เหตุผลที่เราควรกอดกันให้เยอะๆ

ผมเพิ่งกลับจากจีนมาเมื่อค่ำวันเสาร์ เป็นการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อยพอสมควรเพราะใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมจนถึงบ้านรวมแล้ว 14 ชั่วโมง

คืนวันเสาร์เลยหลับเป็นตาย ตื่นเช้ามาวันอาทิตย์ ก็รู้ตัวว่าลูกๆ ที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายวันขึ้นมานอนขนาบข้าง เข้ามาคลอเคลียใกล้ๆ ผมในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นเลยยื่นมือไปจับหัว ลูบผม และเอาตัวเขาเข้ามากอด

แล้วอะไรบางอย่างก็บอกผมว่า เราควรจะกอดกันไว้ให้เยอะๆ

เวลาเราอยากบันทึกความทรงจำ เรามักจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูป

หรือถ้าเราอยากเก็บเสียงเอาไว้ด้วย เราก็จะใช้มือถือถ่ายวีดีโอ

แต่เราไม่สามารถใช้มือถือถ่ายกลิ่น ถ่ายรสชาติ หรือถ่ายสัมผัสเอาไว้ได้เลย

เคยสงสัยมั้ยครับว่า ว่าในสัมผัสทั้งห้าของเรา ทำไมอุปกรณ์ที่เรามีจึงสามารถบันทึกได้แค่เสียงและภาพเท่านั้น

ผมมานั่งคิดดูเล่นๆ ก็ได้คำตอบว่า เพราะภาพและเสียงนั้นเป็นคลื่น (wave) ซึ่งสามารถถูก encode เป็น ข้อมูล binary คือเลข 0 กับ 1 ได้ และเราสามารถใช้พลังงานไฟฟ้าในการ regenerate ภาพและเสียงจากข้อมูลเหล่านั้นได้

แต่กับอีกสัมผัสทั้งสาม ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น รสชาติ หรือสัมผัส เราไม่สามารถจัดเก็บเป็นข้อมูลเพื่อนำกลับมา replay ทีหลังได้

เพราะกลิ่นนั้นเป็นสิ่งที่ผูกติดอยู่กับโมเลกุล หรือถ้าพูดให้ลึกลงไปอีกก็คือ particle ซึ่งไม่สามารถเก็บเป็นข้อมูล binary แล้วใช้ไฟฟ้า regenerate กลิ่นขึ้นมาใหม่ ส่วนรสชาติก็อยู่กับ particle เฉกเช่นเดียวกัน ส่วนสัมผัสนี่ไม่แน่ใจว่าจะจำแนกเป็นอะไรดี

ดังนั้นเราจึงยังไม่มีเครื่องมือใดในชีวิตประจำวันที่จะสามารถใช้เก็บกลิ่น รสชาติ และสัมผัสเพื่อเอากลับมา replay ทีหลังได้ สิ่งที่วิทยาศาสตร์อาจจะทำได้คือการเล่นกับคลื่นไฟฟ้าในสมองของเราโดยตรงเพื่อให้เกิด “เวทนา” (ความรู้สึก) โดยที่ไม่ต้องมีผัสสะจากภายนอก แต่นั่นคงยังต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าถึงเทคโนโลยีแบบนั้นได้

และนี่คือเหตุผลสำคัญที่เราควรกอดกันและสัมผัสกันไว้ให้เยอะๆ เพราะ “อุปกรณ์” เพียงชิ้นเดียวที่เรามีคือสมองของเราที่จะเก็บความรู้สึกดีๆ อันนี้เอาไว้ เพื่อให้เราได้ระลึกถึงด้วยความสุขเมื่อวันเวลาได้ผ่านพ้นไปแล้วครับ