หยุดต่อรองกับตัวเอง

James Clear ผู้เขียน Atomic Habits เคยเล่าถึงเพื่อนคนหนึ่งที่มีภาระหน้าที่มากมาย แต่เขาก็ตัดสินใจว่าจะเขียนหนังสือ

พอเจมส์ถามเขาว่าหาเวลาที่ไหนเขียนหนังสือ เพื่อนก็ตอบว่า

“ผมตื่นนอนตอนตี 5 ชงกาแฟ แล้วผมก็เริ่มต้นเขียนหนังสือตั้งแต่ตีห้าครึ่งถึงเจ็ดโมงเช้าทุกวัน ผมทำอย่างนี้มา 9 วันแล้ว และจะทำไปเรื่อยๆ จนกว่าหนังสือจะเสร็จ”

เจมส์รู้ทันทีว่าเพื่อนคนนี้จะเขียนหนังสือสำเร็จแน่ เพราะเขาได้ออกแบบไลฟ์สไตล์ของเขาเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้

วิธีการนี้มีอยู่สองส่วนด้วยกัน

หนึ่ง เราต้องออกแบบวันของเราเพื่อให้เราทำสิ่งนั้นโดยอัตโนมัติ

สอง เราต้องไม่ต่อรองกับตัวเอง

เพราะคนจำนวนไม่น้อยชอบพูดกับตัวเองว่า “ตอนนี้ยังไม่ค่อยอยากทำ ไว้เดี๋ยวค่อยทำก็แล้วกัน” เมื่อเราคิดอย่างนี้ก็เรียกได้ว่าแพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง

สัปดาห์ที่แล้วหลายคนคงเคยได้ยินอาจารย์ชัชชาติให้สัมภาษณ์ว่าการวิ่งออกกำลังกายที่สวนลุมทุกเช้าคือหินก้อนใหญ่ เขาจึงทำมันทุกวันโดยไม่มีข้อแม้

“หินก้อนใหญ่” นั้นมาจากเรื่องราวในหนังสือ First Things First ของ Stephen Covey ที่บอกว่าโถแก้วของคนเรามีขนาดจำกัด ถ้าเราใส่ทรายลงไปก่อน เราจะไม่มีพื้นที่สำหรับใส่หินก้อนใหญ่เลย แต่ถ้าเราใส่หินก้อนใหญ่ลงไปก่อนเราจะมีพื้นที่ให้ใส่ทรายเสมอ

สูตรของคนสำเร็จคือการออกแบบชีวิตให้มีโอกาสได้ทำสิ่งสำคัญในทุกวัน

และเมื่อถึงเวลาทำสิ่งนั้นเราจะต้องไม่ต่อรองกับตัวเองครับ

พิสูจน์ให้ตัวเองเห็นเป็นคนแรก

James Clear ผู้เขียนหนังสือ Atomic Habits บอกไว้ว่า วิธีการสร้างอุปนิสัยใหม่ๆ นั้นมีสองขั้นตอนด้วยกัน

  1. ตัดสินใจว่าเราอยากเป็นคนแบบไหน
  2. พิสูจน์ให้ตัวเองเห็นด้วยการทำเรื่องง่ายๆ ให้สำเร็จ

สมมติว่าเราอยากเป็นคนที่ดูแลสุขภาพมากกว่าเดิม วิธีการง่ายๆ ก็อาจจะเป็นการเข้าแอปสั่งอาหาร ค้นหาคำว่าสลัด และสั่งมากินเป็นมื้อเย็น

หรือถ้าเราอยากเป็นคนที่ใช้เวลากับมือถือให้น้อย ก็อาจจะชาร์จมือถือทิ้งไว้นอกห้องนอนตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ

ถ้าเราอยากเป็นคนที่เติบโตขึ้นทุกวัน ก็อ่านหนังสือดีๆ เป็นสิ่งแรกตอนตื่นนอนหรือสิ่งสุดท้ายตอนเข้านอน แค่วันละ 2-3 หน้าก็พอ

ไม่จำเป็นต้องเล็งผลเลิศ ไม่จำเป็นต้องเห็นความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ แค่เห็นความเปลี่ยนแปลงทางการกระทำก็พอ

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือทำให้ตัวเองเชื่อก่อนว่าเราสามารถเปลี่ยนเป็นคนที่ดีกว่าเดิมได้ครับ

ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าความกระตือรือร้น

สิ้นเดือนที่หนึ่งของปี 2021 แล้ว

ใครมี New Year’s Resolutions ที่กำลังหลุดลอยขอให้ยกมือขึ้น!

