The difference between stupidity and genius is that genius has its limits.
ความแตกต่างระหว่างความงี่เง่ากับอัจฉริยภาพก็คือ อัจริยภาพนั้นมีขีดจำกัด
– Albert Einstein
—–
เหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ผ่านไปสามวันแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ยังคอยมากวนใจผมอยู่เรื่อยๆ
จากข้อมูลล่าสุด คนลงมือเหมือนจะเป็นชาวต่างชาติที่สะพายเป้เข้ามาที่จุดเกิดเหตุ วางเป้ (ที่น่าจะมีระเบิด) ไว้ตรงรั้ว ทำทีเป็นถ่ายรูปศาลพระพรหม และเดินออกมาจากจุดนั้นโดยที่ไม่ได้เอาเป้ไปด้วย
วันนี้ในไลน์มีคนแชร์เอกสารรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งแสดงให้เห็นเส้นทางของชายคนนี้ตั้งแต่ตอนลงจากรถตุ๊กๆ จนถึงตอนที่นั่งมอเตอร์ไซค์มาถึงศาลาแดง
ดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ
—–
ถ้าคนๆ นี้เป็นคนลงมือจริง (จะโดยมีใครจ้างมาหรือไม่ก็ตาม) ผมก็อยากรู้จริงๆ ว่าเขารู้ตัวรึเปล่าว่าสิ่งที่เขาทำลงไปมันร้ายแรงแค่ไหน?
ผมกำลังกังวลว่า เขาอาจจะคิดด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เขาทำไปมันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร
ซึ่งมันก็ทำให้ผมนึกถึงตอนหนึ่งของวรรณกรรมอมตะอย่างเจ้าชายน้อย
ผมขออนุญาตคัดลอกมาจาก คุณ TrueLoveMe แห่ง DiaryClub นะครับ:
—–
วันที่ห้า …
เพราะเรื่องแกะอีกแล้วที่ทำให้ผมล่วงรู้ความลับเกี่ยวกับตัวเจ้าชายน้อย
เขาถามโดยไม่ทันให้ผมตั้งตัวราวกับเป็นปัญหาที่ค้างคาอยู่ในใจมานาน
” เมื่อแกะกินพุ่มไม้แล้ว เขาจะกินดอกไม้ด้วยหรือเปล่า ”
” แกะจะกินทุกอย่างนั่นแหละ ”
” รวมทั้งดอกไม้ที่มีหนามด้วยหรือ ”
” ใช่ รวมทั้งดอกไม้ที่มีหนามด้วย ”
” ถ้าอย่างนั้นหนามจะมีประโยชน์อะไรล่ะ ”
ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมกำลังวุ่นวายมากกับการพยายามถอดเกลียวที่ติดแน่นเกินไปในเครื่องยนต์ ผมเริ่มจะกังวลอย่างจริงจัง เพราะการเสียของเครื่องยนต์กำลังกลายเป็นเรื่องหนักหนา และการจะหมดลงของน้ำดืมก็เป็นเรื่องที่น่าหวาดหวั่นอยู่มาก
” ดอกไม้มีหนามไว้ทำไม ”
เจ้าชายน้อยไม่เคยยอมยุติคำถามที่เขาตั้งขึ้นมาเลย
ผมกำลังหงุดหงิดกับเจ้าเกลียวนั่น ก็เลยตอบส่งๆ ไปว่า
” หนามน่ะ ไม่ได้มีไว้ทำไมหรอก มันเป็นความชั่วร้ายของพวกดอกไม้มากกว่า ”
” โอ … ” หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงขมขื่นว่า
” ผมไม่เชื่อคุณหรอก ดอกไม้น่ะอ่อนแอมาก เธอไม่มีพิษสงอะไรเลย เธอต้องป้องกันตัวเองเท่าที่สามารถทำได้ และเธอก็คิดว่าเธอดูน่ากลัวแล้ว กับแค่การมีหนามไว้ป้องกันตัว … ”
