ยูโรมโนสาเร่ ตอนที่ 10

5 เรื่องที่ได้เรียนรู้จากการคุยกับเพื่อนชาวฝรั่งเศส

เมื่อสิบปีที่แล้วผมได้รู้จักกับ Franck Garot (ฟร้องค์ แกโร) ซึ่งเป็น support manager ของทอมสัน รอยเตอร์

ตอนนั้นผมมา Training เพื่อรับโปรดักท์ตัวนึงไปดูแลต่อที่เมืองไทย และทีมของฟร้องค์นี่แหละที่เป็นคนสอนผม

พอรู้ว่าผมจะมาเที่ยว ฟร้องค์เลยนัดเจอกับเราใต้หอคอยไอเฟล

ตอนแรกนึกว่าจะเจอกันเดี๋ยวเดียว แต่ปรากฏว่าฟร้องค์อยู่กับเราตั้งแต่หกโมงครึ่งยันเกือบเที่ยงคืน

และนี่คือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากฟร้องค์ครับ

1. ฝรั่งเศสเป็นแชมป์โลกเรื่องการเก็บภาษี
ฟร้องค์พูดขำๆ ว่า France is the World Champion of Tax

เรตมาตรฐานของภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) คือ  20%  ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางจะเหลือแค่ 10% และสินค้าจำเป็นอย่างอาหารก็จะแค่ 5.5%

ส่วนภาษีรายได้ก็โหดพอตัว

สมมติบริษัทจ่ายเงินให้เราเดือนละ 15 บาท
5 บาทจะถูกรัฐบาลเก็บเอาไว้เป็นเงินออมเพื่อการเกษียณและสวัสดิการต่างๆ

ดังนั้นจาก 15 บาท เงินจะถึงมือเราแค่ 10 บาทเท่านั้น

และ 10 บาทที่เราได้มานี้ ต้องเสียภาษีอีก 2 บาท โดยจ่ายปีละครั้ง

หมายความว่า ถ้าคุณเงินเดือน 150,000 คุณจะได้ใช้เงินจริงๆ แค่ 80,000 !

2. แต่สวัสดิการก็ดีมาก
ถ้าคุณป่วย คุณรักษาฟรีตลอด และพออายุหกสิบกว่าๆ คุณก็สามารถเกษียณและกินเงินบำนาญจากรัฐได้เลย

3. ฝรั่งเศสมีนโยบายสนับสนุนให้มีลูกเยอะๆ
วิธีการสนับสนุนมีหลายรูปแบบ
เช่นการให้สิทธิพิเศษในสาธารณูปโภค ฟร้องค์ซึ่งมีลูกสามคน สามารถซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินด้วยส่วนลด 50%

หรืออาจสนับสนุนเป็นค่าลดหย่อนตอนยื่นภาษี
ถ้ามีลูก 1 คน หักค่าใช้จ่ายได้ 1 คน
ถ้ามีลูก 2 คน หักค่าใช้จ่ายได้  2.5 คน
ถ้ามีลูก 3 คน หักค่าใช้จ่ายได้ 4 คน

ฟร้องค์จึงสามารถลดหย่อนภาษีได้พอสมควรคนทั่วไปเงินถึงมือ 10 บาทโดนภาษี 2 บาท แต่สำหรับฟรองค์ โดนภาษีไปแค่ 75 สตางค์

4. ยูโดเป็นกีฬายอดนิยมของชาวฝรั่งเศส
ไม่น่าเชื่อเรื่องที่ 1
ฟร้องค์บอกว่าที่ฝรั่งเศส ยูโดคือกีฬาที่ฮิตรองจากฟุตบอล

ไม่น่าเชื่อเรื่องที่ 2
นักยูโดที่เก่งที่สุดในโลกไม่ใช่ชาวญี่ปุ่น แต่เป็นคนดำคนหนึ่งที่ตอนนี้อาศัยอยู่ในฝรั่งเศส (ผมไม่แน่ใจว่าเขาเชื้อชาติอะไร)

ไม่น่าเชื่อเรื่องที่ 3
ฟรองค์นั้นเป็นนักยูโดระดับสายดำ! (ดูภายนอกแล้วไม่มีทางรู้เลย)

image

5. ชาลส์ เดอ โกล คือไอดอล
ชาลส์ เดอ โกล (Charles de Gaulle) คือหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส ในฐานะที่เป็นประธานาธิบดีอยู่หลายสมัย  และเคยเป็นแกนนำในการต่อต้านนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

ฟร้องค์เล่าว่า ช่วงที่เดอโกลเป็นผู้นำ เดอโกลจ่ายบิลค่าน้ำค่าไฟบ้านประจำตำแหน่งด้วยตัวเอง เพราะไม่ต้องการเบียดบังภาษีประชาชนในช่วงที่ประเทศเพิ่งผ่านพ้นสงครามโลกครั้งที่สองมา ความยึดมั่นในอุดมการณ์ทำให้เดอโกลเป็น role model ของนักการเมืองฝรั่งเศสหลายต่อหลายคน

ด้วยคุณงามความดีที่เดอโกลได้ทำไว้  เราจึงได้เห็นชื่อของเดอโกลในหลายแห่ง  ที่เด่นชัดที่สุดคือสนามบิน Charles de Gaulle ซึ่งเป็นสนามบินหลักของประเทศ และสถานีรถใต้ดิน Chalres de Gaulle – Etoile ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดกับประตูชัย (Arc de Triomphe) นั่นเอง

สำหรับเมืองไทย ที่ผมพอนึกออกคือซอยปรีดีพนมยงค์เท่านั้น
คงอีกซักพักกว่าเมืองไทยจะมีนักการเมืองที่คนจะยกย่องจนนำไปตั้งเป็นชื่อสถานที่เช่นนั้นอีก
แค่ลองนึกภาพว่าเรามีสนามบินทักษิณหรือ สถานีอภิสิทธิ์ก็จั๊กจี้แล้ว

—–
เป็นอันจบเรื่องมโนสาเร่ในฝรั่งเศส
พรุ่งนี้เราจะไปต่อกันที่ปราก (Prague) นะครับ

2 thoughts on “ยูโรมโนสาเร่ ตอนที่ 10

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s