นิทานดีพะย่ะค่ะ

20160212_GoodSir

วันนี้วันศุกร์ มาฟังนิทานกันนะครับ

กาลครั้งหนึ่ง มีนครที่ปกครองโดยพระราชาผู้โปรดปรานการล่าสัตว์

วันหนึ่งได้เกิดกบฏขึ้นภายในพระนคร มีคนลุกฮือขึ้นจะโค่นอำนาจพระราชา ซึ่งก็มีแววจะชนะซะด้วย

เมื่อกองทัพกบฏประชิดเมือง พระราชาก็ได้ปรึกษากับคนสนิทเป็นการใหญ่ ซึ่งรวมไปถึงมหาดเล็กคู่ใจของเขาด้วย

พระราชาถามว่า

“เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้”

“ดีพะยะค่ะ”

“ดียังไง”

“สถานการณ์เวลานี้แม้จะดูไม่สู้ดีนัก แต่อย่างน้อยเราก็จะได้รู้ว่าใครบ้างที่จะจงรักภักดีกับเรา ใครที่คิดจะแปรพรรคไปด้านโน้น ซึ่งหากเราปราบกบฏครานี้ลงได้ ท่านก็จะเหลือแต่ลูกน้องที่จงรักภักดีกับท่าน ทำให้ไม่ต้องกังวลพระทัยอีกต่อไปพะยะค่ะ”

“อืม นั่นสินะ”

พระราชาจึงมีกำลังใจเป็นอันมาก และปราบกบฏลงสำเร็จ

หลังจากนั้นไม่นาน พอย่างเข้าหน้าฝน ฝนก็ตกหนักจนท่วมลามเข้าในพระนคร ทำให้การคมนาคมติดขัด ไม่สามารถเดินทางออกนอกพระนครได้

พระราชาที่ปกติจะออกป่าล่าสัตว์ก็เกิดอาการหงุดหงิด จึงปรึกษามหาดเล็กอีกครั้ง

“เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้”

“ดีพะยะค่ะ”

“ดียังไง”

“ถึงแม้ตอนนี้เราจะไม่สามารถสัญจรไปไหนมาไหนได้ ก็ไม่เป็นไรพะยะค่ะ เนื่องจากตอนนี้เป็นหน้าฝน อย่างไรเสียการเสด็จออกป่าก็คงไม่สนุกเป็นแน่แท้ และเป็นการดีเสียอีกที่พอน้ำลด เกษตรกรเราก็จะได้ทำการเพาะปลูกได้ผลผลิตงอกงาม และ สามารถกักตุนเสบียงได้ในยามจำเป็นพะยะค่ะ”

“อืม นั่นสินะ”

พอเสร็จสิ้นหน้าฝนและน้ำลดแล้ว พระราชาก็ทรงออกป่าล่าสัตว์ตามที่พระองค์ชอบเหมือนเดิม ซึ่งมหาดเล็กคนเดิมก็ติดตามไปด้วย

แต่แล้วขณะที่พระองค์ทรงอยู่บนหลังม้า ปลอกพระขันธ์หรือมีดพกที่เหน็บเอวเกิดรั่วจนทำให้มีดหล่นลงมาเฉือนนิ้วก้อยที่ฝ่าพระบาทของพระราชาขาดไปต่อหน้าต่อตา

พระราชาจึงถามมหาดเล็กเช่นเดิม

“เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้”

“ดีพะยะค่ะ”

“ดียังไง หา!!??”

“ยังไงก็ดีกว่าตายพะยะค่ะ”

พระราชาทรงกริ้วมาก จึงสั่งทหารให้นำมหาดเล็กคนนั้นไปขังลืมในคุกขี้ไก่

10 ปี ผ่านไป พระราชาได้ออกล่าสัตว์เหมือนเดิม ขณะที่มหาดเล็กก็ยังถูกลืมอยู่ในคุกขี้ไก่เหมือนเดิม

ครานี้เป็นโชคร้ายของพระราชา เมื่อเข้าป่าไปเจอกับเผ่ากินคนซึ่งมีจำนวนมากกว่าจำนวนทหารที่ติดตามไปด้วยหลายเท่า ทหารทั้งหมดจึงถูกจับและถูกต้มกินจนหมดเกลี้ยง เหลือแต่พระราชาเพียงองค์เดียว

เมื่อเผ่ากินคนเตรียมจะเชือดพระราชาลงหม้อ ก็สังเกตเห็นว่าพระราชาไม่มีนิ้วก้อยที่พระบาทขวา

ชนเผ่านี้มีความเชื่อว่า การกินคนที่อวัยวะไม่ครบนั้นเป็นกาลกิณี กินเข้าไปแล้วจะเกิดภัยพิบัติใหญ่หลวง จึงสั่งปล่อยตัวพระราชาไปซะ

พระราชาดีใจมากที่รอดตายกลับเมืองมาได้ พลันก็นึกถึงคำพูดของมหาดเล็กคู่ใจเมื่อสิบปีก่อน จึงลงไปที่คุกขี้ไก่ สั่งปล่อยตัวมหาดเล็กคู่ใจ และทรงเล่าเหตุการณ์ที่เจอมา

“อืม คำเจ้าเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นจริง ยังไงนิ้วก้อยด้วนก็ยังดีกว่าตายจริงๆ”

“พะยะค่ะ”

พระราชาจึงถามต่อ

“แล้วอยู่ในคุกขี้ไก่เป็นไงบ้างล่ะหือ”

“ดีพะยะค่ะ”

พระราชาทำหน้างง

“ดียังไง”

“ถ้ากระหม่อมไม่อยู่ในคุก ก็คงเสด็จตามท่านไปในวันนั้นด้วย และคงจะโดนเผ่ากินคนกินไปแล้วพะยะค่ะ”

—–

ขอบคุณนิทานจาก ยิ้มแต้มฝัน.com: “ดีพะยะค่ะ” นิทานเพื่อการมองโลกในแง่ดี

(เนื่องจากนิทานเรื่องนี้มีเล่าอยู่หลายที่มาก ผมเลยพยายามหาอันที่เก่าที่สุดมาใช้ เพราะน่าจะเป็นต้นทางให้หลายๆ ที่ก๊อปปี้มาลงนะครับ โดยยิ้มแต้ฝัน.com เอามาลงเมื่อปี 2008 หรือเกือบแปดปีที่แล้ว ผมเปลี่ยนคำจาก กษัตริย์เป็นพระราชาและเปลี่ยนคำพูดอื่นๆ เล็กน้อยเพื่อให้อ่านได้ลื่นไหลขึ้นครับ)

ขอบคุณภาพจาก Pixabay.com

—–

อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ https://anontawong.com/archives/

อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (ที่ปุ่มไลค์จะมี drop down menu ให้เลือกได้ว่าอยากจะให้มี notifications หรืออยากเห็นโพสต์จากเพจนี้อยู่ต้นๆ ฟีดรึเปล่าครับ)

ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s