ผมเชื่อว่าผู้อ่านทุกคนรู้จักซูเปอร์แมน
ขณะที่ยังแบเบาะ พ่อแม่ของซูปเปอร์แมนได้ส่งเขามายังโลกมนุษย์ก่อนที่ “คริปตัน” ดาวบ้านเกิดของตัวเองจะระเบิด
ว่ากันว่าเพราะดาวคริปตันนั้นมีแรงโน้มถ่วงมากกว่าโลกหลายเท่า ซูเปอร์แมนจึงมีซูเปอร์พาวเวอร์ที่ทำให้วิ่งเร็วกว่ารถไฟ แรงเยอะกว่าช้างสาร และหูดียิ่งกว่าค้างคาว ช่วยโลกได้หลายครั้งหลายครา
แต่มนุษย์เหนือมนุษย์ผู้นี้กลับแพ้ธาตุเรืองแสงสีเขียวนาม “คริปโตไนต์” ที่มาจากดาวบ้านเกิด (ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผู้ร้ายไปหามาจากไหน)
ตอนเด็กๆ ผมเป็นคนกลัวการฉีดยามาก
จำได้ว่าตอนประมาณป.4 ต้องไปฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีถึงสามครั้ง และแต่ละครั้งก็ร้องไห้จ้าทุกที
มาช่วงป.6 นี่แหละ ที่พบว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้และต้องไปฉีดยาทุกสัปดาห์ อาการกลัวเข็มฉีดยาจึงค่อยๆ ทุเลาลง (โรคภูมิแพ้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่แม่ตัดสินใจส่งผมไปเรียนนิวซีแลนด์)
พอมาเรียนมหาวิทยาลัย ก็ได้พบจุดอ่อนตัวเองอีกอย่างหนึ่ง คือแพ้การเจาะเลือด
ผมโดนเจาะเลือดแค่ปลายนิ้ว แต่พอลุกขึ้นเดินกลับเห็นทุกอย่างรอบๆ ตัวค่อยเปลี่ยนเป็นสีดำหมดเลย (นั่นเป็นอาการหน้ามืดครั้งแรกในชีวิตด้วยเลยจำได้แม่น) โชคดีที่ไก่ เพื่อนที่ไปด้วยกันพยุงตัวไว้ทันก่อนที่ผมจะหัวฟาดพื้น
ผมยังมีจุดอ่อนอีกหลายข้อ
ไม่ชอบเสียงดังๆ อย่างเสียงประทัดหรือเสียงฟ้าผ่า
ไม่ชอบขับหรือนั่งรถเร็ว จนแฟนแซวว่าขับรถเหมือนคุณลุง
ไม่ชอบเดินเข้าใกล้หมา โดยเฉพาะตัวที่ดูท่าทางว่าอาจทำร้ายเราได้
อะไรก็ตามที่จะทำให้ “ร่างกายบาดเจ็บ” ได้ ผมจะหลีกเลี่ยงเกือบทั้งนั้น
แต่ถึงผมจะกลัวสิ่งที่ทำให้เกิดความบาดแผลทางร่างกาย แต่ผมกลับไม่กลัวสิ่งที่อาจทำให้เกิดบาดแผลทางอารมณ์
ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นเวทีพูดหรือร้องเพลงต่อหน้าคนเป็นพันคน
หรือจะพรีเซ็นต์หน้าห้องให้ผู้บริหารฟัง
หรือจะนั่งเขียนบล็อกเล่าจุดอ่อนและความผิดพลาดของตัวเองให้คนที่เราไม่รู้จักได้อ่านและรับรู้
ที่บ้านผมเคยมีพี่เลี้ยงเด็กคนหนึ่งชื่อตุ้ม
ตุ้มเป็นคนต่างจังหวัด ตัวเล็กและผอมแห้งจนเหมือนคนขาดสารอาหาร
เวลาให้ตุ้มอุ้มปรายฝน ลูกสาววัย 6 เดือนในขณะนั้น ก็ต้องลุ้นจนเหนื่อยแทน เพราะปรายฝนกินเก่งและตัวใหญ่เกือบเท่าน้าตุ้มแล้ว
