นิทานไก่คนละตัว

วันนี้วันศุกร์ มาฟังนิทานกันนะครับ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระเจ้าตัดสินใจยึดทรัพย์สมบัติของมนุษย์ทุกคนบนโลก

ประชาชนต่างไม่มีอาหารกินและต้องอยู่กันอย่างอดอยาก

เมื่อผ่านไปได้สามวันสามคืน พระเจ้าจึงประทานไก่มาให้มนุษย์คนละ 1 ตัว

มนุษย์กลุ่มแรกดีใจอย่างล้นเหลือ พวกเขาลงมือฆ่าไก่และทำอาหารกินกันอย่างเอร็ดอร่อย มีบางคนที่ตอนแรกยังไม่รู้จะเอายังไงดี แต่พอได้เห็นสีหน้าของคนที่ได้กินไก่อย่างมีความสุขจึงอดไม่ได้ที่จะฆ่าไก่ของตัวเองมาทำกินบ้าง

มนุษย์กลุ่มที่สองนั้นก็หิวมากเหมือนกัน แต่บางคนก็รู้ว่าไก่ที่เขาได้นั้นเป็นไก่ตัวเมีย พวกเขาเลยทนหิวและดูแลแม่ไก่จนมันออกไข่วันละฟองมาให้พวกเขาได้กิน แน่นอนว่ามันไม่พอให้ท้องอิ่ม แต่ก็มากพอที่พวกเขาจะไม่อดตาย ส่วนคนที่ได้ไก่ตัวผู้แต่ก็กลั้นใจไม่ฆ่ามันก็เลี้ยงไก่ไว้เพื่อให้มันคอยขันปลุกให้คนในกลุ่มตื่นขึ้นมาเลี้ยงดูไก่ตัวเมีย และพวกเขาก็ได้ไข่เป็นค่าตอบแทน

ส่วนมนุษย์กลุ่มที่สามนั้น เข้าไปเชิญชวนมนุษย์กลุ่มที่สองว่า “เอาไก่ของคุณมาผสมพันธุ์กับไก่ของเราสิ เราจะได้มีลูกไก่ เมื่อลูกไก่โตขึ้น มันจะวางไข่ให้คุณทุกวันเลยนะ มนุษย์กลุ่มที่สองคิดว่าไม่มีอะไรเสียหาย แถมยังได้ไข่เพิ่มวันละฟองด้วย ก็เลยตอบตกลง

แล้วเรื่องราวก็ดำเนินไปเช่นนี้วันแล้ววันเล่า

มนุษย์กลุ่มแรกนั้นหิวโหยและผอมโซ พวกเขาตัดพ้อพระเจ้าว่าทำไมถึงหยุดประทานไก่มาให้พวกเขา

มนุษย์กลุ่มที่สองนั้นได้กินไข่ไก่ของตัวเอง และได้ไข่ไก่อีกฟองมาจากกลุ่มที่สาม จึงใช้ชีวิตอันน้อยนิดของตนอย่างมีความสุข

มนุษย์กลุ่มที่สามนั้นมีลูกไก่เยอะจนตัวเองเลี้ยงไม่ไหว ก็เลยกลับไปถามกลุ่มที่หนึ่งว่าสนใจมาเลี้ยงไก่ให้พวกเขามั้ย จะให้ค่าตอบแทนเป็นไข่วันละฟอง

สังคมแห่งความเท่าเทียมที่เริ่มต้นจากทุกคนมีไก่คนละตัว เมื่อวันเวลาผ่านไปจึงเริ่มมีคนจน คนชั้นกลาง และคนรวย

แล้วไม่นานนักบทสวดมนต์โศลกนี้จึงเกิดขึ้น

“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดยึดทรัพย์สินของทุกคนและมอบความยุติธรรมแด่ผองเราด้วย”


ขอบคุณนิทานจาก Quora: Forrest Taylor’s answer to Why do the rich become richer and the poor poorer?