อ่านหนังสือที่เราชอบ
ทำงานที่ยากแต่มีคุณค่า
ทำงานอดิเรกแม้ว่ามันจะขายไม่ได้หรืออวดใครไม่ได้
วิ่งรอบสวนสาธารณะยามเช้า
นัดกินข้าวกับคนในครอบครัว
กินสลัด
กอดลูก
โทรคุยกับเพื่อนเก่า ไม่ใช่แค่ไลน์คุยกัน
ถ้าสังเกต ความสุขพวกนี้ต้องออกแรงนิดนึง ก่อนทำอาจมีแรงต้าน แต่พอทำแล้วเรามักจะรู้สึกว่ามันคุ้มค่า
และความสุขพวกนี้มันอาจไม่ได้เว่อร์วัง ไม่เหมือนการได้ไปเที่ยวเมืองนอก ไม่เหมือนได้แก็ดเจ็ทใหม่ ไม่ใช่อะไรที่เป็นโอกาสพิเศษ
แต่เพราะว่ามันไม่ได้พิเศษ มันจึงเป็นความสุขที่เราเข้าถึงได้ทุกวัน และสิ่งที่เราได้ทำทุกวันนี่แหละคือสิ่งที่จะมีความหมายต่อคุณภาพชีวิตอย่างแท้จริง
อะไรที่นำมาซึ่งความทุกข์ก็ทำให้น้อยลง
ท่องโลกโซเชียล
เช็คเรตติ้งโพสต์ของตัวเอง
ซื้อของเล่นราคาแพงด้วยเงินผ่อน
ดูซีรี่ส์หลายๆ ตอนติดกัน (binge watching)
กินของอร่อยที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ทำเลย แค่บอกว่าลองทำให้น้อยลง
เพราะของพวกนี้ล้วนมี “ผลลัพธ์ขั้นที่สอง” ที่เป็นลบ
ผลลัพธ์ขั้นแรก (first-order consequence) คือความเพลิดเพลิน คือความอิ่มหมีพีมัน คือความสาแก่ใจ
แต่ผลลัพธ์ขั้นที่สอง (second-order consequence) คือความเครียด ความสะโหลสะเหล ความ LDL สูง ความ depressed อยู่ลึกๆ เพราะรู้สึกว่าตัวเองยังดีไม่พอ
อะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็ทำให้มากขึ้น อะไรที่นำมาซึ่งความทุกข์ก็ทำให้น้อยลง
นี่คือ time management ที่เรียบง่าย และอยากให้ลองนำไปใช้กันครับ