และคนอื่นก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อทำตามความคาดหวังของเรา
ถ้าลองสำรวจตัวเอง เราจะพบว่าเราเสียเวลาไปกับเรื่องสองเรื่องนี้มากขนาดไหน
สมัยก่อน เราแค่ทำตามความคาดหวังของคนที่เราต้องเจอหน้าอย่างเพื่อนร่วมงานและคนในครอบครัวก็ตึงมือแล้ว
สมัยนี้มี social media มีคนพร้อมที่จะเห็นเราอยู่เป็นร้อยเป็นพันคน เราเลยยิ่งคิดมากขึ้นไปอีกว่า จะถ่ายรูปดีมั้ยนะ จะใช้ฟิลเตอร์ไหนดีนะ เขียนแคปชั่นแบบไหนถึงจะโดนนะ
ในทางกลับกัน มนุษย์เรานั้นก็ชอบตัดสินผู้อื่นเป็นทุนเดิม เห็นใครทำผิดก็อดไม่ได้ที่จะซ้ำเติมจนต้องมีสุภาษิตออกมาปรามว่าคนล้มอย่าข้าม
พอมี social media ความผิดพลาดของคนอื่นยิ่งถูกถ่ายทอดเป็นทวีคูณ และเราก็เคยเป็นหนึ่งใน “ชาวเน็ต” ที่เข้าไปวิจารณ์และตำหนิติเตียน แม้จะไม่ได้ทำให้เขาดีขึ้น แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกดีที่ได้ปลดปล่อย
ไลค์กันไปไลค์กันมา วิจารณ์กันไปวิจารณ์กันมา ในขณะที่วันเวลาก็เหลือน้อยลงทุกที
ถ้าเราไม่ต้องทำตามความคาดหวังใคร และไม่ได้คาดหวังให้ใครเป็นดั่งใจเรา
เราน่าจะได้ชีวิตและอิสรภาพทางจิตใจกลับคืนมาพอสมควรเลยนะครับ
ขอบคุณประกายความคิดจากหนังสือ กล้าที่จะถูกเกลียด 2