ค่ำวันหนึ่งเราเจอจิ้งจกมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ ใต้บันได ไม่ไกลจากตู้เสื้อผ้าและเครื่องนึ่งขวดนมของปรายฝน
แฟนผมเป็นคนกลัวจิ้งจกมากจนไม่กล้าเข้าไปบริเวณนั้น ส่วนผมกับพี่ชายแฟนถึงไม่ได้กลัวเท่า แต่ก็ขยะแขยงเกินกว่าจะกล้าทำอะไรกับมัน
ปรากฎว่าตุ้ม ผู้หญิงที่ตัวเล็กที่สุดในบ้านกลับอาสาจับจิ้งจกด้วยมือเปล่าเพื่อไปปล่อยนอกบ้านด้วยตัวเอง และทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเราถึงกลัวมันนักหนา
สมัยเด็กๆ ผมดูหนังซูเปอร์แมนแล้วก็หงุดหงิด ที่ผู้เป็นหนึ่งในโลกหล้ากลับแพ้ก้อนหินเรืองแสงที่ชาวบ้านชาวช่องเค้าไม่แพ้กัน
แต่โตมาถึงพอเข้าใจว่า เพราะซูเปอร์แมนแพ้คริปโตไนต์นี่แหละ ที่ทำให้ซูเปอร์แมนจับต้องได้ และทำให้มนุษย์เดินดินอย่างเรา “เชื่อมโยง” กับซูเปอร์แมนได้
ถ้าหากซูเปอร์แมนไม่แพ้คริปโตไนต์และไม่มีจุดอ่อนใดๆ เลย หนังเรื่องนี้ก็คงไม่สนุก
เพราะถ้าสู้กับใครก็ชนะหมด แล้วคนดูจะเหลืออะไรให้ลุ้นอีก?
มนุษย์เราทุกคนมีคริปโตไนต์ของตัวเอง
แต่มนุษย์เราทุกคนก็มีซูเปอร์พาวเวอร์ด้วยเช่นกัน
คริปโตไนต์ของผมอาจจะเป็นเข็มฉีดยา แต่ผมก็เชื่อว่าตัวเองมีซูเปอร์พาวเวอร์ในการสื่อสารกับคนหมู่มาก
คริปโตไนต์ของตุ้มอาจจะเป็นปรายฝนตัวใหญ่ แต่ซูเปอร์พาวเวอร์ของตุ้มคือการจับจิ้งจกที่ชายอกสามศอกหลายคนไม่กล้าทำกัน
คริปโตไนต์ของคุณคืออะไร?
และซูเปอร์พาวเวอร์ของคุณคืออะไร?
อย่าไปกังวลหรืออับอายกับคริปโตไนต์ เพราะจริงๆ แล้วจุดอ่อนของเรานี่แหละที่ทำให้ชีวิตมีรสชาติ และทำให้ “หนังเรื่องนี้” น่าติดตาม
ที่สำคัญกว่า คือเราจะใช้ซูเปอร์พาวเวอร์ที่เรามีช่วยโลกใบนี้ได้อย่างไรต่างหาก
ขอบคุณภาพจาก Flickr: Gúnna
อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (กดไลค์แล้วเลือก See First หรือ Get Notifications ก็จะไม่พลาดตอนใหม่ครับ)
อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ https://anontawong.com/archives/
ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่”
ชอบบทความครับอ่านแล้วนึกถึงประโยคนึงในเพลงที่ชื่อ Hero ของศิลปินชื่อ Grace Gaustad “Don’t be your kryptonite”
LikeLike
บทความดีมากเลยค่ะ
LikeLike
บทความน่ารักจังเลยค่ะ
LikeLike