สิ่งที่เราเจอ คนอื่นก็เจอเหมือนกัน สิ่งที่คนอื่นเจอ เราเองก็จะเจอเหมือนกัน

นิสัยถาวรอย่างหนึ่งของมนุษย์ คือการชอบนึกว่าเราพิเศษกว่าคนอื่น

ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ

ใครที่ชอบบ่นกับตัวเองว่า “ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องแย่ๆ อย่างนี้ด้วย” นั่นคือสัญญาณบ่งบอกถึงการคิดว่าตัวเองพิเศษกว่าคนอื่นในเรื่องร้ายๆ

แต่ถ้าลองคิดให้ดี เราจะรู้ตัวว่าเราไม่ได้โชคร้ายแบบนี้แค่คนเดียว มีคนโชคร้ายแบบเราอีกเยอะแยะ และมีอีกมากมายที่โชคร้ายกว่าเราไม่รู้ตั้งกี่เท่า

ในมุมกลับกัน เวลาเราเห็นเรื่องดราม่าบางอย่างเกิดขึ้น เราก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปร่วมติดตามและร่วมตัดสินตัวละครในดราม่านั้น

การที่เราเสพติดดราม่า ผมคิดว่าหนึ่งเพราะว่ามันสนุก มีพระเอกและผู้ร้ายค่อนข้างชัดเจน สองคือเราได้รู้สึกว่าเรา “เหนือกว่า” ในแง่ศีลธรรม (moral superiority)

บางดราม่าอาจจะมีคนมีชื่อเสียงเกี่ยวพันด้วย แต่หลายครั้งตัวละครในดราม่าก็เป็นคนธรรมดา ต้นเหตุดราม่าอาจเป็นเพียงน้ำผึ้งหยดเดียว หรืออาจเป็นนิสัยและพฤติกรรมสีเทาบางอย่างที่เราเองก็เคยทำ

มีใครบางคนเคยบอกไว้ว่า อาชญากรนั้นจริงๆ แล้วเขาก็เหมือนกับเรานั่นแหละ ต่างกันเพียงแค่เขาโดนจับได้เท่านั้นเอง

วันหนึ่งถ้าพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกในจังหวะที่เราทำผิด เราก็อาจมีสิทธิ์ได้เข้าไปเป็นตัวละครในดราม่าให้คนอื่นตัดสินเช่นกัน

เราจึงควรย้ำเตือนตัวเองไว้เสมอว่าเราไม่ได้พิเศษไปกว่าใคร จะได้ไม่น้อยใจในโชคชะตาและไม่ย่ามใจในการกระทำบางอย่างของตน

เพราะสิ่งที่เราเจอ คนอื่นก็เจอเหมือนกัน

และสิ่งที่คนอื่นเจอ วันหนึ่งเราเองก็จะเจอเหมือนกันครับ


ป.ล.อ่านบทความนี้จบแล้วลองฟังเพลง Anyone of Us ของ Gareth Gates ก็จะได้อรรถรสไม่น้อยครับ