป็นภาระเท่าทำเพื่อตัวเอง

คุณพศิน อินทรวงค์ เคยเล่าเรื่องเปรียบเทียบเด็กสองคนที่เรียนเก่งทั้งคู่

คนแรกนั้นอยากสอบได้ที่ 1 เพราะมีนิสัยไม่ชอบยอมแพ้และต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขานั้นเหนือกว่าทุกคนในห้อง

เด็กคนนี้จะตั้งใจฟังคุณครูสอน ทำการบ้านเสร็จรวดเร็ว และทบทวนตำราเรียนอย่างสม่ำเสมอ

ส่วนเด็กคนที่สองนั้นก็อยากสอบได้ที่ 1 เหมือนกัน เพราะเห็นว่าพ่อแม่ทำงานเหนื่อย อยากทำอะไรให้ท่านภูมิใจ

เด็กคนนี้จะตั้งใจฟังคุณครูสอน ทำการบ้านเสร็จรวดเร็ว และทบทวนตำราเรียนอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกัน

มองเผินๆ ดูจะเหมือนกัน การกระทำเดียวกัน และน่าจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกันด้วย

แต่มันมีความแตกต่างที่สำคัญอยู่อย่างหนึ่ง

ถามว่าเด็กคนแรกจะยอมติวหนังสือให้เพื่อนช่วงก่อนสอบรึเปล่า คำตอบคืออาจจะไม่

แต่เด็กคนที่สองมีแนวโน้มที่จะติวหนังสือให้เพื่อน เพราะเป้าหมายไม่ใช่การได้ที่ 1 เป้าหมายคือการเป็นลูกที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ

ถ้าผมอยู่ชั้นเดียวกับพวกเขาทั้งคู่ ผมก็คงอยากเป็นเพื่อนกับเด็กคนที่สองมากกว่า

เพราะคนที่ทำเพื่อตัวเองนั้นมักจะแบกพลังงานลบเอาไว้กับตัว จะรู้สึกกดดัน จะไม่แบ่งปัน จะรู้สึกว่าฉันพลาดไม่ได้

ส่วนคนที่ทำเพื่อคนอื่น แม้ดูเผินๆ ต้องรับภาระหนักกว่า แต่เขากลับมีใจที่เบาสบายเพราะไม่ต้องแบกอัตตาตัวตนไปทุกที่

ทำเพื่อคนอื่นไม่เป็นภาระเท่าทำเพื่อตัวเอง

นี่เป็นความย้อนแย้ง และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการดำเนินชีวิตครับ