ถ้าทุกอย่างสำคัญมันจะไม่มีอะไรสำคัญ

20200902

เดือนที่แล้ว หลังจากการประกาศควบรวมของ LINE MAN และ Wongnai เรามีการจัด Townhall LINE MAN Wongnai เป็นครั้งแรก

และ “ยอด” ที่เป็น CEO ของ LINE MAN Wongnai ก็ประกาศ core values ของบริษัทดังนี้

#impact Be Result Oriented
#speed Is Everything
#grit Never Give Up
#passion Do What You Love; Love What You Do
#oneteam Begin with Trust

มีพนักงานคนหนึ่งถามว่า แล้ว #flexible ที่เคยเป็น core value มาก่อน ตอนนี้ไม่มีแล้วหรือ ซึ่งยอดก็อธิบายไปว่าด้วยความที่เราเป็นองค์กรที่ใหญ่ขึ้น และเราต้องมาโฟกัสธุรกิจ food delivery ความ flexible ก็ต้องลดดีกรีลงมา

ส่วนตัวผมคิดว่าความ flexible มันก็ยังมีอยู่แหละ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้สำคัญเท่า 5 ข้อแรกเท่านั้น

เพราะจริงๆ แล้ว “คุณค่าที่เรายึดถือ” ที่ LINE MAN Wongnai ก็มีอีกหลายข้อ เพียงแต่ไม่เคยสะกดออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร

integrity เราอยากให้พนักงานทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้ไม่มีใครเห็นก็ตาม

transparency เราสื่อสารอย่างโปร่งใส ไม่ปิดบังข้อมูลที่ไม่ได้เป็นความลับ

no jerks เราอยากได้คนที่นิสัยดี ไม่รังแกใคร ไม่เอาเปรียบคนอื่น

ยังมีหลักการอีกหลายอย่างที่อยู่ในองค์กร และเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญเช่นกัน แต่ถ้าเราลิสต์ออกมาเป็น core values ทั้งหมด เราอาจจะมี core values 10 ข้อ หรือ 15 ข้อ พอมันมีเยอะขนาดนั้นพนักงานก็จะจำไม่ได้ แล้วก็จะไม่รู้แล้วว่าข้อไหนสำคัญที่สุด

ส่วนตัวผมจึงเชื่อว่า core values ขององค์กรควรมีไม่เกิน 5 ข้อ ผู้บริหารต้องแยกแยะให้ได้ระหว่าง “สิ่งสำคัญมากๆ” กับ “สิ่งสำคัญที่สุด”

การแยกแยะในลักษณะนี้ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า discernment ซึ่งอาจจะเป็นคำศัพท์ที่เราไม่คุ้นเคย แต่ผมคิดว่ามันเป็นทักษะที่สำคัญมาก โดยเฉพาะในโลกที่หมุนเร็วและทางเลือกมีเป็นอเนกอนันต์

ถ้าทุกอย่างสำคัญมันจะไม่มีอะไรสำคัญ ถ้าทุกอย่างเร่งด่วนมันจะเหลืออะไรที่ด่วนเลย

แยกแยะให้เป็น ชีวิตจะได้ไม่ต้องรีบเร่งหรือเหนื่อยล้าจนเกินไปครับ