ผมไม่พูดอะไร เพราะกำลังนึกในใจว่า ถ้าแกยังเกเรอยู่ละก็ เจ้าเกลียวเอ๋ย ฉันจะทุบแกด้วยค้อนนี่แหละ คอยดูสิ แต่เจ้าชายน้อยก็กวนอีก
” แล้วคุณคิดว่าดอกไม้ … ”
” ไม่หรอก ฉันไม่คิดอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันกำลังยุ่งอยู่นะ กับงานที่ต้องเอาจริงเอาจังมากด้วย”
เขายืนมองอย่างงุนงง
” งานที่ต้องเอาจริงเอาจัง ”
เขามองผมกับค้อนในมือ มองนิ้วมือเปรอะคราบน้ำมัน และการก้มหน้าก้มตาสาละวันกับเจ้าสิ่งที่เขาเห็นว่าน่าเกลียด
” คุณพูดเหมือนพวกผู้ใหญ่ ”
ผมเริ่มรู้สึกละอายใจ แต่เขาก็พูดอย่างสุภาพว่า
” คุณแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร คุณกำลังสับสนมากนะ ”
ท่าทางเขาค่อยข้างจะฉุนเฉียว เขาสะบัดผมสีทองไปตามลม
” ผมรู้จักดวงดาวหนึ่งที่นายแดงอาศัยอยู่ เขาไม่เคยเชยชมดอกไม้ ไม่เคยแหงนมองดวงดาว เขาไม่เคยรักใคร ไม่เคยทำอะไรนอกจากนั่งคิดเลข แล้วตลอดทั้งวันก็เฝ้าพูดซ้ำซากว่า ‘ฉันเป็นคนเอาจริงเอาจัง ฉันเป็นคนเคร่งเครียด’ นั่นทำให้ตัวเขาพองด้วยความหยิ่งจองหอง แต่เขาไม่ใช่คนหรอก เขาเป็นเห็ด ”
” เป็นอะไรนะ ”
” เป็นเห็ดน่ะสิ ”
เจ้าชายน้อยโกรธจนหน้าซีดเผือด
” เป็นเวลาหลายล้านปี ที่ดอกไม้ได้สร้างหนามออกมา และก็หลายล้านปีเหมือนกันที่แกะกินดอกไม้เข้าไป มันไม่ใช่เรื่องที่น่าเอาจริงเอาจังหรอกหรือ กับการค้นหาว่าดอกไม้สร้างหนามเหล่านั้นออกมาทำไม
สงครามระหว่างแกะกับดอกไม้ไม่มีความสำคัญเลยหรือ
มันไม่ใช่เรื่องน่าขบคิดมากกว่าพวกตัวเลขของนายแดงอ้วนนั่นเลยใช่ไหม
และถ้าผมรู้จักดอกไม้สักดอกที่มีเพียงดอกเดียวบนดาวของผมเท่านั้น
แล้วก็มีแกะน้อยตัวหนึ่งสังหารดอกไม้ โดยไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปนี่ ยังไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกหรือ ”
—–
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ดอกไม้ถูกกิน
แต่เป็นเรื่องน่าเศร้ายิ่งกว่าที่แกะตัวนั้นไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันทำอะไรลงไป
วันจันทร์ที่ผ่านมา แกะตัวหนึ่งกินดอกไม้ไปหลายดอก
ความงี่เง่าของมนุษย์ไม่มีขอบเขตจริงๆ
—–
ขอบคุณภาพจาก Wikimedia
ขอบคุณเนื้อความเจ้าชายน้อยจาก TrueLoveMe Diary Club
อ่านตอนเก่าๆ ได้ที่ https://anontawong.com/archives/
อ่านตอนใหม่ๆ ได้ทุกวันที่ Facebook Page Anontawong’s Musings (ถ้ากด Get Notifications ใต้ปุ่ม Like หรือเลือก Show First ใต้ปุ่ม Following ก็จะไม่พลาดตอนใหม่ครับ)
ดาวน์โหลดอีบุ๊ค “เกิดใหม่”