สิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อบ่ายวันเสาร์ผมเข้าไปปลุก “ใกล้รุ่ง” ลูกชายวัย 2 ขวบเพื่อเตรียมตัวไปงานแต่งงาน
จากมุมที่ผมยืนมองใกล้รุ่งนอนอยู่บนฟูกที่วางปูกับพื้น ผมแอบตกใจนิดๆ ว่าทำไมลูกตัวใหญ่จัง นี่ไม่ใช่เด็กทารกที่เป็นภาพจำของผมอีกต่อไปแล้ว มิน่าตอนอุ้มถึงได้ตัวหนักนัก
—–
วันก่อนเฟซบุ๊คโชว์รูปจากงานประกวดร้องเพลงของบริษัทเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ในรูปมีกันอยู่สี่คน ผมเป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ผู้หญิงทั้งสามไว้ผมบ๊อบยาวประบ่า ส่วนผมใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวและกางเกงสแล็คทรงกระบอก มันคือยุคก่อนที่กางเกงขาเดฟสไตล์พี่ตูนบอดี้แสลมจะฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง
คนในรูปหน้าตาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก แต่ชีวิตของแต่ละคนก็เดินทางมาไกลจากตอนนั้นพอสมควร
—–
ตอนที่พระเจ้าสร้างความทรงจำให้มนุษย์ เหมือนท่านจะไม่ได้มอบ sense of time หรือความตระหนักในห้วงเวลามาให้ด้วย
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบปีที่แล้วเลยรู้สึกว่าเพิ่งผ่านไปเพียงไม่นาน
ผมมีทฤษฎีว่า ยิ่งเราอายุมากขึ้นเท่าไหร่ เวลาจะหมุนเร็วมากขึ้นเท่านั้น แต่เรามักจะไม่รู้ตัว ต้องอาศัยเด็กที่กำลังโตหรือรูปเก่าๆ ถึงจะตระหนักถึงเวลาที่ได้จากเราไป
แม้แต่ละวันที่ประสบยังดูเชื่องช้าเหมือนเดิม แต่สิบปีที่กลายเป็นความทรงจำกลับผ่านไปราวกับพริบตาเดียว
“The days are long but the decades are short.”
-Sam Altman
อย่าดูดายกับหนึ่งวัน จะได้ไม่ต้องเสียดายกับสิบปีครับ