คลองไม่ได้เน่าในคืนเดียว

20180321_klong

Failure is simply a few errors in judgment, repeated every day.
-Jim Rohn

คนเราไม่สามารถอ้วนฉุได้ภายในข้ามคืน

ก่อนจะน้ำหนักถึง 100 กิโล เขาต้องเคยหนัก 50 กิโลมาก่อน แต่การตัดสินใจที่จะกินน้ำหวานแทนน้ำเปล่า ก็อาจจะทำให้พรุ่งนี้เขาหนักขึ้น 10 กรัม

100 วันก็ 1 กิโล
1000 วันก็ 10 กิโล
5000 วัน หรือ 13 ปี 8 เดือนก็ 50 กิโล
50+50 = 100 กิโลพอดี

ธุรกิจ(ส่วนใหญ่)ไม่สามารถเจ๊งได้ชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากการตัดสินใจผิดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำติดต่อกันทุกวัน เช่นปล่อยสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานออกไป รับคนจิตใจไม่ดีเข้ามาไว้ในองค์กร ย่อหย่อนเรื่องระเบียบวินัย และอีกหลายปัจจัยที่เป็นน้ำเซาะปราสาททรายให้พังครืนลงมาเมื่อถึงเวลาของมัน

คลองไม่ได้เน่าในคืนเดียว

คู่รักไม่ได้เลิิกกันเพราะมีปากเสียงแค่ครั้งเดียว

ชีวิตไม่ได้ล้มเหลวเพราะทำผิดแค่หนเดียว

วันนี้ลองสำรวจตัวเองดูนะครับ ว่ามีความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อะไรบ้างที่เราปล่อยให้เกิดมาช้านาน

แค่แก้ไขเรื่องนี้ ทิศทางชีวิตก็น่าจะดีขึ้นได้แล้ว

วันนี้คุณตั้งตารอสิ่งใด?

20180319_lookforwardto

“Make sure you have something every day you’re looking forward to. Have something every day that lights you up.”

“แต่ละวันจงหาอย่างน้อยหนึ่งเรื่องที่เราตั้งตารอ แต่ละวันจงทำอะไรซักอย่างที่ทำให้เราชื่นใจ”

-Soman Chainani

ผมเป็นคนออกไปทำงานค่อนข้างสาย กิจวัตรตอนเช้าอย่างหนึ่งคือรอเล่นกับ “ปรายฝน” ลูกสาววัยสองขวบกว่า ตอนที่เขาตื่นนอนใหม่ๆ

เมื่อกี้ปรายฝนก็เพิ่งตื่นนอน พร้อมพูดซ้ำๆ ว่า “ถั่วหายแล้วอ่ะๆๆ” สงสัยก่อนตื่นคงกำลังฝันว่ากำลังกินถั่วอย่างเอร็ดอร่อยอยู่แน่ๆ

การได้กอดลูกทุกเช้าก่อนไปทำงานสร้างพลังให้เราได้ไม่น้อยเลย

แต่ละวันมีอะไรที่คุณตั้งตารอบ้างรึเปล่า?

สำหรับคนที่เกลียดวันจันทร์ รักวันศุกร์ อาจจะตอบว่า “ไม่มีเลย”

แต่ถ้าเราต้องใช้เวลา 5 ใน 7 ของชีวิต ไปกับการทนอยู่ทนทำไปให้หมดวัน มันก็ดูโหดร้ายกับตัวเองไปหน่อย

ลองหาอะไรที่เราตั้งตารอที่จะได้เจอตอนไปทำงานกันดีมั้ย?

อาจจะเป็นหนุ่มหรือสาวที่เราแอบปลื้ม

หรือร้านกาแฟที่เราต้องแวะซื้อทุกเช้า

หรือการเมาธ์มอยกับเพื่อนเรื่องออเจ้า

หรืออาจจะเป็นการสร้างความคืบหน้ากับงานที่เราหมายมั่นปั้นมือ

เกิดเป็นผู้ใหญ่ ยังไงก็เลี่ยงการมาทำงานไม่ได้อยู่แล้ว แทนที่จะกัดฟันกล้ำกลืน สู้หาแง่มุมที่เราจะมีความสุขไปกับมันน่าจะดีกว่านะครับ

ถ้ามันง่ายหน้าตาจะเป็นยังไง?

20180318_easy

ถามหนึ่งที่ผมใช้บ่อยๆ ในช่วงนี้ก็คือ

“What would this look like if it were easy?”

ซึ่งเป็นคำถามที่ผมได้มาจาก Tim Ferriss ผู้เขียนหนังสือ The 4-Hour Work Week ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นตัวจุดกระแสเรื่องการลาออกมาเป็นเจ้านายตัวเองในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

ทิมยังทำพอดคาสท์ The Tim Ferriss Show ซึ่งเป็นหนึ่งในพอดคาสท์ที่มีคนฟังมากที่สุดในโลก

ก่อนที่ทิมจะเริ่มทำพอดคาสท์ เขาเริ่มสำรวจดูพอดคาสท์ของคนอื่นๆ แล้วพบว่าพอดคาสท์ส่วนใหญ่ทำออกมาได้แค่ 3 ตอนแล้วก็ต้องหยุดไป เหตุผลหลักเพราะว่าแต่ละตอนต้องใช้เวลาและพลังในการตัดต่อเยอะมาก จนคนทำหมดกำลังทรัพย์หรือท้อถอยไปเสียก่อน

ทิมเลยตัดสินใจว่าพอดคาสท์ของเขาจะทำเป็นการสัมภาษณ์ยาวๆ (long form interview) เพื่อให้มีการตัดต่อให้น้อยที่สุด จนวันนี้เขามีพอดคาสท์ออกมาแล้วถึง 264 ตอน และมียอดดาวน์โหลดรวมกันแล้วเกิน 100 ล้านครั้ง

ปีที่ผ่านมาทิมมีอายุครบ 40 ปี และเจอวิกฤติวัยกลางคนว่าจะเอายังไงต่อกับชีวิต มีคำถามมากมายที่ไม่รู้คำตอบ และมีคนมากมายที่เขาอยากจะขอคำปรึกษา ระหว่างที่กำลังกลุ้มใจ คำถามนี้ก็วิ่งเข้ามาในหัว

What would this look like if it were easy?

แล้วทิมก็คิดได้ว่า ทำไมไม่ลองส่งคำถามที่เขามีไปทางอีเมลหาคนที่เขาชื่นชม และดูว่าเขาจะตอบมารึเปล่า?

เขาเริ่มต้นด้วยการลิสต์รายชื่อคนที่เขาอยากคุยด้วย (ซึ่งหลายคนก็เคยมาสัมภาษณ์ในพอดคาสท์เขาแล้ว) และส่งคำถาม 11 คำถามไปหาพวกเขาเหล่านั้น

เวลาผ่านไปไม่นาน ทิมได้คำตอบมาจากคนที่เขาชื่นชมมากกว่า 100 คน จนเป็นที่มาของหนังสือ Tribe of Mentors ซึ่งมีความหนาถึง 600 หน้า

เวลาที่เรามีงานสักชิ้น และงานชิ้นนั้นมันใหญ่จนเรารู้สึกท้อ ลองถามตัวเองดูนะครับว่า วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้งานชิ้นนี้สำเร็จคือวิธีไหน

ไม่ได้จะสนับสนุนให้เรามักง่ายหรือทำงานชุ่ยๆ แต่เพราะผมเชื่อว่าผู้อ่านบล็อกนี้เป็นคนมีคุณภาพและมาตรฐานสูงอยู่แล้ว บางทีอาจสูงเกินความจำเป็นจนเราไม่กล้าแม้กระทั่งจะเริ่มต้น

ลองมองหาวิธีที่ง่ายที่สุดก่อน อาจจะเป็นการขอความช่วยเหลือ อาจจะเปลี่ยนช่องทางในการนำเสนอ อาจเป็นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย มีหลายวิธีเหลือเกินที่จะพาเราไปถึงเส้นชัยได้โดยที่ไม่ต้องเหนื่อยสายตัวแทบขาด ส่วนถ้าคิดได้แล้วมันยังง่ายเกินไป ยังได้ผลดีไม่พอ อยากจะทำให้ยากขึ้นก็เป็นเรื่องของเราแล้ว

What would this look like if it were easy?

ถ้ามันง่ายหน้าตาจะเป็นยังไง? หรือ วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำเรื่องนี้คือวิธีไหน?

บางทีคำตอบอาจจะง่ายกว่าที่คุณคิดนะครับ

เล่นเกมเก่งแค่ไหน

20180318_game

ไม่สำคัญเท่าเลือกเล่นเกมอะไร

“It’s now how good you play the game. It’s deciding what game you want to play.”
-Kwame Appiah

ในเกมการเรียน บางคนสอบผ่านเพราะตั้งใจเรียน บางคนสอบผ่านเพราะเรียนพิเศษ บางคนสอบผ่านเพราะลอกข้อสอบ และบางคนไม่ต้องสอบก็ได้เลื่อนชั้น

ในเกมการเป็นพนักงาน บางคนอาจจะเติบโตเพราะทำงานเก่ง บางคนเติบโตเพราะพูดเก่ง และบางคนก็เติบโตเพราะเล่นการเมืองเก่ง

ในเกมชีวิต บางคนทำธุรกิจประสบความสำเร็จ บางคนถูกตามติดด้วยสปอตไลท์ไปทุกที่ ในขณะที่บางคนปฏิเสธชื่อเสียงเงินทอง และเล่นเกมภาวนาเพื่อแสวงหาความหลุดพ้น

แต่ละช่วงเวลาชีวิต เกมที่สมควรเล่นอาจแตกต่างกัน จึงต้องเลือกให้ดีๆ

เพราะเมื่อถึงตอน game over เราอาจไม่มีโอกาสกลับมาเล่นใหม่นะครับ

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขา

20180317_onethem

เห็นเพื่อนอกหักกินไม่ได้นอนไม่หลับ

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขาก็ได้

เห็นแม่ขี้บ่น

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขาก็ได้

เห็นคนเช้าชามเย็นชาม

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขาก็ได้

เห็นคนปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนดูแก่กว่าวัย

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขาก็ได้

เห็นคนเหลิงอำนาจ

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขาก็ได้

เห็นลุงแก่ๆ นั่งรถเข็นเป็นไม้ใกล้ฝั่ง

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขาก็ได้

—–

เห็นรุ่นพี่จบเกียรตินิยม

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขาก็ได้

เห็นเพื่อนร่วมงานได้เป็นหัวหน้า

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขาก็ได้

เห็นคนขายของออนไลน์ส่งของทีเป็นร้อยชิ้น

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขาก็ได้

เห็นเจ้าของบริษัทขึ้นปกหนังสือ

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขาก็ได้

เห็นคนขึ้นพูดบนเวที TED

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขาก็ได้

เห็นพี่ตูนทำความดี

วันหนึ่งเราอาจเป็นแบบเขาก็ได้

มนุษย์เราต่ำได้เท่าโมหะ

และสูงได้เท่าความเพียรครับ