ทุกต้นปีเราจะมีเป้าหมายใหม่ๆ ที่แสนเร้าใจและชวนเราออกไปแตะขอบฟ้า

แต่เมื่อกลับมาเจอชีวิตจริงที่ต้องเข้าออฟฟิศ เจองานด่วนงานแทรก ไหนจะสิ่งล่อตาล่อใจอีกมากมาย ความเป็นไปได้ที่จะบรรลุเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ก็ลดน้อยถอยลง

ใครที่คิดว่าปีนี้จะเหมือนกับปีก่อนๆ ที่ฮึดได้แค่ไม่กี่สัปดาห์แล้วก็เข้าอีหรอบเดิม ขอให้ท่องประโยคนี้เอาไว้:

ความสม่ำเสมอสำคัญกว่าความกระตือรือร้น

ตอนต้นปีเรามีความกระตือรือร้นมากมาย แต่ความกระตือรือร้นนั้นมาแล้วก็ไป พึ่งพาได้ไม่นาน

สิ่งที่พึ่งพาได้มากกว่าคือความสม่ำเสมอ

ถ้าอยากลดน้ำหนัก การเข้าฟิตเนสรวดเดียว 10 ชั่วโมงคงไม่ได้พาเราไปสู่เป้าหมาย แต่การเข้าฟิตเนสคราวละ 20 นาทีทุกวันตลอด 1 เดือน รวมเวลาออกกำลังกายก็ 10 ชั่วโมงเท่ากันแต่ผลลัพธ์ย่อมต่างกันและมีโอกาสจะยืนระยะได้นานกว่า

ความสม่ำเสมอจึงสำคัญกว่าความกระตือรือร้น

ไม่ต้องทำอะไรยิ่งใหญ่ ไม่ต้องใช้ motivation อะไรมากมาย แค่ทำเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ที่เรารู้ว่าอยู่แก่ใจว่ากำลังพาเราไปในทิศทางที่ถูกต้อง

ใจเย็นๆ อย่ารีบร้อน หัดเป็นคนที่รอได้

แล้วขอบฟ้าไหนก็ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ

เป้าหมายไม่ได้เปลี่ยนชีวิตเรา

20200503

สิ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตเราได้จริงๆ คือไลฟ์สไตล์

เพราะถ้าไลฟ์สไตล์ไม่สอดคล้องกับเป้าหมาย ก็ไม่มีทางไปถึงเป้าหมายได้

และถ้าถึงเป้าหมายแล้วไม่รักษาไลฟ์สไตล์เอาไว้ เราก็จะกลับเข้าสู่วงจรเก่าหรือที่เราเรียกกันว่าโยโย่

เป้าหมายที่จะลดน้ำหนัก 5 กิโล จึงไม่สำคัญเท่าการกินข้าววันละ 2 มื้อ

เป้าหมายที่จะมีเงินล้าน จึงไม่สำคัญเท่านิสัยใช้เงินให้น้อยกว่าที่หามาได้

เป้าหมายที่จะไปมาราธอน จึงไม่สำคัญเท่าการวิ่งสัปดาห์ละสามครั้ง

“Goals don’t change your life. Lifestyles do.”
-James Clear

เป้าหมายมีวันหมดอายุ แต่ไลฟ์สไตล์อยู่กับเราไปได้ทั้งชีวิตครับ

ทำทุกวันแล้วมันจะง่าย

2020025c

มีคนเคยถามผมว่าเขียนบล็อกทุกวันยากมั้ย

ผมตอบว่ายาก แต่ไม่ยากเท่าเขียนบล็อกวันเว้นวัน

เพราะอะไรที่เราทำทุกวันมันจะกลายเป็นนิสัย ไม่ต่างอะไรกับการแปรงฟัน

ผมเรียนภาษาจีนด้วยโปรแกรม Drops มาได้หลายเดือนแล้ว ช่วงแรกๆ นั้นรู้สึกว่ายาก เพราะเรียนๆ หยุดๆ กลับมาทำแบบฝึกหัดแต่ละครั้งก็จำอะไรไม่ค่อยได้ เลยรู้สึกไม่ค่อยดี ก็เลยไม่ค่อยอยากเรียน เลยทำให้ขาดความต่อเนื่องยิ่งกว่าเดิม

แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผมลองตั้งใจเรียนทุกวันดู แล้วปรากฎว่ามันง่ายกว่าเดิม สามารถทำแบบฝึกหัดได้โดยแทบไม่ต้องพยายาม เพราะเนื้อหาของเมื่อวานยังไม่เลือนหายไปไหน

ทำทุกวันแล้วมันจะง่าย

ใช้ได้กับทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการเขียนบล็อก การเรียนรู้ การออกกำลังกาย หรือการภาวนาครับ

—–

“ช้างกูอยู่ไหน” หนังสือเล่มใหม่ของผมที่ว่าด้วยการลดทอนสิ่งที่ไม่ใช่ออกไปจากชีวิต มีวางขายที่นายอินทร์ ซีเอ็ด B2S Asia Books และ Kinokuniya แล้วนะครับ อ่านรายละเอียดได้ที่ bit.ly/eitrfacebook และอ่านรีวิวได้ที่นี่ครับ bit.ly/eitrreportingengineer

80507942_579966649467475_5144866110411112448_n